อาหารจีน จากชาวจีนอพยพย้ายถิ่นฐานบ้านช่องมาอยู่ที่เมืองไทยกันมากขึ้นตั้งแต่สมัยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทำให้วัฒนธรรมไทยและจีนกลมกลืนกันไปรวมทั้งเรื่องอาหารการกินซึ่งมีเมนูอาหารจีนที่คุ้นลิ้นคุ้นรสชาติอร่อยถูกปากคนไทยหลากหลายเมนู อีกทั้งชาวจีนที่อพยพเข้ามาก็มาจากหลายมณฑลของจีนทั้งชาวจีนฮกเกี้ยน จีนแต้จิ๋ว และจีนไหหลำ เป็นต้น จึงทำให้เราคนไทยในปัจจุบันได้ลิ้มลองเมนูอาหารจีนแสนอร่อยหลากหลายประเภท วันนี้เราจึงคัดเลือกเมนูอาหารจีนที่อร่อยคุ้นลิ้นมาฝากกันค่ะ

แนะนำ 3 อาหารจีน กับรสชาติแสนอร่อย บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเด็ดขาด จะมีเมนูไหนบ้าง ?

• เมนูอาหารจีนแรกที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ เป็ดย่างเนื้อนุ่ม แสนอร่อย หนังกรอบไม่กรอบก็แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล เราจะเห็นเป็ดย่างแขวนอยู่ในตู้กระจกตามร้านอาหารจีนมากมายซึ่งยั่วน้ำลายสออยากให้เราเข้าไปลิ้มลองรับประทาน อีกทั้งเมนูอาหารจีนอย่างบะหมี่เป็ดย่างก็อร่อยถูกปากถูกใจใครหลาย ๆ คนอีกด้วย

• เมนูอาหารจีนถัดมาที่เรารู้จักกันดีคือ ผัดเปรี้ยวหวานหมู หรือปลาที่อร่อยล้ำเลิศซึ่งเมนูนี้ต้องนำเนื้อสัตว์ไปคลุกแป้งและทอดให้เหลืองกรอบก่อนนำมาผัดพร้อมมะเขือเทศ พริกหวาน สับปะรด และต้นหอม พร้อมทั้งปรุงรสด้วยซอสสูตรพิเศษ เพียงเท่านี้ผัดเปรี้ยวหวานก็เป็นเมนูอาหารจีนสุดแสนอร่อยแล้วค่ะ

• เมนูอาหารจีนสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ ผัดผักมังกร แค่ชื่อก็อลังการและเป็นมงคลแล้วใช่ไหมค่ะ???  ชาวจีนนิยมรับประทานผักกันมากเพราะสมัยก่อนเนื้อสัตว์เป็นของหายากและราคาแพง ทำให้ผัดผักเป็นเมนูอาหารจีนที่ต้องทำขึ้นโต๊ะรับประทานทุกมื้อ  และผัดผักมังกรก็เป็นเมนูอาหารจีนแสนอร่อยที่หารับประทานยาก ส่วนมากเราจะคุ้นเคยกับผัดผักกวางตุ้งมากกว่า   

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมนูอาหารจีนแสนอร่อยที่เรานำมาฝากจะถูกใจคุณนะค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจีนแสนอร่อยอีกนับพันเมนูที่อร่อยถูกปากคุณ เช่น ซุปลูกชิ้นกุ้งผักปวยเล้ง ผัดผักสี่สหาย ผัดหมี่กระเฉดกุ้งสด เป็นต้น

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ มาเลือกอาหาร เมนูปิ้งย่าง สำหรับการไปแคมปิ้งกันเถอะ บอกเลยฟินสุด ๆ

อาหารเวียดนาม เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อว่าอร่อย มีหลายเมนู เช่น เมนูต้ม ผัด แกง ทอด และปิ้งย่าง รสชาติไม่จัดจ้านหรือเผ็ดร้อนมากนัก มีผักเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น แหนมเนือง เฝ๋อ เป็นต้น

อาหารเวียดนามมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะอาหารเวียดนามที่เป็นสูตรตันตำรับ และมีเคล็ดลับความอร่อยที่ขึ้นชื่อ มีดังนี้ อาหารหลักของคนเวียดนาม หรืออาหารประจำชาติ มีลักษณะและความโดดเด่นที่เป็นการเฉพาะตัว คนเวียดนามกินข้าว เป็นอาหารหลักเหมือนบ้านเรา มีอาหารจีนและฝรั่งเศสปะปนอยู่บ้างก็ไม่มาก เนื่องจากประเทศทั้ง 2 มีอิทธิพลกับเวียดนามอยู่ไม่น้อย อาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักดีได้แก่ แหนมเนือง ขนมเบื้องญวน และเฝ๋อ เป็นต้น

อาหารเวียดนาม มีลักษณะและความโดดเด่นที่เป็นการเฉพาะตัว โดยเฉพาะสูตรตันตำรับ

อาหารเวียดนามดั่งเดิม

จะเป็นอาหารที่มีรสชาติที่เป็นเฉพาะของคนเวียดนามอยู่ 5 รสชาติอาหารเวียดนามที่ชาวไทยรู้จักดี ได้แก่ รสเผ็ด เปรี้ยว ขม เค็ม และหวาน สำหรับเครื่องปรุงที่ใช้กันในการปรุงรสก็ได้แก่ น้ำปลา กะปิ ซอสถั่วเหลือง ข้าว และผลไม้ผักสด รวมถึงพืชประเภทสมุนไพรต่าง ๆ อันได้แก่ ขิง ตะไคร้ สะระแหน่ ผักซี อบเชย ที่ขาดไม่ได้ก็คือพริกต่าง ๆ โดยเฉพาะพริกขี้หนู มะนาว ใบโหระพา การทำอาหารแบบดั่งเดิม จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ที่มีรสจืด มีส่วนประกอบจากสมุนไพรและผักสด ได้แก่อาหารที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือแหนมเนือง ป่อเปี้ยสด ก๋วนหั่น เป็นต้น อาหารเวียดนามจะมีส่วนที่เป็นแป้ง แลไส้ที่คนเวียดนามเรียกว่า “ปั๊ญ”

อาหารเวียดนามที่แนะนำ ได้แก่

อาหารเวียดนามทางภาคเหนือ จะมีรสชาติเผ็ดน้อยกว่าทางใต้ อาหารเวียดนามหรืออาหารญวนนั้น ได้แก่ข้าวเจ้าเป็นอาหารหลัก ข้าวเหนียวเป็นอาหารรอง เป็นอาหารแป้งเป็นส่วนใหญ่ มีเครื่องในโดยเฉพาะไส้

แบ๋งจึง เป็นข้าวต้มไส้ถั่วห่อด้วยใบตอง ส่วนใหญ่จะห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยม

แบ๋งเส่ย เป็นอาหารประเภทข้าวต้มไส้ถั่วห่อด้วยใบตอง ทำเป็นรูปกลม กินกับหมูยอ

แบ๋งกาย เป็นประเภทขนมและข้าวเหนียวที่นวดให้เข้ากันอย่างดี และใส่ไส้ถั่ว

บุ๋นถิตเหนือง เป็นขนมจีนน้ำยาหมูย่าง

บู๋นบ่อเฮว์ ขนมจีนน้ำ เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองเว้

เฝอ ได้แก่ก๋วยเตี๋ยว กินกับผักสดได้หลากหลายอย่าง มีเครื่องปรุงที่ออกรสเปรี้ยว

ทั้งนี้ อาหารเวียดนามยังมีอีหลากหลายเมนูที่น่าสนใจ ด้วยวัฒนธรรมการกินที่ใกล้เคียงกับบ้านเรา ทำให้สามารถเข้าใจในรสชาติได้ง่ายกว่าอาหารประเภทอื่น  ๆ

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ  ร้าน SUSHI ขั้นเทพ ร้านซูชิเจ้าอร่อยที่แอบอยู่ในตลาดปิ่นเงิน ที่บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ

อาหารขึ้นชื่อของพม่า ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก เนื่องด้วยอิทธิพลที่ยังมาไม่ถึงประเทศไทย แต่ทว่าอาหารพม่าก็มีดีไม่น้อยเหมือนกัน เพราะร้านขายอาหารพม่าในบ้านเราไม่มีที่ไหนเลยจึงทำให้เป็นเช่นนั้น นอกจากบริเวณชายแดน แต่ถ้าพิจารณาแล้วอาหารพม่าก็มีดีทั้งรสชาติและกลิ่นที่ชวนกิน ไม่ควรพลาดทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่อาหารก็มีส่วนประกอบมาจากวัตถุที่ไม่ต่างไปจากอาหารบ้านเรา เช่น เนื้อสัตว์ หมู ไก่ และวัว อาหารทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ส่วนที่เป็นเนื้อหมานั้นเป็นแค่บางส่วนที่เป็นคนส่วนน้อยในบ้านเขาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับอาหารประจำชาติ หรืออาหารที่คนส่วนใหญ่เขากินกัน เรามาดูอาหารจานแรกกันเลยดีกว่า

อาหารขึ้นชื่อของพม่า ที่ส่วนใหญ่อาหารก็มีส่วนประกอบมาจากวัตถุที่ไม่ต่างไปจากอาหารบ้านเรา

น้ำพริกผักลวกจิ้ม เป็นอาหารน้ำพริกที่ออกรสเค็ม และเผ็ด มีกลิ่นของปลาร้าเต็ม ๆ มีส่วนคล้ายน้ำพริกกะปิบ้านเราและกลิ่นน้ำปลาร้าแรงมาก สูตรอาหารพม่าจานนี้เป็นคล้ายอาหารประเภทออเดิร์ฟ ก่อนที่จะเสิร์ฟอาหารจานใหญ่ อร่อยแต่จะออกเค็มไปสักหน่อย ถ้าจะให้ดีต้องกินกับผักสดแยะ ๆ จะได้ลดความเค็มลงไปได้บ้าง

จานต่อไปได้แก่ ผัดเผ็ดกบสไตล์อาหารพม่า ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องพม่ากับกบนี้เป็นของคู่กัน โดยมีคำกล่าวไว้ว่า “พม่าแทงกบ” หรือแม่แต่เพลงที่มาร้องเล่นกันก็มีเรื่องพม่ากับกบอยู่ด้วย เป็นอาหารจานเด็ดจริง ๆ อร่อยมากทีเดียว ที่สำคัญสำหรับกบนั้นจะกินได้หมดทั้งตัวไม่มีกระดูก เพราะคนทำจะเอากบไปทอดก่อนจนกรอบ เคี้ยวได้หมดจริง ๆ มีแคลเซียมสูงอีกต่างหาก

อาหารจานนี้ต้องกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เพราะมันเป็นของคู่กัน ถ้าไม่มีข้าวก็อาจจะเลี่ยน ๆ ไปสักนิดนะ เมนูนี้ต้องลองพลาดไม่ได้ทีเดียว ทั้งนี้ ท่านที่ต้องการจะลิ้นลองอาหารจากประเทศเพื่อนบ้านนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปถึงเมืองพม่า เพียงเปิดอินเตอร์เน็ตแล้วทำตามก็สามารถได้บรรยากาศที่คล้ายคลึงกัน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ ต้มมะระ เมนูที่มีรสชาติแสนจะขม แต่สรรพคุณนั้น มีประโยชน์เป็นอย่างมาก

            กิมจิ จัดเป็นเครื่องเคียงของเกาหลีที่คนไทยนิยมกันมาก เพราะมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้านไม่แพ้อาหารไทย แต่ถ้าให้ซื้อกินบ่อยๆ ก็คงไม่ไหวเพราะส่วนใหญ่แล้วกิมจิมักจะมีราคาแพงมาก ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วกิมจิทำเองได้ง่ายมาก ทั้งยังปรุงรสชาติให้อร่อยแบบสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ได้ไม่ยากเลย ซึ่งถ้าใครเป็นติ่งเกาหลีต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

กิมจิ เครื่องเคียงของเกาหลี รสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้านไม่แพ้อาหารไทย ใครเป็นติ่งเกาหลีต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

ส่วนผสมกิมจิ

ผักกาดขาวหั่นชิ้นใหญ่ตามยาวสัก 4-6 ชิ้น              2     หัว

หัวหอมใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ๆ                        1                      หัว

ต้นหอมหั่นยาวสัก 1 นิ้ว                          6                      ต้น

กระเทียมบด                                          6-7                    กลีบ

ขิงบดละเอียด                                         1                      ช้อนชา

พริกป่นเกาหลี                                        1                      ถ้วยตวง (หาซื้อได้ที่ห้างชั้นนำทั่วไป)

แป้งข้าวเจ้า                                            2                      ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย                                           4                      ช้อนโต๊ะ

เกลือ                                                     4                      ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                                                  7-8                    ช้อนโต๊ะ

(ใช้น้ำปลาไทยที่เป็นน้ำปลาแท้จะได้รสหอมแต่ไม่คาว)

น้ำเปล่า                                                 2                      ถ้วยตวง

อุปกรณ์ในการทำกิมจิ

อ่างผสมใหญ่ๆ

โหลหมักหรือไหที่มีฝาปิดมิดชิด

วิธีปรุง

-จะทำกิมจิให้อร่อยต้องเริ่มจากนำน้ำเปล่ากับเกลือมาละลายให้เข้ากันดีโดยกะปริมาณพอแช่มิด (เกลือที่แช่ใช้ต่างหากไม่ใช่เกลือที่ใช้ในการหมักกิมจิ)

-ใส่ผักกาดขาวที่หั่นไว้มาแช่ลงไปในน้ำเกลือ

-แช่ผักกาดขาวทิ้งไว้จนนิ่มหรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมง

-นำผักกาดขาวขึ้นมาพักที่อ่างสำหรับผสม

-หันมาทำส่วนผสมที่ใช้หมักโดยให้คุณใส่น้ำเปล่าลงในหม้อต้ม ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า พยายามคนไปเรื่อยๆ จนแป้งสุกข้น

-พอแป้งสุกให้คุณใส่ส่วนผสมอื่นๆ ลงไปคือพริกเกาหลี น้ำปลา น้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เย็นตัว  

-เมื่อน้ำที่ผสมเย็นแล้วให้คุณนำมาใส่ในอ่างผสมที่มีผักกาดขาวนอนรอ

-ใส่ผักอื่นๆ ตามลงไปคือ หัวหอมใหญ่ ต้นหอมซอย กระเทียมบด ขิงบด

-นวดส่วนผสมให้เข้ากันโดยให้คุณออกแรงสักหน่อย

-นำกิมจิที่ได้มาใส่ในโหลแล้วปิดให้มิดชิด

-การหมักกิมจินั้น ถ้าอยากให้กิมจิออกเปรี้ยวเร็วๆ ให้คุณแช่ไว้นอกตู้เย็น 1 คืน จากนั้นจึงนำเข้าไปเก็บในตู้เย็นช่องปกติสัก 1-2 สัปดาห์ รสชาติก็จะกลมกล่อมลงตัว  

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ รีวิว ร้าน BAR – B – Q – PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ตัวจริงเรื่องปิ้งย่างฝั่งธนฯ ที่ไม่ควรพลาด

โรตี ขนมหวานในสังคมไทยเมื่อใดก็ตามที่เรานึกถึงเมนูอาหารที่ชื่อว่า โรตี แน่นอนว่าภาพในหัวของเราคือ อาบังกำลังตบแป้งไปมาอย่างชำนาญเป็นแน่ ซึ่งวันนี้จะมาไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับโรตีและอาบัง

ก่อนอื่นต้องเริ่มเท้าความก่อนว่า โรตี เป็นอาหารของชาวอินเดีย ซึ่งจะตีแป้งให้หนาและรับประทานกับแกง จวบจนชาวอินเดียเข้ามาในดินแดนแถบมลายู จึงทำให้ โรตีแกง ถูกเรียกว่า โรตีจาไน (Roticanai) ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

ส่วนคำว่าบัง หรือ อาบัง คือคำในภาษามลายูและอินโดนีเซีย ที่แปลว่า พี่ชาย แต่คนไทยที่อยู่ท่ามกลางสังคมชาวพุทธจำนวนมาก จึงมักเข้าใจผิดว่า บัง คือการเรียกแขกที่เป็นผู้ชาย

แล้วทำไมอาบังต้องขาย โรตี คำถามยอดฮิต ที่หลาย คนต่างก็สงสัย วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณ

สำหรับโรตีในประเทศไทย ก็ได้รับอิทธิพลจากการเดินทางเข้ามาของชาวอินเดียและชาวมลายู แน่นอนว่าหากเอาเมนูโรตีแกงมาขายคนไทย ยังไงเสียจะต้องเจ๊งอย่างแน่นอน เพราะคนไทยไม่ชินกลิ่นเครื่องเทศที่รุนแรง นั่นจึงทำให้อาบังที่ชำนาญการทำโรตี ต้องดัดแปลงรสชาติและกรรมวิธีการทำจนกลายเป็นของหวานในที่สุด ซึ่งหากชาวมาเลเซียหรือชาวอินเดีย มาท่องเที่ยว น่าจะต้องประหลาดใจที่เห็นเมนูอาหารจานหลักของพวกเขาถูกดัดแปลงเป็นอาหารหวาน ด้วยวิธีการเอาแป้งโรตีมาตบไปตบมา และลงทอด แต่ขนาดและความหนาลดลงไปมาก จากนั้นก็โรยนมข้นและเครื่องเคียงตามชอบ

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น โรตีในประเทศไทยยังได้ถูกดัดแปลงเป็นโรตีสายไหม โดยแขกเชื้อสายตานีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะมีความชำนาญในการทำโรตี จึงริเริ่มด้วยการนำแป้งเหลวมาโม่บนแผ่นกระทะ เพื่อนำมารับประทานกับสายไหม ซึ่งความหอมอร่อยของโรตีสายไหมนี้ จึงทำให้กลายเป็นของดีประจำจังหวัดอยุธยาไปในที่สุด

จากการเดินทางของโรตีมาไกลแสนไกล น่าจะทำให้เราเห็นได้ว่ากว่าโรตีจะเดินทางมาถึงประทศไทยของเราต้องผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งเมื่อเมนูนี้เดินทางมาถึงไทยก็ยังคงต้องพบกับอุปสรรค ทำให้เหล่าอาบังที่มีความชำนาญในอาชีพการทำโรตี ต้องดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับรสปากของคนไทย จนกระทั่งกลายเป็นโรตีแบบไทย ๆ ที่มีแต่ที่ประเทศไทยเท่านั้น

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ร้านกินลมชมสะพาน ร้านอาหารย่านพระราม 8 กับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บอกเลยว่าฟินสุด ๆ

    อาหารประจำบ้าน หลาย ๆ ท่านคงคิดถึงอาหารที่สามารทำได้ง่าย ๆ ไม่มีวิธีการ หรือขั้นตอนที่ยุ่งยาก และวุ่นวาย ที่สำคัญจะต้องมีวัตถุดิบที่เตรียมพร้อมไว้แล้วอยู่ในตู้เย็นเสมอไม่เคยขาด หรือที่เราเรียกกันว่า “ของติดบ้าน” ถ้าจะว่าไปในเมืองไทยนั้นมีอะไรที่เป็นวัตถุดิบติดบ้าน ถ้าจะให้ลองเดาดูก็คงจะไม่ยาก สิ่งแรกคือ ไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ หรือไข่เป็ดก็ตาม นั่นก็แล้วแต่คนนิยม เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคลกันไป แต่อย่างไรแล้วก็คงต้องมีติดบ้านกันทุกครัวเรือน อย่างที่ 2 ก็คงจะหนีไม่พ้นกับ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือที่เรียกติดปากกันว่า “มาม่า” เพราะเวลาจะไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในแต่ละทียี่ห้อนี้ก็จะเป็นที่ติดปากติดหูของคนไทย ถ้ามีคนถามว่า “ไปไหน” ก็จะตอบโดยทันควันเลยว่า “ไปซื้อมาม่ากินหน่อย” หรือว่าไม่จริง ส่วนอย่างที่ 3 ก็คงจะไม่พ้นเรื่องของปลากระป๋อง มีทุกยี่ห้อให้เลือกสรร แล้วแต่ว่าใครจะโปรดรสชาติแบบไหนเลย นี่แหล่ะวัตถุดิบของครัวไทยเราที่จะมีเตรียมไว้ในทุกครัวเรือน

แนะนำ 3 เมนู อาหารประจำบ้าน ระหว่างไทยและญี่ปุ่น จะมีเมนูอะไรบ้าง ?

            ซึ่งครัวไทยกับครัวต่างประเทศก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะในต่างประเทศเองก็จะมี “ของติดบ้าน” ที่คล้าย ๆ กัน ถ้าเป็นคนเอเซียเหมือนกันแล้วละก็ ไข่เอย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอย ถ้าไม่มีติดบ้านแล้วละก็ ช่วงดึก ๆ เวลาหิวขึ้นมาที บอกได้เลยว่า “ลำบาก” และในบทความนี้ผู้เขียน จะเขียนเล่าเรื่องราวของ “อาหารประจำบ้าน” จาก 2 ประเทศ แน่นอน 1 ในประเทศนั้นคือ ประเทศไทยของเรานั่นเอง ส่วนอีกประเทศหนึ่งนั้นเป็นประเทศที่เป็นเกาะ เรารู้จักกันในฉายานามว่า “ดินแดนอาทิตย์อุทัย” หรือ “เมืองปลาดิบ” ซึ่งจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่นั่นคือ “ประเทศญี่ปุ่น” นั่นเอง

            ว่าถึงอาหารประจำบ้านของคนไทยเรานั้นก็มักจะเป็นอาหารเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่ก็น่าแปลกใจมาก เพราะอาหารที่เรียบง่ายแต่ไม่ใช่ไข่ดาว คนไทยเรานิยมทานข้าวไข่เจียวกันมากกว่า ด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ ๆ ไข่เจียวอาจจะมีความหลากหลายของรสชาติมากกว่า เช่น ถ้าต้องการเพิ่มโปรตีนที่นอกเหนือจากไข่ก็อาจจะเติมเนื้อสัตว์ลงไปเช่น หมูสับ หรือกุ้ง หรือเนื้อปู เท่าที่จะมี “ของ” ในตู้เย็น หรือแม้แต่จะเติมผักต่าง ๆ ก็สามารถเติมได้ไม่ว่าจะเป็นหอมหัวแดง หอมหัวใหญ่ พริกขี้หนูซอย ต้นหอมซอย ผักชี โหระพา ข้าวโพดอ่อน แครอท เห็ด ดูจะง่ายไปเสียหมด ยิ่งทอดให้กรอบ หรือให้ขึ้นฟูด้วยแล้ว ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็คงจะบอกได้เลยว่า “เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม”

            หันมามองทางอาหารญี่ปุ่นบ้าง อาหารประจำบ้านของชาติญี่ปุ่นนั้นกลับไม่ใช่เป็นอาหารประเภทไข่ทอด ไข่เจียวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กลับกลายเป็นข้าวหน้าไก่แบบญี่ปุ่นไปเสียอย่างนั้น จริง ๆ วิธีการทำนั้นอาจจะใช้ว่าเวลามากกว่าไข่ทอดธรรมดา ๆ แต่ความอร่อยมันอยู่ที่ความครบรสก็เป็นได้ ซึ่งวัจถุดิบก็จะมีเนื้อไก่ ไข่ไก่ หอมหัวใหญ่ ต้นหอม วิธีทำก็ง่าย ๆ เพียงนำเอา เมนซูยุ (ซอสที่ทานกับโซเมนเย็น) มิริน และสาเกสำหรับทำอาหาร อัตราส่วน 1:1:1 นำไปลงกระทะ ใส่หอมหัวใหญ่ ใส่ไก่ ใส่ต้นหอม รอจนสุก ตอกไข่ ยกขึ้นราดข้าว เสร็จพิธีเป็นอันว่าทานได้ เพราะด้วยรสชาติหวานเค็มมีในเครื่องปรุงเช่นมิริน เมนซูยุและสาเกแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรุงอะไรมาก เพียงแต่ใครที่ชอบเผ็ดอาจจะใส่พริกป่น หรือพริกไทยเพิ่มก็เป็นอันเรียบร้อย

            ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรืออาหารญี่ปุ่น อาหารที่มีไว้ประจำบ้านนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารที่สามารถปรุงสุกได้ง่ายสามารถทานได้ทันที วิธีทำหรือกรรมวิธีนั้นก็ไม่ยุ่งยากให้ลำบากมากมาย ไม่ว่าคุณพ่อบ้าน หรือคุณแม่บ้านก็สามารถทำให้อีกฝ่าย หรือทำให้เจ้าตัวเล็กทานได้ในทันที ทั้งนี้ก็ขึ้นกับ “ของติดบ้าน” ที่ในแต่ละประเทศมี แต่เท่าที่สังเกตดูนั้น ไม่ว่าจะไทยหรือญี่ปุ่นก็จะขาดไม่ได้เลยกับ “ไข่” นั่นเอง

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และ อาหารที่ช่วยเผาผลาญ ไขมันแบบเร่งด่วน ของคนที่กำลังลดน้ำหนัก

                อาหารเวียดนาม ก็เป็นอีกอาหารที่มีความใกล้เคียงกับอาหารไทย และมีความเฉพาะตัวที่ต้องบอกเลยว่ามีความไม่เหมือนใครและมีความแปลกใหม่ รสชาติอาจจะไม่เหมือนไทยสักเท่าไหร่ วันนี้แอดอยากที่จะมา แนะนำ 3 เมนูอาหารเวียดนาม ที่บอกเลยว่าอร่อย อยากให้ลองทานสักครั้ง บอกเลยว่ารสชาติอาหารเวียดนามก็เป็นอีกอาหารที่มีความอร่อยติดอันดับอาหารที่มีความอร่อยลำดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว

แนะนำ 3 อาหารเวียดนาม ที่พลาดไม่ได้แล้วกับรสชาติความอร่อยที่คุณต้องลอง

เมนูอาหารเวียดนามที่บอกเลยว่าอร่อยน่าทานมาก ๆ ห้ามพลาด เมนูแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ บุ๋นเรียว เป็นก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวน้ำซุปมาจากน้ำมะเขือเทศ มีรสชาติที่เปรี้ยว สามารถเลือกทานเนื้อสัตว์ได้ทั้ง หมู ปู เนื้อ รสชาติอร่อยสุด ๆ ใครที่ไปเที่ยวเวียดนามต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด

เมนูที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ บั๋นห์แซ่ว เป็นอีกเมนูอาหารเวียดนามที่หน้าตาคล้ายกับขนมเบื้องญวน ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับขมิ้น และนำไปทอดกรอบ ใส่ไส้ด้วยเครื่องโดยเฉพาะ และซอสปรุงรสชาติเพิ่มความอร่อย เป็นอีกอาหารเวียดนามที่อยากให้ลอง

เมนูที่สามที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ก่อยกวั๋น คือ ปอเปี๊ยะสดเวียดนามนั้นเอง และเรานั้นก็สามารถเลือกไส้ได้แบบตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นหมูสับ กุ้ง หรือหน้าผักต่าง ๆ ทานกับน้ำจิ้มที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน ใส่ถั่วลิสงบดอีกเพิ่มความอร่อย

                ทั้งหมดก็เป็นเมนูอาหารบางส่วนของเวียดนามที่มีความอร่อยและน่าทานมาก ๆ บอกเลยว่าใครไปเที่ยวเวียดนามห้ามพลาด

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และวิธีทำอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ ของเราได้ที่นี่

ก้อยขม ถ้าว่ากันด้วยเรื่องอาหารอีสานที่มีรสจัดจ้าน หนึ่งเมนูที่หลายคนชื่นชอบน่าจะเป็นก้อยขมซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อวัว เลือกได้ทั้งแบบสุกและดิบ ให้ความรู้สึกถึงใจกว่าการกินลาบหรือพล่าทั่วไป ยิ่งถ้ากินคู่กับพวกส้มตำ ไก่ย่าง และต้มแช่บก็ยิ่งเข้ากันดี แต่เดี๋ยวก่อน เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าบรรดาอาหารอีสานที่ทำขายกันตามร้านแต่ละเมนู มันต่างกันยังไง ลาบ ก้อย พล่า ดูไปดูมาก็คล้ายกันอยู่ไม่ใช่หรือ

ก้อยขม สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดมานาน

                ความจริงแล้วก้อยขมนั้นไม่มีอยู่จริง แต่เป็นความเข้าใจผิดจากการส่งต่อสูตรอาหาร หรือไม่ก็เป็นการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายจนความหมายมันผิดเพี้ยนไปมาก เวลาที่เราไปกินอาหารตามร้านถ้าสั่งทั้งเมนูลาบ พล่า ก้อยมาพร้อมกัน อาจจะเห็นว่ามันแทบไม่ต่างกันทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติ ส่วนของพล่าอาจจะมีจุดต่างบ้าง แต่ลาบกับก้อยนี่แทบแยกไม่ออกทีเดียว ซึ่งถ้าย้อนไปดูต้นตำรับจะรู้ว่ามันคนละเรื่องเดียวกัน

                เมนูก้อยจะเน้นเปรี้ยวนำ เป็นก้อยเนื้ออะไรก็ได้ แต่ไม่มีก้อยขมมีแต่ลาบขมเท่านั้น เพราะลาบจริงๆ สามารถปรุงได้หลายแบบ ทำสุกก็ได้ ทำดิบแบบลาบเลือดก็ได้ ถ้าอยากให้ขมก็ใส่เพลี้ยอ่อนลงไป เน้นปรุงรสให้จัดจ้านและกลมกล่อม ไม่มีรสไหนโดดออกมาเหมือนก้อย เพราะฉะนั้นการจำว่าลาบเป็นของสุก ก้อยเป็นของดิบ ก็ถือว่าเป็นการเข้าใจผิด ในภาษาอีสานนั้นก้อยจะสื่อถึงรสเปรี้ยวเป็นหลัก เน้นทำเพื่อกินแกล้มกับเหล้านั่นเอง

                อย่างไรก็ตามก้อยขมที่มีขายตามร้านอาหารอีสานทั่วไป ก็ดูจะกลายเป็นความผิดเพี้ยนที่ทำให้เมนูนี้ทานได้ง่ายขึ้น เพราะหากเป็นแบบต้นตำรับแท้ๆ คงมีหลายคนที่ไม่ชอบก้อยสักเท่าไร ในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจึงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเสมอ ไม่ใช่เรื่องที่น่าติติงอะไร แต่ถ้าต้องการลิ้มรสก้อยสไตล์อีสานแท้ ก็คงต้องบุกไปให้ถึงถิ่นกันเอง

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ และวิธีทำอาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา

• Café ธรรมชาติบรรยากาศป่า Amazon ที่คุณอาจไม่เคยรู้จัก และไม่ควรพลาด
• อาหารเช้า ยอดนิยม ทำง่าย อร่อยได้ในเช้าที่เรียนและทำงาน