ร้านอร่อยใน ย่านเสาชิงช้า ร้านอาหารอร่อย ที่ถ้าหากคุณพลาดไปสักร้าน คุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
ย่านเสาชิงช้า ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่รวบรวมร้านอร่อยไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขนมหวานก็ต้องบอกเลยว่าเด็ดทุกร้านอย่างแน่นอน บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงได้รวบรวมร้านอร่อยในย่านเสาชิงช้าที่ต้องหาเวลาไปกินให้ได้มาไว้ให้แล้ว หากพลาดไปสักร้านแล้วคุณจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน จะเป็นร้านไหนบ้างตามบทความนี้ไปดูกันเลย
รวบรวม 4 ร้านอาหาร ย่านเสาชิงช้า ที่บอกเลยว่ารับประกันความอร่อย และราคาไม่แพงอีกด้วย
“จิต เตาถ่าน” เป็นร้านอร่อยในย่านเสาชิงช้าที่ยังคงใช้เตาถ่านในการทำอาหาร จึงทำให้ร้านอาหารแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้อาหารทุกจานนั้นยังมีกลิ่นหอมจากการใช้เตาถ่านในการทำอาหารอีกด้วย ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศในวันเก่า ๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และไม่ควรพลาดที่จะสั่งเมนูยอดนิยมอย่าง ผัดไทยกุ้งสด ที่ต้องบอกเลยว่าหอมกลิ่นเตาถ่านเป็นอย่างมาก เป็นร้านอร่อยในย่านเสาชิงช้าที่ต้องหาเวลาไปกินให้ได้เลย
“ภูธร บาร์” ร้านอร่อยในย่านเสาชิงช้าที่มีการออกแบบตกแต่งให้ดู Classic ทำให้นึกถึงวันเวลาเก่า ๆเป็นอย่างมาก และทีเด็ดที่ไม่ควรพลาดหากได้มาที่ร้านอร่อยแห่งนี้ก็คือ ขนมปังกลมปิ้งของลุงเฉื่อย ที่มีความกรอบนอกนุ่มใน และใส่ไส้มาแบบจัดเต็ม เป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยที่ต้องหาเวลาไปกินให้ได้ หากใครสนใจสามารถตามพิกัดไปได้ที่แพร่งภูธร ในย่านเสาชิงช้านั่นเอง
“มนต์ นมสด” ร้านอร่อยชื่อดังในย่านเสาชิงช้า ที่ไม่ว่าพูดถึงย่านเสาชิงช้าเมื่อไหร่ก็จะต้องนึกถึงร้านอร่อยแห่งนี้อย่างแน่นอน บอกเลยว่าคนแน่นร้านทุกวัน หากใครจะไปรับประทานก็ต้องเผื่อเวลากันสักหน่อย ในส่วนของเมนูก็จะเป็น ขนมปังปิ้ง ขนมปังนึ่งสังขยา และเครื่องดื่มทั่ว ๆ ไป แต่ที่พิเศษก็คือ มีไส้ของขนมปังให้เลือกเยอะมากจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี)” ร้านราดหน้าที่อยู่คู่กับย่านเสาชิงช้ามาเป็นเวลานาน ในย่านนั้นไม่มีใครที่ไม่รู้จักร้านราดหน้าชื่อดังร้านนี้อย่างแน่นอน และสาเหตุที่ทำให้ร้านราดหน้าแห่งนี้มีชื่อเสียงมาจนถึงในปัจจุบันนั่นก็เพราะรสชาติความอร่อยที่ไม่เคยเปลี่ยนไปนั่นเอง บอกเลยว่าคุณต้องหาเวลามารับประทานให้ได้สักครั้ง รับรองว่าจะติดใจร้านอร่อยในย่านเสาชิงช้าแห่งนี้อย่างแน่นอน
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ พาไปตะลุยกิน ร้านอาหารย่านตลาดพลู ที่บอกว่าอร่อยเด็ดสุด ๆ และไม่ควรพลาดเด็ดขาด !
พาไปตะลุยกิน ร้านอาหารย่านตลาดพลู ที่บอกว่าอร่อยเด็ดสุด ๆ และไม่ควรพลาดเด็ดขาด !
ร้านอาหารย่านตลาดพลู เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าย่านตลาดพลูนั้นเป็นย่านที่เต็มไปด้วยของกินเด็ด ๆ และมีชื่อเสียงมากมาย บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะพาไปตะลุยกินที่ร้านอาหารชื่อดังย่านตลาดพลู รับรองเลยว่าร้านอาหารที่คัดสรรมานั้นเด็ดทุกร้าน แล้วต้องบอกเลยว่าหากคุณพลาดไปสักร้านแล้วจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
แนะนำ 5 ร้านอาหารย่านตลาดพลู อาหารสูตรเด็ด ที่บอกเลยว่า แต่ละร้านนั้น มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ตะลุยกินร้านอาหารชื่อดังย่านตลาดพลูร้านแรกที่ “กระเพาะปลาน้ำข้นสูตรโบราณ” ร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ริมทางรถไฟในย่านตลาดพลู เป็นเจ้าเก่าแก่ในย่านตลาดพลูที่เป็นสูตรโบราณ ถึงแม้ว่าจะใช้หนังหมูในการทำแทนกระเพาะปลา แต่บอกเลยว่ารสชาติที่ยอดเยี่ยมสูตรโบราณแบบนี้หารับประทานที่ไหนไม่ได้อย่างแน่นอน
“เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู ต.จันทร์เพ็ญ” ร้านอาหารชื่อดังเก่าแก่ในย่านตลาดพลู ไม่ว่าคุณจะชอบรับประทานเนื้อแบบสด แบบเปื่อย หรือแบบไหน ๆทางร้านก็สามารถที่จะทำให้คุณได้ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบสุด ๆ และด้วยน้ำซุปที่กลมกล่อมจากความชำนาญในการปรุงรสชาติที่มากกว่า 50 ปี บอกได้เลยว่าสายรับประทานเนื้อไม่ควรพลาดร้านอาหารชื่อดังร้านนี้ในย่านตลาดพลูอย่างเด็ดขาดเลยทีเดียว
“นิอ่าง น้ำแข็งไสตลาดพลู” ร้านน้ำแข็งไสในย่านตลาดพลูที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในย่านนั้น และแม้แต่ในโลก Social เองก็มีชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นอย่างมากไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นร้านขนมหวานที่โด่งดังมากที่สุดในย่านตลาดพลูเลยก็ว่าได้ และนอกจากน้ำแข็งไสแล้ว เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดก็คือ “ไอติมไข่แข็ง” ที่รับรองเลยว่าคุณจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
“ฉอเล้ง หมี่กระเฉดตลาดพลู” ร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้ในย่านตลาดพลูต้องบอกเลยว่าคิวแน่นทุกวัน ด้วยสูตรการผัดหมี่กระเฉดของทางร้านเองจึงมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนเจ้าไหน ๆ และร้านที่ว่านี้ก็ตั้งอยู่ริมทางรถไฟในย่านตลาดพลู หากใครจะมารับประทานก็สามารถหาได้ไม่ยากอีกด้วย
“เจ๊บิ เปาะเปี๊ยะสด” ร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังในย่านตลาดพลูที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เลยก็ว่าได้ หากใครอยากรับประทานก็ต้องรีบไปเร็วหน่อย เพราะทำออกมาจำนวนจำกัดทุกวัน และก็หมดเร็วทุกวันอีกด้วย
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ของอร่อยย่านจุฬา และสามย่าน โดยเฉพาะร้านอาหารเก่าแก่มากมายที่มีชื่อเสียง ที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
พาตะลุยกิน !! ของอร่อยย่านจุฬา และสามย่าน โดยเฉพาะร้านอาหารเก่าแก่มากมายที่มีชื่อเสียง ที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
ของอร่อยย่านจุฬา และสามย่าน ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีความเก่าแก่ โดยเฉพาะร้านอาหารเก่าแก่มากมายที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตมาจนถึงในปัจจุบันด้วยรสชาติความอร่อยแบบดั้งเดิม บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะพาไปตะลุยกินของอร่อยย่านจุฬา และสามย่าน จะเป็นร้านไหนบ้างตามบทความนี้ไปดูกันเลย
แนะนำ 4 ร้านอาหาร ของอร่อยย่านจุฬา และสามย่าน จะมีร้านไหนบ้าง ?
ตะลุยกินของอร่อยย่านจุฬา และสามย่านร้านแรกต้องบอกเลยว่าเป็นร้านเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ร้านที่ว่านี้ก็คือ “ร้านข้าวขาหมูจุฬา” ด้วยขาหมูที่ต้มอย่างพอดีจึงทำให้มีความนุ่มละมุนละลายในปาก และด้วยสูตรน้ำขาหมูแบบดั้งเดิมมีความเข้มข้น กลมกล่อม จึงทำให้ร้านข้าวขาหมูแห่งนี้ติดอันดับของอร่อยในย่านจุฬา และสามย่านมาจนถึงในปัจจุบัน
“Class Café” Café ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมอย่างมากในโคราชได้มาเปิดสาขาใหม่แล้วที่สามย่าน อร่อยเด็ดแค่ไหนดูได้จากสาขาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆในปัจจุบัน และเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดคือ ชาส้มเชจู ที่รับรองเลยว่าคุณจะรู้สึกสดชื่นทันทีที่ดื่มเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งของอร่อยย่านจุฬา และสามย่านที่ต้องมาตะลุยกินให้ได้สักครั้ง
“ร้านส้มตำเจ๊แดง สามย่าน” ตะลุยกินของอร่อยแซ่บ ๆที่สามย่าน ใครที่ชอบอาหารรสชาติจัดจ้านจะต้องถูกใจร้านอาหารแห่งนี้อย่างแน่นอน การันตีเลยว่าอร่อยเด็ดทุกเมนู แต่แอบกระซิบว่าหากใครจะมาช่วงเที่ยง ๆต้องเผื่อเวลากันสักหน่อย เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนแน่นร้านต่อคิวกันอย่างยาวเหยียดแทบทุกวันเลยทีเดียว
“Johnny Restaurant” ตะลุยกินของอร่อยที่เป็นที่นิยมของนักศึกษามหาวิทยาลัยจุฬาฯ ด้วยความรวดเร็วสมชื่ออาหารจานด่วนแล้วยังมีรสชาติที่ถูกปากเป็นอย่างมาก และยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจุฬาฯ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารตามสั่งให้เลือกมากมาย เรียกได้ว่ากินทุกวันก็ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
“ต้นกก” ร้านเค้กชื่อดังในย่านจุฬา และสามย่าน ด้วยความอร่อย หอม นุ่ม ละมุนของเค้กที่ร้านแห่งนี้จึงทำให้มีความนิยมเป็นอย่างมาก และที่สำคัญยังมีราคาที่ย่อมเยาอีกด้วย ไม่ว่าจะซื้อรับประทานเองหรือซื้อเป็นของฝากก็บอกเลยว่าต้องถูกใจทั้งผู้ให้ และผู้รับอย่างแน่นอน หากใครได้มีโอกาสแวะมาที่ย่านจุฬา และสามย่านก็อย่าลืมที่จะแวะมาที่ร้านต้นกกแห่งนี้รับรองว่าคุณจะได้ของอร่อยติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอน
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่
ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม เมนูโปรดของหลาย ๆ คน ที่บอกเลยว่าช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยผักใบเขียวด้วยคะน้า
ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม เมนูข้าวผัดแสนอร่อยรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมหวลเป็นเอกลักษณ์ชวนรับประทาน สำหรับเมนูวันนี้ที่เรานำเสนอกันคือเมนูข้าวผัดปลาเค็ม โดยปลาเค็มที่เป็นวัตถุดิบหลักในวันนี้เราเลือกซื้อมาเป็นชิ้นเพื่อให้ง่ายต่อการประกอบอาหาร และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยผักใบเขียวอย่างผักคะน้ากัน เราไปดูกรรมวิธีกรรมวิธีการทำพร้อม ๆ กันเลย
วิธีทำ และวัตถุดิบที่ใช้สำหรับเมนู ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม
1.ข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย
2.ปลาเค็ม 50 กรัม
3.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
4.พริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด
5.กระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ
6.น้ำปลา ปริมาณ 1/2 ช้อนชา
7.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1/3 ช้อนชา
8.น้ำมันหอย ปริมาณ 1/2 ช้อนชา
9.ซอสปรุงรสฝาเขียว ปริมาณ 1/4 ช้อนชา
10.ไข่ไก่ ปริมาณ 1 ฟอง
11.ผักคะน้า ปริมาณ 2 – 3 ก้าน
12.แตงกวา ปริมาณครึ่งลูก
อุปกรณ์สำหรับเมนูข้าวปลาเค็ม
1.มีด
2.เขียง
3.กระทะ
4.ตะหลิว
5.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ
ขั้นตอนการทำสำหรับเมนูข้าวผัดคอหมูย่าง
1.นำผักคะน้า ปริมาณ 2 – 3 ก้านมาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นให้มีขนาดเล็กลง แล้ววางใส่จานวางพักไว้
2.นำกระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ มาปอกเปลือก แล้วทุบหยาบ วางใส่จานพักไว้
3.นำแตงกวา ปริมาณครึ่งลูก มาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นตามขวาง แล้ววางใส่จานวางพักไว้
4.นำพริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด มาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นซอย แล้ววางใส่จานวางพักไว้มาล้าง
5.นำกระทะมาตั้งไฟ รอจนร้อนได้ที่ เติมน้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปรอจนน้ำมันร้อนได้ที่
6.เติมกระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ ที่เตรียมไว้ลงไปเจียวจนหอม
7.เตรียมปลาเค็มโดยแยกก้างปลาเค็มออก เอาเฉพาะเนื้อปลาเค็มปริมาณ 50 กรัม ที่เตรียมไว้ลงไปผัดพอใกล้สุก เติมข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย ลงไปผัดคลุกเคล้า
8.ตอกไข่ใส่ลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน
9.ทำการปรุงรส โดยการเติมน้ำปลา ปริมาณ 1/2 ช้อนชา, น้ำตาลทราย ปริมาณ1/3 ช้อนชา, น้ำมันหอย ปริมาณ 1/2 ช้อนชา และซอสปรุงรสฝาเขียว ปริมาณ 1/4 ช้อนชา ลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน
10.เติมผักคะน้า ปริมาณ 2 – 3 ก้าน ที่เตรียมไว้ลงไปผัดคลุกเคล้า รอจนทุกอย่างสุกจนทั่วถึง เติมพริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด ลงไปผัดอีกเล็กน้อย ตักใส่จานเตรียมเสริฟ์ จากนั้นนำแตงกวา ปริมาณครึ่งลูกมาวางเคียงข้างจาน เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้นสามารถเพิ่มมะนาวครึ่งซีกวางไว้สำหรับท่านที่ต้องการเพิ่มความเปรี้ยวให้กับข้าวผัดที่มีความเค็มจากปลาเค็มเพื่อความหอมอร่อยลงตัว
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ร้าน MAGIC อร่อย ในดอนเมือง ที่เป็นร้านข้าวแกงแบบตักราด ที่คนนิยมรับประทานกันอย่างมาก
ร้าน MAGIC อร่อย ในดอนเมือง ที่เป็นร้านข้าวแกงแบบตักราด ที่คนนิยมรับประทานกันอย่างมาก
ร้าน MAGIC อร่อย หากเราต้องเดินทางโดยสารเครื่องบินและต้องบินจากสนามบินดอนเมืองซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่การจราจรค่อนข้างคับคั่ง เราจึงต้องเผื่อระยะเวลาในการเตรียมตัวขึ้นเครื่อง ด้วยระยะเวลาที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนรอขึ้นเครื่องนี้อาจทำให้เกิดความหิวขึ้นได้ แต่อาหารที่สนามบินโดยทั่ว ๆ ไปตามเสียงล่ำเสียงลือก็มักมีราคาค่อนข้างสูง หรือ บางครั้งเราก็มาถึงเช้ามากเพื่อให้พร้อมต่อการขึ้นเครื่อง
ร้าน MAGIC อร่อย ในดอนเมือง ที่ราคาอาหารไม่แพง และยังมีอาหารหลากหลายอีกด้วย
ร้านอาหารในสนามบินอาจยังไม่เปิดให้บริการ สำหรับวันนี้เราขอนำเสนอร้านอาหารที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องเวลาเพราะร้านดังกล่าวเปิดให้บริการจำหน่ายอาหารตั้งแต่เวลา 05.00 น. (จึงเหมาะสำหรับมารับประทานเป็นอาหารมื้อเช้า) และปิดให้บริการเวลา 21.00 น. (จึงเหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารมื้อเที่ยงและเย็น) ด้วยเวลาเปิดบริการที่เอื้ออำนวยเช่นนี้จึงมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้มาใช้บริการอย่างยิ่ง ร้าน MAGIC อร่อยตั้งอยู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ บริเวณชั้น 3 ทางเชื่อมไปยังที่จอดรถ ส่วนอาหารก็หลากหลายราคาไม่แพง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าจะไม่แพงและหลากหลายขนาดไหน
ร้านนี้เป็นข้าวแกงแบบตักราดหรือถ้าเราจะขอใส่ถ้วยเล็ก ๆ ก็ได้ ราคาข้าวพร้อมกับข้าว 1 อย่าง อยู่ที่ 40 บาท, ราคาข้าวพร้อมกับข้าว 2 อย่าง อยู่ที่ 50 บาท และราคาข้าวพร้อมกับข้าว 3 อย่าง อยู่ที่ 60 บาท กับข้าวก็มีทั้งไข่พะโล้ ต้มจืด แกงเขียวหวาน ต้มข่า ผัดพริกหยวกหมู ไข่ดาว กุญเชียงทอด ไชโป้ผัดไข่ ไก่ผัดขิง สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งในแต่ละวันจะมีรายการอาหารให้เลือกรับประทานกันกว่า 10 รายการเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็มีขนมหวานอยู่ที่ราคาถ้วยละ 25 บาท ขายกันอีกด้วย
ซึ่งก็มีกล้วยบวด บัวลอย กล้วยเชื่อม ฟักทองเชื่อม เป็นต้น ในส่วนของขนมหวานหากเกินช่วงเที่ยง ๆ มาหน่อยทางร้านก็จะขายหมด ทำให้มักไม่ได้รับประทานกันในช่วงเย็น ๆ เมื่อมารับประทานที่ร้านและที่ร้านก็มีเครื่องดื่มขายที่ราคา 10 บาท (เครื่องดื่มเป็นน้ำเปล่า) ทางร้านจะให้เราสั่งอาหารที่เคาร์เตอร์พร้อมกับที่ทางร้านเก็บเงินและเรารับอาหารมาหาโต๊ะที่นั่ง โดยที่นั่งของร้าน MAGICอร่อยก็มีทั้งโต๊ะนั่งรับประทานที่เป็นคู่ 2 ท่านและโต๊ะสำหรับ 4 ท่าน และเคาร์เตอร์บาร์ซึ่งเหมาะสำหรับนั่งรับประทานเพียงท่านเดียวคอยให้บริการอีกด้วย (ที่นั่งมีค่อนข้างน้อย หากเทียบกับปริมาณผู้มารับประทานอาหารที่ร้าน โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงๆ) MAGIC อร่อย จึง MAGICในส่วนของราคาและอร่อยสมชื่อจริง ๆ
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ข้าวผัดคอหมูย่าง เป็นเมนูที่บอกเลยว่า ทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ แถมยังอร่อยอีกด้วย
ข้าวผัดคอหมูย่าง เป็นเมนูที่บอกเลยว่า ทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ แถมยังอร่อยอีกด้วย
ข้าวผัดคอหมูย่าง คอหมูย่างอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน แต่หากรับประทานมากไป ก็อาจจะเบื่อได้ แต่ถ้าเราซื้อมาจำนวนหนึ่งแล้วรับประทานไม่หมด จะรับประทานซ้ำเป็นคอหมูย่างอีกก็จะธรรมดาเกินไป สำหรับวันนี้เราจึงขอนำเสนอเมนูประยุกต์ใช้วัตถุดิบคอหมูย่างมาเป็นข้าวผัด รวมร่างเป็นข้าวผัดคอหมูย่าง เราไปดูกรรมวิธีการทำเมนูนี้พร้อม ๆ กันเลย
วิธีทำ และวัตถุดิบสำหรับทำเมนู ข้าวผัดคอหมูย่าง จะมีอะไรบ้าง ?
1.ข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย
2.คอหมูย่างปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด
3.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
4.ต้นหอม ปริมาณ 2 – 3 ต้น
5.หัวหอมแดง ปริมาณ 2 – 3 หัว
6.พริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด
7.กระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ
8.น้ำปลา ปริมาณ 1 ช้อนชา
9.น้ำตาลทราย ปริมาณ1/3 ช้อนชา
10.น้ำมันหอย ปริมาณ 1/2 ช้อนชา
11.ซอสปรุงรสฝาเขียว ปริมาณ 1/2 ช้อนชา
12.ไข่ไก่ ปริมาณ 1 ฟอง
อุปกรณ์สำหรับเมนูข้าวผัดคอหมูย่าง
1.มีด
2.เขียง
3.กระทะ
4.ตะหลิว
5.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ
ขั้นตอนการทำสำหรับเมนูข้าวผัดคอหมูย่าง
1.นำต้นหอม ปริมาณ 2 – 3 ต้นมาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นซอย แล้ววางใส่จานวางพักไว้
2.นำกระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ มาปอกเปลือก แล้วทุบหยาบ วางใส่จานพักไว้
3.นำต้นหอม ปริมาณ 2 – 3 ต้น มาล้างน้ำให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นซอย แล้ววางใส่จานวางพักไว้
4.นำพริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด มาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นซอย แล้ววางใส่จานวางพักไว้มาล้าง
5.นำกระทะมาตั้งไฟ รอจนร้อนได้ที่ เติมน้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปรอจนน้ำมันร้อนได้ที่
6.เติมกระเทียม ปริมาณ 2 – 3 กลีบ ที่เตรียมไว้ ลงไปเจียวจนหอม
7.เติมคอหมูย่างปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด ที่เตรียมไว้ลงไปผัดพอใกล้สุก เติมข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย ลงไปผัดคลุกเคล้า
8.ตอกไข่ใส่ลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน
9.ทำการปรุงรส โดยการเติมน้ำปลา ปริมาณ 1 ช้อนชา, น้ำตาลทราย ปริมาณ1/3 ช้อนชา, น้ำมันหอย ปริมาณ 1/2 ช้อนชา และใส่ซอสปรุงรสฝาเขียว ปริมาณ 1/2 ช้อนชา ลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน
10.เติมต้นหอม ปริมาณ 2 – 3 ต้น ที่เตรียมไว้ลงไปผัดคลุกเคล้า รอจนทุกอย่างสุกจนทั่วถึง ตักใส่จานเตรียมเสริฟ์ จากนั้นนำหัวหอมแดง ปริมาณ 2 – 3 หัว และพริกขี้หนู ปริมาณ 3 – 5 เม็ด ที่เตรียมไว้ วางเคียงข้างข้าวผัดคอหมูย่างเพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มอรรถรสแก่ข้าวผัดคอหมูย่าง และเมนูนี้จะอร่อยยิ่งขึ้นหากรับประทานคู่กับน้ำพริกแจ่ว
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เมนูห่อเป็นคำ แสนอร่อย ที่คุณสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ และยังมีประโยชน์อีกด้วย
เมนูห่อเป็นคำ แสนอร่อย ที่คุณสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ และยังมีประโยชน์อีกด้วย
เมนูห่อเป็นคำ ที่บอกเลยว่าเป็นอาหารที่เรานั้นสามารถทำทานได้แบบง่ายสุด ๆ ใครที่ชอบทานอาหารแนวห่อ ผสมผสานความอร่อยในคำเดียว จะต้องถูกใจ วันนี้อยากที่จะมา แนะนำ 3 เมนูอาหารแนวห่อ ที่สามารถทำทานเป็นชิ้น ๆ อร่อย ๆ ได้ที่บ้าน สายคนชอบทานอาหารทานเองไม่ควรพลาด
แนะนำ 3 เมนูห่อเป็นคำ จะมีวิธีทำ และวัตถุดิบอะไรบ้าง ?
เมนูแรกที่อยากจะมาแนะนำ คือ เมี่ยงเต้าหู้ทรงเครื่อง เป็นอีกเมนูอาหารคลีน ๆ ที่น่าสนใจในหมู่คนรักสุขภาพ สิ่งที่เราต้องเตรียม เต้าหู้แผ่น มะนาว หอมแดง ขิงอ่อน ตะไคร้ซอย พริกขี้หนู น้ำปลา มะนาว น้ำตาล ผักห่อตามความชอบ เช่น ผักกาดหอม ผักกาดขาว วิธีทำ นำสิ่งที่เรานั้นเตรียมมากหั่นเป็นชิ้นเล็กให้สามารถห่อได้ ทำน้ำยำตามรสชาติที่เราชอบ นำไปห่อผัก ก็เรียบร้อยพร้อมทาน
เมนูที่สองที่อยากจะมาแนะนำ คือ เปาะเปี๊ยะทอดไส้กุ้งชีส เป็นอีกเมนูอาหารแนวห่อ ๆ ที่น่าสนใจและทำง่ายมาก สิ่งที่เราต้องเตรียม
คือ แผ่นเปาะเปี๊ยะ เชดดาร์ชีส กุ้งสด ออริกาโน่ ไข่ไก่ ซอยมะเขือเทศ วิธีทำ วางชีสและกุ้งที่เตรียมไว้ ห่อด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะ ทาด้วยไข่ไก่และแป้งขาวโพดก่อน จากนั้นนำลงทอดกรอบ ให้เหลืองสุก ทานกับซอสมะเขือเทศอร่อยสุด ๆ
เมนูที่สามที่อยากจะมาแนะนำ คือ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ สิ่งที่ต้องเตรียม หมูสับ พริกไทย เครื่องปรุงรสชาติ แครอท ผักกาดหอม ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ วิธีทำ นำหมูสับหมักให้มีรสชาติตามที่เราชอบ นำหมูไปรวนให้สุก นำเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ไปนึง พักไว้ นำผักต่าง ๆ และเนื้อสัตว์ที่เรานั้นเตรียม มาห่อด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ทานกับน้ำจิ้มรสเด็ด พร้อมทาน
ทั้งหมดก็เป็นเมนูอาหารแนวห่อ ๆ ที่บอกเลยว่าอร่อย ใคร ๆ ก็สามารถทำทานได้ง่ายสุด ๆ ที่บ้าน รับรองถุกใจ ไม่อ้วนอีกด้วย
*** ไข่เป็ดจะช่วยให้เนื้อขนมเซทตัวได้ดี เนื้อแน่นเด้งเหมือนพุดดิ้ง และทำให้สีสวยนวลน่ากิน
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เมนูขนมหวาน สังขยาฟักทอง ที่เนื้อด้านในเหมือนพุดดิ้ง บอกเลยว่าทำทานเองได้ง่าย ๆ
ของหวานดับร้อน เมนูที่จะทำให้คุณสดชื่นมากยิ่งขึ้น แถมยังอร่อยมาก ๆ อีกด้วย
ของหวานดับร้อน อากาศร้อน ๆ ของประเทศไทยที่แสนจะอบอ้าว ทำเอาผิวหน้าผิวตัวไหม้เกียม อีกทั้งยังทำให้รู้สึกหงุดหงิดอีกด้วย เพราะความร้อนนี้ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากออกไปไหนแต่ละทีแทบจะเป็นลมล้มตึงไป หน้ามืดเหมือนจะวูบกันไปหมด แต่กระนั้นหลาย ๆ คนก็มีวิธีดับร้อนในแบบของตัวเองกันใช่ไหมละคะ ไม่ว่าจะเป็นเปิดแอร์ ตากพัดลม แช่น้ำ อาบน้ำต่าง ๆ นา ๆ ที่ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น แต่สำหรับวันนี้นั้นเราอยากจะมาแนะนำอีกวิธีหนึ่งของการดับร้อนนั้นก็คือการกินของเย็น ๆ นั้นเองค่ะ ซึ่งสำหรับเมนูดับร้อนของเรานี้ก็จะเป็นพวกของหวานต่าง ๆ ที่ให้ความสดชื่นนะคะ จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นเพื่อนๆคงจะอยากรู้กันแฃ้วใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลย
แนะนำ 3 ของหวานดับร้อน ที่เป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คน จะมีอะไรบ้าง ?
1. บิงซู มาที่เมนูแรกของเรากันนะคะ เป็นของหวานยอดฮิตที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของโปรดของใครหลายๆคนนะคะ สำหรับบิงซูนั้นเป็นเมนูที่ช่วยดับร้อนได้ดีมากๆเพราะทำมาจากเกร็ดน้ำแข็งที่ละเอียดมากและเกร็ดบิงซูนั้นทำจากนมหวานๆเมื่อได้กินเข้าไปเราจะรู้สึกสดชื่นมาก ๆ ทั้งเย็นทั้งเติมความหวานให้กับร่างกายบอกเลยค่ะว่าถ้าได้กินในตอนอากาศร้อนๆเนี่ยฟินแน่นอนค่ะรับประกัน
2. เฉาก๊วย สำหรับเมนูต่อมาของเรานั้นเป็นอีกเมนูหนึ่งที่ต้องหามากินให้ได้เลยนะคะ ในตอนอากาศร้อนๆ ซึ่งเฉาก๊วยนั้นจะเป็นวุ้นๆและมีน้ำเฉาก๊วยหวานๆใส่ลงไปบวกกับเติมน้ำแข็งลงไป กินพร้อมกันก็จะอร่อยมากๆเลยค่ะได้รสชาติหวานๆของเฉาก๊วยแถมกินกับน้ำแข็งก็จะเย็นๆหวานๆทำให้เรารู้สึกสดชื่นมากๆ ดังนั้นหากเราเหนื่อยๆร้อนๆก็ดับร้อนด้วยเฉาก๊วยนะคะ
3. น้ำแข็งใส ถือได้ว่าหากคิดถึงเมนูดับร้อนเมื่อไหร่เรียกได้ว่าเกือบแทบทุกคนจะนึกถึงเมนูนี้ เพราะน้ำแข็งใสเป็นน้ำหวานที่กินคู่น้ำแข็งเป็นอะไรที่แค่คิดก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้นะคะ และสำหรับน้ำแข็งใสนั้นก็หลากหลายมาก ๆ นะคะ ทั้งมีน้ำหวานให้เลือกใสมากมายเลย รวมทั้งเครื่องต่างๆมากมายที่เพิ่มลูกเล่นในการกิน ทั้งขนมปัง ลูกชิพ วุ้นต่างๆมากมาย ทำให้การกินน้ำแข็งใสนั้นได้ทั้งความสดชื่นและความหลากหลายมากๆ เราจะได้รู้ว่าเป็นเมนูที่ไม่จำเจเลย ดังนั้นลองไปหาทานกันนะคะ รับรองว่าอร่อยสดชื่นแน่นอนค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะกับการแนะนำ 3 ของหวานดับร้อน เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆเมนูที่เราได้แนะนำไปหวังว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงจะดับร้อนกันได้บ้างแล้วนะคะ และสุดท้ายนี้เพื่อนก็ลองไปหามาทานกันนะคะ เพื่อความสดชื่นและคลายความร้อนที่เราต้องเจอกับแดดของประเทศไทยนะคะ
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่
เมนูขนมหวาน สังขยาฟักทอง ที่เนื้อด้านในเหมือนพุดดิ้ง บอกเลยว่าทำทานเองได้ง่าย ๆ
สังขยาฟักทอง วันนี้ข้างบ้านเอาฟักทองมาให้ค่ะ เป็นฟักทองลูกเล็กคล้ายกับฟักทองญี่ปุ่น เห็นฟักทองลูกขนาดนี้แล้วก็อดนึกถึงสังขยาฟักทองไม่ได้ เพราะลูกกำลังดี เหมาะกับการทำสังขยามาก ๆ เลยล่ะ แต่เชื่อว่าปัญหาในการทำสังขยาฟักทองของแต่ละบ้านก็คือทำออกมาแล้วเนื้อไม่เนียน มีฟองอากาศอยู่ในเนื้อสังขยาเต็มไปหมด เวลาตัดแล้วดูเป็นรู ๆ เหมือนฟองน้ำ ดูไม่สวยงาม และสีไม่ค่อยสวย เรามีวิธีที่จะทำให้สังขยาเนียนสวยเหมือนพุดดิ้งมาฝากค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องเชคฟักทองก่อนนะคะ
วิธีทำ และวัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูขนมหวาน สังขยาฟักทอง เมนูโปรดของหลาย ๆ คน
วิธีการดูว่าฟักทองที่ได้มานั้นเหมาะกับการทำสังขยาไหม ให้เอาเล็บจิกที่ตูดลูกฟักทอง ถ้าหากแข็งดี จิกไม่ลง ก็ใช้ได้ค่ะ เพราะถ้าใช้ฟักทองที่อ่อนกว่านี้จะทำให้สังขยาฟักทองของเราแตกตอนที่นึ่งนั่นเองค่ะ เมื่อได้ฟักทองที่ต้องการแล้วก็ล้างและขัดให้สะอาด เปิดด้านบนนิดหน่อย ให้พอเอาช้อนลงไปคว้านไส้ฟักทองได้ คว้านไส้ฟักทองออกให้หมด ล้างให้สะอาดและวางพักไว้
ส่วนวัตถุดิบอื่น ๆ เตรียมตามนี้ค่ะ 1 . หัวกะทิ 2. น้ำตาลปี๊บ 3. ไข่เป็ด 5 ฟอง (ฟักทอง 4 ลูก) 4. ไข่ไก่ 8 ฟอง 5.ใบเตย
วิธีทำ
1.ตอกไข่ไก่ และไข่เป็ดลงในน้ำกะทิ โดยที่ไม่ต้องแยกไข่ขาว ไข่แดง แล้วเอาใบเตยมาหั่นเป็นท่อน ๆ ขยำใบเตยในไข่และกะทิ เพื่อให้ไข่และกะทิเข้ากันดี และให้กลิ่นของใบเตยออกมากลบกลิ่นคาวไข่ ขยำไปเรื่อย ๆ จนกว่าไข่และกะทิจะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
2.ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ชิมรสหวานตามชอบ หากเป็นน้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลมะพร้าวธรรมชาติจะไม่หวานมาก รสชาตินุ่มกำลังดี คนน้ำตาลปี๊บให้ละลายเข้ากับไข่และกะทิ
3.เอาผ้าขาวบางมากรองเนื้อสังขยาที่เราทำไว้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เนื้อสังขยาเนียนเหมือนเนื้อพุดดิ้ง ให้กรองหลาย ๆ ครั้ง หรือซ้อนผ้าขาวบาง 2- 3 ชั้น เพื่อให้กรองออกมาแล้วมีฟองน้อยที่สุด
4.เมื่อกรองเสร็จแล้วเอาเนื้อสังขยากรอกลงในฟักทองอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้เกิดฟอง และอย่าใส่จนเต็ม เว้นที่เพื่อให้เนื้อขนมขยายตัวสัก 1 ซ.ม. จากขอบฟักทอง
5.นึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 20 นาที และเร่งไฟแรงในตอนท้ายประมาณ 10 นาที เพื่อป้องกันฟักทองแตก หากต้องการรู้ว่าเนื้อสังขยาสุกหรือยัง ให้เอาไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มเนื้อสังขยาฟักทองลงไปตรง ๆ หากไม่มีน้ำติดขึ้นมาแปลว่าสุกได้ที่ พร้อมเสริฟ
*** ไข่เป็ดจะช่วยให้เนื้อขนมเซทตัวได้ดี เนื้อแน่นเด้งเหมือนพุดดิ้ง และทำให้สีสวยนวลน่ากิน
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่
เมนู อาหารไก่แซ่บ เมนูรสเด็ด จัดจ้าน มาก ๆ ที่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด และทำทานเองที่บ้านได้ง่ายสุด ๆ
อาหารไก่แซ่บ ก็เป็นอีกเมนูอาหารที่มีความนิยมในการทาน สำหรับคนที่สามารถทานอาหารที่มีรสชาติที่เด็ดและจัดจ้านได้ เชื่อว่าทุกวันนี้การทำอาหารทานที่บ้านได้แบบง่าย ๆ เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนนั้นทำกันเองอยู่แล้ว วันนี้แอดอยากที่จะมา แนะนำ 3 เมนูอาหารไก่แซ่บ ที่บอกเลยว่าน่าสนใจ รสเด็ดจัดจ้านมาก ๆ ห้ามพลาด ทำทานเองที่บ้านได้ง่ายสุด ๆ
แนะนำ 3 เมนู อาหารไก่แซ่บ ที่รสชาติอร่อยสุด ๆ และวัตถุดิบที่ใช้ทำ มีอะไรบ้าง ?
เมนูแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ข้าวยำไก่แซ่บ เป็นอีกเมนูอาหารที่รสชาติเด็ดและจัดจ้าน สิ่งที่ต้องเตรียม ไก่ทอดกรอบ หอมแขก น้ำปลา น้ำตาล มะนาว ข้าวคั่ว พริกป่น ผักชีฝรั่ง วิธีทำก็สุดแสนจะง่าย ทำการสับไก่ที่เราได้ทำการทอดกรอบ จากนั้นนำการปรุงรสชาติให้มีความเด็ดและความจัดจ้านตามที่เราชอบ โรยผักชีฝรั่ง ราดข้าวพร้อมทาน
เมนูที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ไก่ทอดวิงส์แซ่บ เป็นอีกเมนูอาหารยอกฮิต สิ่งที่ต้องเตรียม น่องไก่ น้ำผสมเกลือเข้มข้น แป้งโกกิ เกลือ ผงลาบ ไข่ไก่ พริกป่น วิธีทำ ทำการแช่ไก่กับน้ำเกลือเพื่อเป็นการทำความสะอาด ทำการเตรียมแป้งทอด นำไก่ไปทอด จากนั้นนำมาคลุกกับผงลาบ เกลือ พริกป่น ตามที่เราชอบ เรียบร้อยพร้อมทาน
เมนูที่สามที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ต้มข่าไก่ เป็นอีกอาหารที่มีความรสชาติแซ่บ สิ่งที่ต้องเตรียม เนื้อไก่ น้ำซุปไก่ เครื่องต้มยำ เห็ด เครื่องปรุงรสชาติ มะนาว กะทิ พริกเผา พริกขี้หนูสด ต้นหอมผักชี วิธีทำก็สดแสนง่าย ทำเหมือนกับต้มยำ ที่เพิ่มในส่วนของกระทิและพริกเผา เข้าไป ก็เรียบร้อยพร้อมทาน
ทั้งหมดก็เป็นเมนูอาหารไก่แซ่บที่ต้องบอกเลยว่าใครก็สามารถทำทานได้ง่าย ๆ ที่บ้าน รับรองว่าอร่อย และได้ประโยชน์ จากไก่ที่มีรสชาติตัดจ้าน สุดแซ่บ
รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่