เครื่องดื่มเมนูในวัยเด็กที่ทำให้เรานั้นคิดถึงนั้นก็คือเมนู เฉาก๊วยนมสด ตอนแรกเคยมีความคิดที่ว่า เฉาก๊วยกับนมสดมันจะไปเข้าอะไรกัน นมสดมันสามารถดื่มกับเฉาก๊วยได้ด้วยเหรอ นั้นความสงสัยเลยลองซื้อมาทำดู ผลปรากฏว่าอร่อย เข้ากัน หอมหวานมันถือว่าเป็นเมนูที่แก้ให้กับตัวเราได้เลยนะ ส่วนตัวคือไม่คิดว่ามันจะเข้ากันขนาดนี้สำหรับเฉาก๊วยและนมสด มันให้ความรู้สึกแบบสดชื่น ได้รับพลังงานจากความหวานของน้ำในถุงเฉาก๊วยและความหอมของนมสด มีเนื้อของเฉาก๊วยไว้เขี้ยวแบบหนุบหนับด้วย  ถือว่าไม่แย่ให้พลังงานแคลอรี่น้อยแต่อร่อยมาก เอาล่ะ มาดูวัตถุดิบและวิธีทำกันเถอะ

ชวนทำ เฉาก๊วยนมสด ไว้ทานเย็นๆ แบบหนุบหนับ

วัตถุดิบสำหรับการทำเฉาก๊วยนมสด

นมสดเราสามารถใช้นมยี้ห้อไหนก็ได้ตามใจชอบ ส่วนตัว ขอแนะนำเอายี้ห้อที่ตัวเองชอบจะดีที่สุด จะเป็นรสจืดหรือหวานก็ตามแต่เฉาก๊วยแบบถุง แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ถ้าหากได้เฉาก๊วยแบบดั่งเดิมที่ขายในรถมาได้จะดีมาก แต่มันหายาก เราสามารถหาซื้อได้ตาม 7-11 ก็มีเหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้เข้มข้นเหมือนกับที่ขายกับรถแก้ว สำหรับการใส่เครื่องดื่ม

วิธีทำเฉาก๊วยนมสด

วิธีการทำเฉาก๊วยนมสดในฉบับนี้ถือว่าไม่ยากเลย ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แต่เราจะต้องบอกกับตัวเองก่อนว่าเราจะทานกับอะไร ถ้าหากทานแบบไม่ใส่น้ำแข็ง ของหวานดับร้อน เมนูที่จะทำให้คุณสดชื่นมากยิ่งขึ้น เราสามารถเทใส่และผสมแบบปกติได้ แต่ถ้าหากทำแบบใส่น้ำแข็งเราจะต้องนำนมไปอุ่นก่อนและเพิ่มน้ำตาลของไปนิดหน่อยเพื่อให้รสชาติมันไม่เสียมากเกินไป บางคนทำแบบไม่เติมน้ำตาลผลสุดท้ายคือรสชาติเสียมาก จืดแบบไม่คิดว่าจะจืด แต่สำหรับคนที่ชอบทานหวานน้อยอาจจะไม่เป็นอะไรแต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่ชอบ อาจจะคิดว่ามันไม่อร่อย ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องอุ่นนมเสียก่อน หลังจากที่อุ่นนมและเติมน้ำตาลลงไปนิดหน่อยเสร็จแล้วให้เตรียมน้ำแข็งให้เรียบร้อย ให้เราเทนมสดใส่น้ำแข็งก่อนครึ่งแก้ว แล้วค่อยเทน้ำเฉาก๊วยลงไปทับต่อ ถ้าหากเทนมเต็มแก้วเลยและค่อยเทเฉาก๊วยมันจะทำให้หกได้นั้นเอง เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับเมนูเฉาก๊วยนมสดทานได้แบบเพิลน ๆ ระหว่าง เล่นเกมใน UFABET ที่จะพาคุณพบกับความร่ำรวยภายในข้ามปี

น้ำเต้าหู้ เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากๆ ในยุคปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้ เพราะราคาก็ถูกกว่าเครื่องดื่มแบบอื่น อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพได้เป็นอย่างมากอีกด้วย การที่คนดื่มอาหารชนิดนี้มากๆนั้น ยังเป็นการรักษาสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรงทางตรงอีกด้วย วันนี้มาดูกันว่า เราได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง กับการดื่มในทุกวัน ตามมาดูกันเลยค่ะ

เครื่องดื่ม น้ำเต้าหู้ มีประโยชน์ดี ๆ ต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

การลดระดับคอเลสเตอรอลด้วยน้ำเต้าหู้

บอกเลยว่าถ้าเราดื่มเป็นประจำ อาหารชนิดนี้ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ได้อย่างแน่นอน เพราะมันประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ที่ป้องกันสุขภาพให้ดีได้นั่นเอง ยิ่งถ้าตัวเรากำลังเจอกับปัญหา ในส่วนนี้แล้วนั้นแนะนำเลยว่า ควรที่จะมาดื่มอาหารเมนูนี้จะดีที่สุด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลจากไขมันต่างๆ เราควรเปลี่ยนวิธีการทานอาหาร ในวันนี้กันได้แล้วนะคะทุกคน

น้ำเต้าหู้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงๆค่ะ

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การทานอาหารชนิดนี้เป็นการช่วยลดน้ำหนัก ได้แบบตรงจุดที่สุดเลยค่ะ เพราะอย่างแรกมันมีน้ำตาลน้อยกว่านมเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีแคลอรีเพียง 80 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง เพื่อนๆควรหันมาดื่มเมนูนี้แทนเครื่องดื่มที่เพิ่มความหวาน และสร้างอันตรายให้กับเรากันนะคะ แถมยังมีไฟเบอร์ที่ทำให้ระบบขับถ่ายดีอีกด้วย อิ่มนาน จึงเป็นสาเหตุให้เรากินอาหารอย่างอื่นน้อยลง ถ้าเราลดน้ำหนักได้จริงๆ จากการทานอาหารเมนูนี้ เรียกได้เลยว่าเด็ดสุดจริงๆค่ะ

สุขภาพทางจิตของเราดีขึ้นได้ด้วยการดื่มน้ำเต้าหู้

ส่วนในด้านของสุขภาพทางจิตใจนั้น ดื่มไปแล้วทำให้เราคลายเครียดลงไปด้วย ลดความซึมเศร้าลงไปอีก เหตุผลเพราะมีวิตามิน กับแร่ธาตุที่ช่วยให้ สุขภาพทางด้านจิตใจดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี แมกนีเซียมอีกด้วย ซึ่งทุกคนก็รู้ว่า สารอาหารเหล่านี้สร้างประโยชน์ ให้กับร่างกายเป็นอย่างดีทีเดียว

สรุปได้ว่า สิ่งที่เราอาจจะมองไม่เห็นจากการดื่มเมนูเครื่องดื่มชนิดนี้ ขอให้เพื่อนๆหันมาสนใจต่อสุขภาพตนเอง  แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ   ด้วยการหันมาดื่มกันเยอะๆนะคะ มีแต่คุณค่าทางโภชนาการ แถมราคายังไม่แพงด้วยค่ะ

เคล็ดดี ๆ ของการเลือกทานอาหาร ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เมนูขนมหวานแสนอร่อย ที่ทั้งดี และมีประโยชน์แบบสุด ๆ

ถ้าหากว่างจากการทานเมนูแสนอร่อย แอดขอแนะนำ  7slotvip ไว้เล่นแบบเพลิน ๆ ช่วยผ่อนคลายสมองในยุคโควิค

เทคนิคชงกาแฟดริป ที่คอกาแฟนั้น มักจะมีกาแฟโปรดในดวงใจที่ชื่นชอบอยู่แล้ว มักจะต้องดื่มอยู่เป็นประจำในทุกวัน เพราะร่างกายได้เสพติดคาเฟอีนเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ยิ่งบางคนหากวันไหนไม่ได้ดื่มอาจรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย หรือเกิดอาการปวดหัวได้ กาแฟดริปเป็นกาแฟอีกประเภทที่ได้รับความนิยมจากคอกาแฟ โดยวิธีการชงกาแฟดริปให้อร่อยมีรสชาติดีไม่แพ้การได้ไปดื่มกาแฟถึงคาเฟ่ ก็สามารถทำเองได้ ดังนี้

เทคนิคชงกาแฟดริป โดยวิธีการชงกาแฟดริปให้อร่อยมีรสชาติดี ที่ไม่แพ้การได้ไปดื่มกาแฟถึงคาเฟ่

1. การชงกาแฟดริป ต้องมีการใช้อัตราส่วนของน้ำที่พอดีกับเม็ดกาแฟ ไม่ใส่น้ำมากหรือน้อยเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้กาแฟเสียรสชาติแล้ว อาจชงออกมาจนไม่สามารถดื่มได้เลย ดังนั้น ควรใส่น้ำให้พอดีเหมาะสมกับอัตราส่วนของเม็ดกาแฟในการชงแต่ละครั้งจะดีที่สุด

2. อุณหภูมิของน้ำที่ชงกาแฟ สำหรับกาแฟทั่วไปอาจจะใช้แค่เพียงน้ำร้อนธรรมดาจากเครื่องชง หรือกาต้มน้ำ แต่สำหรับกาแฟดริปนั้น อาจแตกต่างออกไปเสียหน่อย เพราะอุณหภูมิที่จะชงกาแฟดริปได้อร่อยที่สุดนั้น จะอยู่ที่ 95 องศาเซลเซียส หากมีอุณหภูมิสูงหรือต่ำไปกว่านี้จะทำให้กาแฟเสียรสชาติ จนอาจออกรสชม และกลิ่นก็จะไม่หอมเท่าที่ควรจะเป็นด้วย

3. ตำแหน่งของการรินน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยกาแฟดริปมีวิธีการหลักคือ ต้องค่อยๆ รินน้ำจากกาลงบนกรวยกระดาษที่เป็นตัวกรองให้น้ำซึมไหลผ่านกาแฟ ลงไปยังแก้วด้านล่าง โดยการรินน้ำที่ถูกต้องเพื่อให้ดึงรสชาติกาแฟออกมาเต็มที่มากที่สุด โดยให้เริ่มรินจากหยดน้ำลงตรงกลางก่อนแล้วค่อยๆ รินอย่างช้าๆ วนออกด้านนอกให้กาแฟนั้นพอชุ่มน้ำเสมอทั่วกัน ทิ้งไว้ราวๆ 30-40 วินาที เมื่อเห็นว่าเนื้อกาแฟพองตัวดีแล้ว ให้เริ่มรินน้ำต่ออีกทั้งโดยรอบนี้ให้รินน้ำวนเป็นรูปก้นหอย จนน้ำหมดกา (ในกาจะมีน้ำประมาณ 150 มิลลิลิตร จะเหมาะสมที่สุด)

4. เมื่อชงกาแฟดริปได้เรียบร้อย ควรดื่มทันที ไม่ควรทิ้งกาแฟไว้นานเกินไป อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 5 นาที เพราะหากทิ้งไว้นานกว่านี้ กาแฟจะชืดและเสียรสชาติทันที มักจะออกรสขมจัด จนไม่สามารถได้รสสัมผัสจริงๆ ของกาแฟอีกด้วย

กาแฟดริปนั้นเป็นกาแฟดำที่สามารถดื่มได้โดยไม่ต้องเพิ่มเติมน้ำตาลหรือนมลงไป จะทำให้ได้รสชาติกาแฟสดแท้ๆ ที่สำคัญเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วนอยู่อีกด้วย กาแฟดริปนั้นต้องใช้ความพิถีพิถันในการชงเพื่อจะได้ดึงรสชาติออกมาให้เต็มที่ ถือเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่ผู้ที่นิยมชื่นชอบดื่มกาแฟต้องไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก ufabet1688.cc ที่แบ่งปันข้อมูลดีๆ ให้เว็บไซต์ของเรา

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ อาหารเส้นยอดฮิต ทานได้ไม่มีเบื่อ สำหรับคนรักเส้น บอกเลยน่าสนใจมาก ๆ

เมนูขนมและเครื่องดื่ม ที่หากคุณเบื่อเมนูขนมและเครื่องดื่มเดิมๆ ที่รับประทานกันเป็นประจำ วันนี้เราจึงอยากคัดสรรเมนูขนมและเครื่องดื่ม 3 แบบ 3 สไตล์ 3 สัญชาติ มาฝากคุณกันนะค่ะ

เมนูขนมและเครื่องดื่ม ที่คุณชื่นชอบมากที่สุด วันนี้เรามีเมนูมานำเสนอ จะถูกใจคุณหรือไม่ ? มาดูกัน

• เมนูขนมแรกที่อยากแนะนำได้แก่ ไดฟูกุ เมนูขนมจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมกันมากทั้งซื้อเป็นของขวัญของฝาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นขนมแห่งความโชคดี ไดฟูกุก็คือโมจิก้อนกลมที่แป้งชั้นแรกทำจากแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวเจ้าเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มสอดไส้ด้วยถั่วแดงกวนรสหวานและชั้นสุดท้ายเป็นสตอเบอรี่สด และเครื่องดื่มที่นิยมดื่มคู่กับการรับประทานไดฟูกุเมนูขนมเคี้ยวอร่อยหนึบหนับได้แก่ ชาเขียว นั่นเอง

• เมนูขนมถัดมาที่เราเลือกสรรมาให้คุณก็คือ เอแคลร์หรือชูครีม เป็นเมนูขนมสัญชาติฝรั่งเศส เราจะคุ้นเคยคุ้นรสชาติกับเอแคลร์ก้อนกลมสอดไส้ครีมหรือวานิลลาหวานหอมอร่อย  นอกจากนี้ยังมีเอแคลร์หรือชูครีมไส้ช็อกโกแลต สตอเบอรี่ หรือชาเขียวรสชาติเข้มข้นอีกด้วย  ส่วนเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานกับเมนูขนมนี้ได้แก่ กาแฟร้อนหรือเย็น เช่น เอสเปรสโซ่ หรือลาเต้ รสขมนิดๆ เพื่อตัดกับความหวานกลมกล่อมของเอแคลร์หรือชูครีมเข้ากันอย่างลงตัว

• นอกจากเมนูขนมแล้วเรายังมีเมนูเครื่องดื่มที่อยู่ในใจของใครหลายคน ได้แก่ ชาไทยเย็น ซึ่งเป็นที่นิยมไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้นยังเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน หรือชาวญี่ปุ่น ที่มักจะซื้อชาไทยเครื่องดื่มสำเร็จรูปถือติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากเมื่อได้ลองชิมชาไทยเย็นแค่เพียงครั้งแรก  ชาไทยเย็นที่ชงจากชาชั้นดีปรุงรสด้วยน้ำตาล นมข้นหวาน และครีมเทียม เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติกลมกล่อมและหอมหวานรับประทานคู่กับอาหารและขนมหวานได้หลากหลายประเภท

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมนูขนมและเครื่องดื่มที่เรานำมาฝากจะถูกใจคุณทุกคนนะค่ะ

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก ufa777 ที่แบ่งปันข้อมูลดีๆ ให้เว็บไซต์ของเรา

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และแนะนำเว็บไซต์เพื่อนบ้านของเรา ไก่ย่างนมสด กับ 3 เทคนิค ฉบับมือใหม่ ที่จะทำให้มีความอร่อยได้ดั่งใจ

             วิธีชงมอคค่า ที่ทำให้รสชาตินุ่ม ๆ ของโกโก้ผสานกับความหอมของกาแฟคือเสน่ห์ของเครื่องดื่มมอคค่าที่หลายคนหลงรัก เครื่องดื่มนี้เป็นส่วนผสมที่ชงไม่ยาก แต่มีอีกหลากหลายเคล็ดลับตามรสนิยมของคุณที่สามารถเพิ่มรสชาติของมอคค่าให้โดดเด่นยิ่งขึ้นได้ ลองมาดูวิธีการชงมอคค่าระดับมืออาชีพเหล่านี้ที่จะเปลี่ยนเครื่องดื่มแก้วโปรดให้เป็นที่รักมากขึ้นไปอีก

วิธีชงมอคค่า กับเคล็ดลับตามรสนิยมของคุณที่สามารถเพิ่มรสชาติของมอคค่าให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

• ยิ่งดาร์กยิ่งดี เครื่องดื่มมอคค่าจะมีรสชาติลุ่มลึกมากขึ้นหากคุณเลือกใช้ผงโกโก้หรือผงช็อกโกแลตที่มีปริมาณความเข้มข้นสูง เป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่า ลองเลือกใช้ดาร์กช็อกโกแลตที่ 60-75% คุณจะสามารถรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะความเข้มข้นของโกโก้จะผสานเข้ากันได้ดีกับรสชาติกาแฟนั่นเอง

• เอสเพรสโซ่เหมาะที่สุด เอสเพรสโซ่คือกาแฟประเภทคั่วบด มีรสเข้ม และเหมาะที่สุดในการนำมาชงเป็นมอคค่า หากคุณกำลังคิดจะชงมอคค่าดื่มเองแล้วลักไก่โดยเติมกาแฟ 3 in 1 ลงไปในโกโก้ แบบนั้นอาจทำให้รสชาติของมอคค่าของคุณอยู่ในระดับแค่พอถูพอไถ ดังนั้นหากมีโอกาสแสดงฝีมือชง หรืออยากลองทำให้มอคค่าแก้วโปรดประทับใจ ก็ต้องมองหากาแฟเอสเพรสโซ่เท่านั้น

• เติมช็อกโกแลตกานาช เคยสังเกตมั้ยว่าทำไมมอคค่าในร้านต้องราดซอสช็อกโกแลตลงไป บางร้านก็มีช็อกโกแลตหนึบๆ ด้วย ทั้งหมดนี้ที่จริงแล้วคือ “กานาช” ช็อกโกแลตกานาชทำง่ายมาก

สูตรช็อกโกแลตกานาช

ดาร์กช็อกโกแลต 8 ออนซ์ (สับ)

เฮฟวี่ครีม ¾ ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. หม้อแรก ละลายดาร์กช็อกโกแลตในหม้อต้มสองชั้น (ชั้นล่างเป็นน้ำเดือด) โดยใช้ไฟปานกลาง
2. หม้อที่สอง อุ่นครีมด้วยไฟแรงปานกลางจนเดือด คนเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เกรียม
3. เทครีมร้อนลงในหม้อดาร์กช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว แล้วคนให้เข้ากัน
4. คนจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเข้ากันเป็นกานาชเนื้อเนียน ในขั้นตอนนี้สามารถเติมกลิ่นสังเคราะห์วานิลลาได้หากคุณต้องการ จากนั้นก็ยกลงจากเตาเป็นอันเสร็จ

โดยปกติมักใช้กานาชในไส้ขนม แต่ถ้าเอามาใส่ในมอคค่าจะให้รสชาติที่เข้มข้นมากขึ้น ชงกานาชกับมอคค่าไม่ยาก เพียงผสมกานาชลงไปในเครื่องดื่มโกโก้ร้อน ก่อนที่จะผสมกับนมและกาแฟ

• เติมเกลือ การเติมเกลือเล็กน้อยลงไปในเครื่องดื่มจำพวกโกโก้และกาแฟทำให้ทุกอย่างดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ จะกล่าวว่าเกลือเป็นเหมือนผงชูรสสำหรับเครื่องดื่มก็ว่าได้ เพราะเกลือช่วยตัดรสหวาน ทำให้รสชาติมีความสมดุลมากขึ้น มีความซับซ้อนของรสชาติมากขึ้น

• เขย่าดีกว่าคน บาริสต้ามืออาชีพมักตบท้ายการชงมอคค่าหลังจากคนให้เข้ากันแล้วด้วยการเขย่า ไม่ว่าจะเป็นมอคค่าชนิดร้อนหรือเย็นก็ตาม เพราะการเขย่าเป็นการอัดฟองอากาศเข้าไปในเครื่องดื่ม ทำให้เนื้อสัมผัสของเครื่องดื่มมีความนุ่มนวลมากขึ้น ส่วนผสมหลายอย่างก็เข้ากันได้ดีมากขึ้นด้วย สำหรับมอคค่าแบบเย็นนั้น คุณสามารถเขย่าได้สองแบบ ทั้งเขย่าแยกกับน้ำแข็ง หรือเขย่ารวมกับน้ำแข็งไปเลยก็ได้

รู้เคล็ดลับกันไปแล้วคอมอคค่าไม่ควรพลาดที่จะเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปลองดู และจำไว้เสมอว่ามอคค่าเป็นเครื่องดื่มที่ยืดหยุ่น คุณสามารถปรับสูตรได้ตามใจโดยไม่ต้องกังวลว่าสิ่งนี้จะผิดหรือถูก หรือจะไม่ถูกเรียกว่ามอคค่า เพียงแค่คุณชอบ ก็สามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มแก้วโปรดในแบบของตัวเองได้แน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ เมนูไก่ทอด กับยอดเมนูทอด และชิ้นส่วนที่เหมาะกับอาหารแต่ละประเภท

จับคู่ไวน์กับอาหาร เรื่องของไวน์และอาหารถือเป็นศาสตร์ประเภทหนึ่งซึ่งมีเคล็ดลับและเทคนิคมากมายที่ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ มีทฤษฎีเล็กหน่อยที่เราควรรู้เกี่ยวกับศัพท์เทคนิคไวน์ คำศัพท์เหล่านี้ใช้เพื่ออธิบายแง่มุมต่าง ๆ ทำให้เราสามารถเข้าใจวิธีการจับคู่อาหารได้ง่ายขึ้น

เคล็ดลับการ จับคู่ไวน์กับอาหาร ที่ทุกคนควรรู้ จะมีอะไรบ้าง ?

คำศัพท์ไวน์ที่ควรรู้

 Acidity : ความเป็นกรด มีอยู่ในองุ่นทุกชนิด และมีบทบาทในการเก็บรักษาไวน์ ไวน์ที่มีรสชาติชัดกว่าจะมีระดับความเป็นกรดสูงกว่า

Body : ใช้อธิบายรายละเอียดรสชาติไวน์ เช่น ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์มาก เป็นไวน์ที่มีรสชาติที่แรง มีรสค้างอยู่ในลำคอเข้มข้นมากกว่า

Dry : ไวน์ที่ประกอบด้วยน้ำตาลน้อยมากจนถึงไม่มีเลย

Tannin : สารประกอบทางเคมีที่พบในเปลือกและลำต้นขององุ่น รวมถึงถังไม้บ่มไวน์ด้วย

• ไวน์แดงและเนื้อวัว หนึ่งในเคล็ดลับพื้นฐานที่สุด จำง่ายที่สุด เหตุผลที่ไวน์แดงเข้ากันได้ดีกับเนื้อวัว โดยเฉพาะส่วนเนื้อแดง เช่น สเต๊ก เนื่องจาก ไวน์ทำให้โปรตีนในเนื้อนุ่มขึ้น ช่วยเพิ่มรสชาติของไขมัน เพิ่มความอ่อนตัวของเนื้อวัว โดยเกิดจากแทนนินซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่พบในไวน์แดง

• ไวน์ขาวและไก่หรือปลา ไวน์ขาวเข้ากันได้ดีกับปลาหรือไก่ เพราะกรดในไวน์ช่วยเพิ่มรสชาติของเนื้อสัตว์ทั้งสองประเภท ทำให้รสชาติสดชื่นขึ้น  คล้ายกับการบีบมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ เนื่องจากความเป็นกรดนั่นเอง

• ไวน์หวานและของหวาน รสชาติที่ไปในทิศทางเดียวกันทำให้สองสิ่งนี้สามารถไปด้วยกัน เช่น ขนมหวานหรือทาร์ตจากผลไม้และไวน์หวาน กลิ่นผลไม้ในไวน์หวานยังสามารถเพิ่มความอร่อยของขนมได้ด้วย

• ไวน์แดงและเนย จานอาหารที่หนักไขมัน หนักเนย หนักน้ำมัน เช่นพาสต้า บัตเตอร์เค้ก นิยมรับประทานคู่กับไวน์แดง เนื่องจากไวน์แดงสามารถตัดรสเนยได้ และกลิ่นไวน์แดงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีกลิ่นที่หวานขึ้นเมื่อดื่มกับอาหารประเภทเนย

• แชมเปญหรือสปาร์คกลิ้งไวน์กับของทอด ของทอดกรอบ หมูทอด ปลาทอด ไก่ทอด เฟรนซ์ฟราย หรืออื่นๆ เข้ากันได้ดีกับฟองฟู่ๆ ในแชมเปญหรือสปาร์คกลิ้งไวน์ นอกจากนั้นอาหารรสเค็มจากเกลือก็เหมาะกับเครื่องดื่มทั้งสองประเภทด้วย ช่วยตัดเลี่ยน ช่วยย่อย และยังทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น

จะเห็นได้ว่าหลักพื้นฐานของการจับคู่ไวน์และอาหารค่อนข้างจำง่ายๆ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นมือสมัครเล่นทำอาหารรับประทานในบ้านหรือตั้งใจจะเปิดร้านอาหารก็สามารถเริ่มลองศึกษาได้โดยจำหลักพื้นฐานเหล่านี้ สำหรับการแยกยี่ห้อไวน์ รูป รส กลิ่นสี โดยรายละเอียดปลีกย่อยต้องอาศัยประสบการณ์ ไม่แน่ว่าในอนาคตคุณอาจไม่หยุดอยู่เพียง ไวน์หวานต้องคู่กับของหวาน แต่อาจลงลึกไปอีกว่าควรเลือกกลิ่นน้ำผึ้ง หรือกลิ่นเชอร์รี่ เพื่อช่วยเสริมให้จานอาหารของคุณสมบูรณ์แบบมากที่สุด

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ นักหมักเบียร์ ที่มีเกณฑ์การวัดคุณภาพของเบียร์ การบ่งชี้ได้ว่าเบียร์นั้นดีหรือไม่ ?

นักหมักเบียร์ หากคุณเป็นคอเบียร์ตัวยง หรือกำลังมีความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจการทำเบียร์ คราฟต์เบียร์ หรือเบียร์ชนิดอื่นๆ แล้วละก็…ขอเชิญทางนี้ เพราะในอุตสาหกรรมการทำเบียร์ เราไม่สามารถประเมินคุณภาพเบียร์ด้วยความชอบส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียวได้ ซึ่งในวงการเบียร์เองก็มีเกณฑ์การวัดคุณภาพของเบียร์ที่ควรจะเป็นเช่นเดียวกัน การบ่งชี้ได้ว่าเบียร์นั้นดีหรือไม่ สามารถช่วยกำหนดเอกลักษณ์ให้เบียร์ได้ ทั้งยังสามารถต่อยอดถึงการจับคู่กับอาหารต่าง ๆ ได้ด้วย

นักหมักเบียร์ เกณฑ์ที่ใช้ในการชิม และประเมินคุณภาพเบียร์ขั้นต้นของนักหมักเบียร์มืออาชีพ จะมีอะไรบ้าง ?

• กลิ่น ในวงการนักหมักเบียร์ใช่คำว่า “Bouquet” แปลว่า “ดอกไม้” เป็นคำแทนของ “กลิ่น” เบียร์ ดังนั้นอย่าแปลกใจที่พวกมืออาชีพถามหาบูเก้ของเบียร์ชนิดต่าง ๆ เขาไม่ได้หมายถึงช่อดอกไม้จริง ๆ โดยคนทำเบียร์จะสังเกตกลิ่นของเบียร์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อทำออกมาแล้วมีกลิ่นใดที่โดดเด่น อาจเป็นกลิ่นผลไม้ หรือกลิ่นของแร่ธาตุบางอย่าง ซึ่งมักเป็นกลิ่นที่อวลเบา ๆ ไม่มากจนไปจึงถือว่าดีสำหรับเบียร์ และกลิ่นเด่นยังเป็นตัวชี้ว่าเบียร์ชนิดนั้น ๆ ควรจับคู่กับอาหารอะไร

• ฟองเบียร์ มีคำกล่าวว่าเบียร์ที่ดีจะมีหัวฟองที่หนาจนฝาขวดสามารถลอยอยู่ด้านบนโดยไม่จม นั่นคือการทดสอบคุณภาพเบียร์ของสายการผลิต แต่ในความเป็นจริงเวลาที่เราดื่ม มักจะพยายามรินให้เกิดฟองน้อยเท่าที่จะเป็นไปได้ นับว่ามีความแตกต่างกัน

• สี ช่วงสีสันที่เหมาะสมของเบียร์คือ สีเหลืองโปร่งแสง ไปจนถึง สีอำพันโปร่งแสง (ในกรณีที่คุณไม่ได้เติมสีสันอื่นลงไป) โดยคุณสามารถวัดคุณภาพสีเบียร์ด้วยตนเองได้ด้วยการยกแก้วเบียร์ขึ้นตรง ๆ แล้วมองผ่านแสงสีไฟสีขาว ซึ่งเบียร์ที่มีสีสันประมาณนี้ถือว่าเหมาะสมที่จะดื่มในกิจกรรมทุกๆ วัน ไม่หนักจนทำให้แฮงก์ เช่น กินข้าวกับเพื่อน ดูบอล ไปร้านนั่งชิล เป็นต้น

• ความนุ่ม ไม่ใช่ว่าจับแล้วนุ่มแต่อย่างใด แต่เป็นความลื่นคอ ละมุน กลมกล่อม (Smoothness) คุณจะพบว่าจริงๆ แล้วมาตรฐานของนักหมักเบียร์ก็ไม่ต่างจากนักหมักไวน์ ความนุ่มนวลของเบียร์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ในการจิบเพียงครั้งเดียว คุณต้องดื่มต่อทั้งขวดจึงจะเห็นว่าความนุ่มมีความสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคดื่มต่อได้มาก คอเบียร์มือใหม่อาจแยกไม่ค่อยออกว่าเบียร์แบบไหนคือเบียร์ที่นุ่มคอ แต่คอเบียร์ตัวยงที่ดื่มมาแล้วนับไม่ถ้วนเป็นเวลานานจะแยกได้ว่านี่แหละ “เบียร์เนื้อเนียน”

• ค่าสัมประสิทธิ์การเมาสุรา ค่าสัมประสิทธิ์การเมาสุรา (Drunkening Coefficient) เป็นสิ่งที่คนหมักเบียร์ควรกำหนดและแยกให้ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ก็สัมพันธ์กับการหมักเบียร์ตั้งแต่แรกเริ่มว่าคุณตั้งใจจะขายเบียร์ราคาเท่าไร เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ควรเป็นเท่าใด ซึ่งถ้าลองดื่มแล้วเมาเร็ว เบียร์ขวดนั้นก็ควรมีราคาที่สูงขึ้น และไม่ควรเน้นขายจำนวนเยอะๆ แต่ถ้าเป็นเบียร์เพื่อการสังสรรค์ ดูบอลตามผับต่าง ๆ เบียร์ก็ควรมีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ที่อ่อนลงมา

ทั้งหมดนี้เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการชิมและประเมินคุณภาพเบียร์ขั้นต้นของนักหมักเบียร์มืออาชีพ ซึ่งถ้าคุณกำลังคิดที่จะศึกษาค้นคว้าในวงการนี้จะพบว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์ไม่น้อย ไม่ว่าจะรูป รส กลิ่นสัมผัส ความมีเอกลักษณ์ของเบียร์ ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่ครองในนักดื่มเสมอมา

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ Café สมุทรปราการ กับบรรยากาศที่ดีสุด ๆ ใกล้เมืองกรุง