3 เมนูอาหารราคาแพง สำหรับใครก็ตามที่เกิดมาและได้บรรจุหนึ่งในความฝันว่า สักวันจะเดินทางรอบโลกเพื่อไล่ชิม ลิ้มรสอาหารจากทั่วโลกเป็นบุญชีวิตสักครั้งจะได้ตายตาหลับ แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่ มีอาหารบางชนิดที่ต่อให้มีชีวิตยืนยาวแค่ไหนก็สามารถหารับประทานได้นั่นก็คือ อาหารที่มีราคาแพงนั่นเอง เตรียมพบกับเมนูอาหาร หรือวัตถุดิบที่เกี่ยวกับอาหารที่มีราคาแพง ชนิดต้องสละเงินเดือนทั้งเดือนเพื่อแลกกับอาหารจานเดียวหรือวัตถุดิบเพียงชิ้นเดียวด้วยซ้ำ ไปติดตามชมกันว่าจะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง

มาทำความรู้จักกับ 3 เมนูอาหารราคาแพง ที่ต้องลองสักครั้ง

เนื้อวากิว ญี่ปุ่น

เนื้อวากิว (Wagyu Steak)

อีกหนึ่งแรร์ไอเทมที่มีเฉพาะถิ่นเท่านั้นอย่าง แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เนื้อวากิว หรือเนื้อวัววากิวคุณภาพระดับโลก ผ่านการเลี้ยงในฟาร์มอย่างดี ผ่านคอนเซปวัวมีความสุข เนื้อก็จะคุณภาพดี ปัจจุบันเนื้อวากิวถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูแรร์ไอเทมที่มีราคาแพงมาก ๆ สำหรับวากิว ริบอาย เกรดเอ 5 อาจมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2800 เหรียญ หรือ 84,000 บาท เหตุผลของความแพงนอกจากกลวิธีในการเลี้ยงวัวแล้ว ตัวเนื้อวากิวยังมีลายหินอ่อนเรียงตัวกันสวยมาก ๆ หากเป็นเนื้อวากิวเกรดดี ๆ สามารถรับประทานแบบดิบ ๆ เพียงลวกน้ำซุปเบา ๆ เท่านั้นเอง

แตงโมดำ ญี่ปุ่น

แตงโมดำ หรือDensuke Black Melon แตงโมดำที่มีถิ่นกำเนิดบนยอดเขาสูง ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แตงโมที่เกิดจากธรรมชาติ มีสีเปลือกดำ และเนื้อแตงโมแดงปกติ แต่รสชาติหวานฉ่ำไม่ธรรมดา เมนูวุ้นแตงโม อร่อยหอมหวานสดชื่น สาเหตุของความแพงก็คือ เก็บเกี่ยวได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ในปริมาณที่ไม่เยอะ บางที่อาจมีราคาพุ่งสูงถึงลูกละ 6,000 เหรียญยูเอส หรือลูกละ 180,000 บาท

เห็ดทรัฟเฟิ้ล อิตาลี

เห็ดทรัฟเฟิ้ล หรือItalian Alba truffle

ปิดไทยด้วยไอเทมชิ้นสำคัญที่มีเฉพาะประเทศอิตาลีเท่านั้น นั่นก็คือเห็ดทรัฟเฟิ้ล วัตถุเกรดพรีเมี่ยมที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทั้งคาวหวาน โดยเฉพาะอาหารอิตาเลี่ยนนั่นเอง สาเหตุของความแพงของเห็ดชนิดนี้ก็คือ โตยาก หายาก เติบโตในสภาพแวดล้อมที่จำกัดนั่นก็คือใต้ดินนั่นเอง ดังนั้นเทคโนโลยีไม่สามารถตามหามันได้ นอกจากสัมผัสการดมกลิ่นชั้นเยี่ยมอย่างหมู และสุนัขนั่นเอง ปัจจุบันราคาเห็ดทรัพเฟิ้ลดำในสภาพสมบูรณ์ หรือเกรดดี ๆ อาจมีราคาสูงถึงหนึ่งแสนเหรียญสหรัฐ หรือ 3 ล้านกว่าบาทต่อเห็ดทรัฟเฟิ้ลหนึ่งหัว หากคุฯอยากมีเงินใช้แบบไม่ขาดมือขอแนะนำ sumoslot ที่จะพาคุณเข้าสู่ความร่ำรวย

ขอแนะนำ เคล็ดลับทอดปลา อาหารทอด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการปรุงอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากอาหารทอดเป็นประเภทอาหารที่ค่อนข้าง คงความธรรมชาติของเนื้อสัตว์ หรือโปรตีนที่ถูกนำไปทอดได้สูง นอกจากความกรุ๊บกรอบจากการทอดบนน้ำมันร้อน ๆ แล้ว ดังนั้นการทอด หรือการปรุงอาหารด้วยการทอด สำหรับใครก็ตามที่ยังไม่มีความขำนาญพอก็อาจจะเกิดปัญหาได้เช่นกัน โดยเฉพาะอาหารทอด ประเภทปลาทอดนั่นเอง เตรียมพบกับเทคนิคทอดปลา ทำอาหารประเภททอดอย่างไรให้ออกมาเพอเฟค ไม่ต้องถูกน้ำมันกระเด็นใส่แขนขา เสี่ยงบาดเจ็บ

คุณแม่บ้านไม่ควรพลาดกับ เคล็ดลับทอดปลา ไม่ให้น้ำมันกระเด็น

ทำไมทอดปลาน้ำมันต้องกระเด็น ?

จริง ๆ แล้วไม่ได้มีเพียงแค่ทอดปลา อาหารเด็ด เท่านั้นที่ทำให้น้ำมันกระเด็นได้ เนื่องจากน้ำมันกระเด็น เกิดจากความร้อนบนพื้นผิวน้ำมันสูงถึง 200 องศา และเมื่อกระทบกับน้ำ หรือความชื้น เมื่อหยดน้ำตกลงไปกระทะที่มีน้ำมันร้อนจัดอยู่นั้น หยดนำที่มีน้ำหนักมากว่าจึงตกลงไปยังก้นกระทะ และปะทะเข้ากับความร้อนระดับ 200 องศา เปลี่ยนหยดน้ำธรรมดากลายเป็นจุดเดือด และดันตัวเองขึ้นมาเหนือกระทะเสมือนน้ำมันกระเด็นนั่นเอง ดังนั้นความแรงของน้ำมันกระเด็นจึงค่อนข้างร้อน และไกลมาก ๆ หากความชื่นบนน้ำมันค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สาเหตุที่ทอดปลาแล้วน้ำมันกระเด็นนั้นจึงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เนื่องจากสาเหตุของน้ำมันกระเด็นเกิดจากความชื้นในโปรตีน ซึ่งมีมากในอาหารทะเลเช่นปลา ดังนั้นทอดหมู ทอดไก่ และหมูสามชั้นจึงมีโอกาสถูกน้ำมันกระเด็นใส่เช่นกัน

วิธีทอดปลาไม่ให้น้ำมันกระเด็น

1.ทำปลาให้แห้ง ลดความชื่นให้สุด

อย่างที่ได้ทราบไปในหัวข้อข้างต้นว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำมันกระเด็นก็คือ หยดน้ำ หรือความชื้นจากโปรตีนที่ลงทอดนั่นเอง ดังนั้นหลังทำความสะอาดปลา หรือโปรตีน ควรพักหรือซับน้ำให้แห้งมากที่สุดเท่าที่ทำได้เสียก่อน

2.เลือกกระทะที่เหมาะสม

สำหรับใครที่กลัวน้ำมันกระเด็นก็สามารถแก้ได้ง่าย ๆ เพียงเลือกกระทะที่ค่อนข้างมีขอบสูง แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเลือกกระทะให้ได้สัดส่วนของปลาด้วย

3.ทอดไฟอ่อน

การทอด ปลากะพงทอดน้ำปลา ด้วยอุณหภูมิที่มีความร้อนไม่สูงมาก แต่สม่ำเสมอก็เป็นอีกหนึ่งวิธีหลีกเลี่ยงน้ำมันกระเด็นได้เช่นกัน ง่าย ๆ เพียงเทน้ำมัน เปิดไฟกลางรอน้ำมันร้อนจัด จนควันขึ้นจากนั้นลงปลา และหรี่ไฟอ่อน ทั้งนี้ต้องอย่าลืมสะเด็ดน้ำจากตัวปลาด้วย

เทคนิคทอดปลาให้หนังกรอบไม่อมน้ำมัน

เลือกใช้น้ำมันสำหรับทอด เทให้ท่วมตัวปลา รอให้น้ำมันเดือดจัดหรี่ไฟกลาง ใส่ปลาลงไปทอด ห้ามพลิกปลามั่ว รอจนกว่าฟองน้ำมันจะฟูจนหมด ก่อนพลิกตัวปลา เร่งไฟให้แรงอีกครั้ง แล้วค่อยพลิก และเช่นกันก่อนนำปลาขึ้นจากกระทะให้เร่งไฟแรงอีกครั้ง เพื่อไล่น้ำมัน ตักขึ้นและพักสะเด็ดน้ำมันพร้อมทานไปพร้อม ๆกับเล่นเกม slot777 ที่สร้างรายได้ให้คุณเพียงแค่ปลายนิ้ว

ไข่น้ำ เมื่อโควิด-19 กำลังเข้มข้น และรุนแรงการกักตัวหรือWFHอยู่บ้านจึงเป็นอีก 1 ทางเลือกสำคัญที่จะเซฟตนเอง และคนในครอบครัวได้ดีที่สุด และผลจากการWFHหรือกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานานจึงส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันทันที และหนึ่งในนั้นก็คือ อาการเบื่อหน่ายอาหารเดิม ๆ ดังนั้นในบทความนี้จึงขออนุญาต นำเสนอเมนูเดิม ๆ ที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ เปลี่ยนมาเป็นเมนูที่ยกระดับมากขึ้นเพิ่มควาอร่อยถึง 2 เท่า รับรองนอกจากทำกินทำขายก็ยังได้ พบกับเมนูไข่ ไข่ที่จะเปลี่ยนจากไข่น้ำธรรมดา ให้เป็นไข่น้ำสุดแสนอร่อย และน่ารับประทาน

เคล็ดลับการทำเมนู ไข่น้ำ ทำง่ายเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ได้ทานแล้ว

ส่วนผสม และวัตถุดิบต่าง ๆ สำหรับทำไข่น้ำ

คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ไข่น้ำที่กำลังจะนำเสนอนั้น นอกจากหน้าตา และรสชาติที่ดูดีขึ้นแล้ว ส่วนผสม และวัตถุดิบต่าง ๆ ก็ค่อนข้างน้อย เครื่องปรุงรสเป็นชนิดที่สามารถหาได้ตามครัวเรือนทั่ว ๆ ไป อย่ารอช้าไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

1.ไข่ไก่ 2 – 3 ฟอง  2.กระเทียมเจียวกลีบเล็ก 7-10 กลีบ  3.วุ้นเส้นแช่น้ำ(ตามชอบ)  4.หมูสับ 100 กรัม(หมัก3เกลอ)  5.พริกไทย(เล็กน้อย) 6.เกลือ(เล็กน้อย)

7.เครื่องปรุงสำหรับปรุงรสซีอิ๊วขาว,น้ำปลา,น้ำตาลทราย 8.ต้นหอมสับ(ตามชอบ) 9.คนอร์ซุปไก่ 1 ก้อน 10.น้ำเปล่า 500 – 700 มล.

ขั้นตอนการทำไข่น้ำนิวเวอร์ชั่น

1.เจียวไข่ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย นำลงไปทอดในกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันไม่ต้องเยอะจนสุก หั่นไข่เจียวเป็นชิ้นพอคำ (เน้นทอดให้มีกลิ่นกระทเล็กน้อย ให้ไข่มีสีน้ำตาลเข้มเล็กน้อย) ขอแนะนำสำหรับใครชอบเมนูไข่สำหรับ สูตรทำไข่ตุ๋น ที่ทำง่าย ๆ เป็นเมนูราคาประหยัดในยุดโควิดแถมมีประโยชน์จากไข่มากมาย

2.นำน้ำเปล่าเทลงกระทะที่มีไข่เจียวหั่นชิ้นอยู่ ใส่คนอร์ไก่ลงไปรอจนละลาย (ระหว่างนี้สามารถใส่วุ้นเส้น หรือหมูสับหมักสามเกลอปั้นโดยไม่ต้องหนามากได้เลย)

3.หลังจากซุปก้อนละลายจนหมดให้หรี่ไฟอ่อนพร้อมปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และตัดด้วยน้ำตาลทราย (ชิมและปรุงตามใจชอบ)

4.หลังจากปรุงเสร็จเปิดไฟแรงอีกครั้งจนน้ำเดือด ให้เหยาะน้ำปลาเบา ๆ ตามขอบกระทะเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม

5.ปิดแก๊สโรยต้นหอมที่สับเตรียมไว้ ตักใส่ชามโรยพริกไทยเล็กน้อย และท็อปด้วยกระเทียมเจียว

หมูมะนาว สูตรนุ่ม น้ำจิ๋มรสเด็ด กับเคล็ดลับการทำทานเองที่บ้านแบบง่าย ๆ หรือทำไว้ทานเป็นเมนูกับแกล้มพร้อมกับเครื่องดื่ม เย็น ๆ แน่นอนทุกคน ตามชื่อเมนู วัตถุดิบหลักของเราในวันนี้จะเป็น “หมู” ซึ่งเราจะใช้ “สันคอหมู” 5 ขีด ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ รวมไปถึงเครื่องปรุงจะต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย

เคล็ดลับการทำ หมูมะนาว ให้หมูนุ่มกับน้ำจิ้มราดรสเด็ดแบบงง่าย ๆ

ขั้นตอนแรก อาหารเด็ด เราจะมาเตรียมในส่วนของ “หมู” กันก่อน เราจะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแบงบาง แต่ไม่ถึงกับบางมาก เสร็จแล้ว เตรียมชามมา 1 ใบ ใส่หมูลงไป ตามด้วย “น้ำตาลทราย” 1 ช้อน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้เลย แล้วไปทำอย่างอื่นกันต่อ

เราจะมาทำในส่วนของ “น้ำยำ” เราจะสับ “กะเทียม และ พริกสด” อย่างละ 20 หรือมากกว่านั้นก็ได้คนเมาต้องกินคู่กับ เมนู ยำหนวดปลาหมึก อะไรเถื่อนๆ สับให้ละเอียดเลย หรือใครจะตำ หรือปั่นก็ได้ แต่ถ้าใช้การสับ ทั้งพริกและกะเทียมจะยังเป็นเม็ดๆอยู่ เวลากินได้เคี้ยวไปด้วย ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง เสร็จแล้วเตรียมชามมา 1 ใบ ใส่ “กะเทียม และ พริกสด ที่เราหั่น” ลงไป ตามด้วย “น้ำปลา” 1 ทัพพี “เกลือ” ครึ่งช้อน “น้ำตาลทราย” ครึ่งทัพพี “น้ำมะนาว” 1 ทัพพี แล้วผสมให้ทุกอย่างเข้ากัน

เสร็จแล้วเราไปทำขั้นตอนต่อไปกันเราจะไปคั่วหมูกัน หรือใครจะลวกก็ได้นะ แต่ถ้าใช้วิธีการคั่ว ความนัวของหมูจะไม่หายไปกับน้ำร้อน ไปที่เตากันเลยเราจะตั้งกะทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำสัก 2-3 ทัพพี พอน้ำเดือด เอาหมูลงไปคั่่วเลย เราจะคั่วไปเรื่อยๆ จนได้ความสุขที่ต้องการ ชอบสุกมากสุกน้อยแค่ไหนเอาตามที่ชอบเลย เสร็จแล้วเราไปยำกันเลย เราจะนำหมูที่เราคั่วไปเทลงในน้ำยำที่เราทำไว้ จากนั้นคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน แค่นี้ก็เรียบร้อย พร้อมรับประทาน จัดเสิร์ฟพร้อม “ผักสลัด สะระแหน่ หอมแดงซอย กะเทียมซอย” จะดีมาก

ปลากะพงทอดน้ำปลา เมนูยอดฮิต อาหารไทยยอดนิยมที่หาทานได้ง่าย ๆ ที่ใครๆก็ต้องสั่ง กับเคล็ดลับการทำทานเองที่บ้านในยุคโควิด เราจะมาเข้าครัวไปพร้อม ๆ กัน “ปลากะพงทอดน้ำปลา” เป็นอีกหนึ่งเมนูในร้านอาหารที่เกือบทุกคนจะต้องสั่ง ถัดมาจาก “ต้มยำ” และก็ “ยำต่างๆ” นั่นรวมไปถึง “ผัดกะเพรา” แล้วทอดยังไงให้น่ากิน เรามาดูกัน แน่นอนทุกคน ตามชื่อเมนู วัตถุดิบหลักของเราในวันนี้จะเป็น “ปลากะพง” 1 ตัวใหญ่ๆเลย ส่วนผสมอื่นๆ มีนิดเดียว แต่มันอยู่ที่เทคนิคการทอด ว่าจะทำยังให้ให้ปลากรอบ ไม่ติดกะทะ (ไม่ใช่ทอดในหม้อ) และปลาออกมาเป็นตัวสวยงาม ว่าแล้ว…เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย

แจกสูตรเมนู ปลากะพงทอดน้ำปลา ทอดให้กรอบอร่อยน้ำราดรสเด็ด

ขั้นตอนแรก เรามาเตรียมในส่วนของ “ปลากะพง” แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ขอดเกล็ดออกให้เรียบร้อย แล้วผ่ากลาง ล้างให้สะอาด ล้างเลือดออกให้หมด เวลาทอด เลือดปลาจะทำให้ดำ เสร็จแล้วนำไปสะเด็ดน้ำทิ้งไว้ เราไปที่เตาเลย เราจะไปทำ “น้ำราด” ตั้งกะทะ ยังไม่ต้องเปิดไฟใส่ “น้ำปลา” 1 ถ้วย “น้ำตาลทราย” 1 ถ้วย “น้ำตาลปี๊ป” 1 ช้อน แล้วละลายให้เข้ากัน จากนั้นเปิดไฟ่อ่อน แล้วค่อยๆเคี่ยวให้ได้ความเหนียวที่ต้องการ สังเกตุที่ฟองก็ได้ ถ้าฟองฟูใหญ่ๆขึ้นมา ก็ปิดไฟได้เลย แล้วพักไว้ให้เย็น

จากนั้นตั้งกะทะอีกรอบ ใช้ไฟแรง ใส่นำมันให้ท่วมตัวปลาเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี โรยเกลือลงในน้ำมัน 1 หยิบมือ และโรยเกลือที่ตัวปลานิดหน่อย จากนั้นเอาน้ำมันราดที่ตัวปลาให้ทั่ว พอน้ำมันเดือดแล้ว ให้ผ่อนมาเป็นไฟกลาง แล้วเอาปลาลงไปทอดได้เลย เราจะทอดไปเรื่อยๆนะใจเย็นๆไม่ต้องคน รอจนกว่าปลาจะเซ็ตตัว และสุกได้ที่ค่อยกลับตัวปลาให้ได้ความกรอบตามที่ต้องการ เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน และอขแนะนำ สายชอบทานซีฟู้ดต้องไม่พลาดกับ ร้าน ครัวคงสมุทรซีฟู้ด นั่งทานชิวๆ ในวันหยุด

เราจะมาทำในส่วนของ “ยำมะม่วง” เตรียมชามมา 1 ใบครับ เราจะใส่ “น้ำปลา” 1 กระบวย “น้ำตาลปี๊ป” 1.5 กระบวย “มะนาว” ครึ่งกระบวย แล้วคนให้ทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วย “มะม่วงสับ” ตามปริมาณของน้ำยำ ใส่เยอะไปจะทำให้จืดสนิท ตามด้วย “หอมแดงซอย” 5-7 กลีบ  “พริกสดซอย” 8-10 เม็ด  แล้วคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน โรยหน้าด้วย “ผักชีไทย” แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ

โอเคนะทุกคน เราได้ “ปลากะพงทอด” “น้ำราด” และ “ยำมะม่วง” ครบทุกอย่างแล้ว เวลาจัดเสิร์ฟ เราก็จะเอาน้ำราด ไปราดที่ตัวปลา ส่วนยำมะม่วงก็หาถ้วยเล็กน่ารักๆมาใส่แล้ววางคู่กัน แค่นี้ก็พร้อมทานแล้ว

เมนู ต้มยำกุ้งน้ำข้น อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองไทยกับรสชาติแสนอร่อยไม่ว่าใครได้ทานก็ต้องติดใจและวันนี้แอดมินจะมามาทำทานเองแบบไม่ต้องง้อร้านอาหาร และขั้นตอนการทำก็ง่ายแสนง่าย วัตถุดิบหลักของเราจะเป็น “กุ้ง” ซึ่งวันนี้เราจะใช้ “กุ้งแชบ๊วย” ขนาดเท่านิ้วโป้ง 12 ตัว ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ และเครื่องปรุง ต้องใช้อะไรบ้าง เราไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย

แจกสูตรการทำเมนู ต้มยำกุ้งน้ำข้น ให้อร่อยกลมกล่อมน่าทาน

เริ่มจากขึ้นตอนแรกเรามาเตรียม อาหารเด็ด “กุ้ง” กันก่อนนะแกะเปลือก ผ่าหลังให้เรียบร้อย น้ำไปล้างน้ำ แล้วพักไว้ก่อนจากนั้นเรามาเตรียมในส่วนของ “เครื่องต้มยำ”  เราจะใส่ “ตะไคร้” 2 หัว ทุบแล้วหั่น “ข่า” 2 หัวหั่นแว่น “รากผักชี” 3 ราก ทุบไม่ต้องหั่น “เห็ดฟาง” 5-7 ดอกหั่นครึ่ง “ผักชีไทย และ ผักชีฝรั่ง” อย่างละ 5 ต้น หั่นยาวนิดนึง “พริกชี้หนู กับ พริกไทยจินดา” อย่างละ 10 เม็ด ตำรวมกัน เมื่อได้ส่วนผสมทุกอย่างครบแล้ว เราไปที่เตากันเลย

ตั้งหม้อ ใช้ไฟแรงใส่น้ำเปล่า 1,500 มิลลิลิตร “เกลือ” ครึ่งช้อน “น้ำปลา” 3 ช้อน “น้ำตาลปี๊ป” 1 ช้อน “น้ำพริกเผา” 3 -4 ช้อน และ “ข่า ตะไคร้ หอมแดง กะเทียม รากผักชี ใบมะกรูด” ต้มยำกุ้ง อาหารชั้นเยี่ยมของคนไทยที่ดีที่สุด จากนั้นรอให้น้ำเดือด  ตามด้วย “กุ้ง” ได้เลย พอกุ้งเริ่มเปลี่ยนสี เราตามด้วย “เห็ด และผักชี” ปล่อยให้เดือดสัก 2-3 นาทีจังหวะนี้ให้ลดเป็นไฟกลาง แล้วค่อยๆตักฟองขาวๆดำๆออกจากน้ำซุป จากนั้นให้เราใส่ “นมข้นจืด” 3-4 ทัพพี คนให้ทุกอย่างเข้ากัน ปิดไฟได้เลย นมข้นจืด เราใส่สุดท้ายเพราะว่า หากต้มไปพร้อมกับน้ำซุปตั้งแต่แรก มันจะทำให้นมแตกมันละลายไปกับน้ำซุปจนหมดรสชาดมันจะไม่กลมกล่อมหรือแถวบ้านแอดมินเรียกว่า “มันจะไม่นัว”

เวลาจะกินในกรณีนี้เราทำค่อนข้างเยอะ แอดมินจะยังไม่ปรุงในหม้อใหญ่นะเราจะหาถ้วยมา 1 ใบ ใส่ “น้ำปลา” ครึ่งทัพพี “พริกตำ” 1 ทัพพี “น้ำมะนาว” 2 ทัพพี คนให้ทุกอย่างเข้ากัน แล้วค่อยตักต้มยำกุ้งลงมาใส่ถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยผักชี และ พริกแห้งทอด แค่นี้ก็พร้อมทานกับสาว ๆ ร้อน ๆ ได้เลยนะ

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครหลาย ๆ คนชอบเลือกทานเป็นเมนูพิเศษ ต้มจืดมะระยัดไส้ กับเคล็ดลับการทำแบบง่าย ๆ ให้ให้ขม วันนี้เราจะมาสอนวิธีการทำทานเองในช่วงโควิด แน่นอนทุกคน ตามชื่อเมนู วัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ จะเป็น “มะระ” ซึ่งเราจะใช้ “มะระจีน” ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่ และนิยมนำมาทำเป็นอาหารมากกว่า “มะระขี้นก” ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ และเครื่องปรุง เราต้องใช้อะไรบ้าง ไปดูวิธีการทำพร้อมกันเลย

เคล็ดลับการทำ ต้มจืดมะระยัดไส้ ให้น้ำซุปอร่อยน่าทาน

ขั้นตอนแรกของ อาหารเด็ด เราจะมาเตรียมในส่วนของวัตถุดิบหลักกันก่อน ในส่วนของ “มะระ” เราจะหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณนิ้วกลางของเรา ยกขึ้นมานะประมาณนั้นแหละ เสร็จแล้วเราจะใช้ช้อน ขูดเนื้อเยื่อขาวๆที่อยู่ในมะระออกให้หมด ให้หมดแบบจริงจังเลยนะส่วนนี้จะทำให้ “มะระขม” ค่อยๆทำ ไม่ต้องรีบ เพราะหากขมเราอาจจะได้ทิ้งทั้งหม้อเลย จากนั้นเตรียมชามมา 1 ใบ ใส่น้ำพอให้ท่วมมะระ ใส่เกลือ 1 กำมือ แล้วเอามะระลงไปแช่ไว้เลย สามารถลดความขมได้อีกระดับหนึ่ง แต่ยังขมอยู่นะ เสร็จแล้ว เราไปเตรียมอย่างอื่นกันต่อ

เราจะมา “หมักไส้” กัน เตรียมครกมาเลย เราจะตำ 3 เกลือ “พริกไทยเม็ด กะเทียม และรากผักชี” ในปริมาณที่เท่าๆกัน แกงจืดมะระยัดไส้หมู เสร็จแล้วเตรียมชามมา 1 ใบ ใส่ “หมูบด” 3 ขีด ตามด้วย “วุ้นๆเส้น” กะให้เท่าๆกับปริมาณของหมู ต่อด้วย “สามเกลอ” ที่เราตำเมื่อสักครู่  พ่วงด้วย “ซีอิ๊วขาว และ นำมันพืช” อย่างละ 1 ทัพพี และตบด้วย “น้ำตาลปี๊ป” 1 ช้อน จากนั้นคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน แค่นี้เราก็จะได้ในส่วนของ “ไส้” ที่เราจะนำไปยัดใส่ใน “มะระ” เราจะมาเตรียมในส่วนของ “น้ำซุป” เราจะใช้ “ซี่โครงหมูอ่อน” 2 กิโลกรัม หั่นชิ้นใหญ่ “ผักกาดดอง” 1 หัวใหญ่ๆ หั่นพอดีคำ “เห็ดหอมสด” 5-7 ดอกตัดแบ่งครึ่ง “เม็ดเก๋ากี้” 1 หยิบมือ “3 เกลอ ไม่ต้องตำ” แล้วไปที่เตากันต่อเลย

ขั้นตอนสุดท้าย เราจะตั้งหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าประมาณ 4,000 มิลลิลิตร พอน้ำเดือดใส่3 เกลอลงไป “เกลือ” 1 หยิบมือ “ซีอิ๊วขาว” 2 ทัพพี “เม็ดเก๋ากี้” ตามด้วย “ซี่โครงหมู กับ ผักกาดดอง” และ “เห็ดหอม” เสร็จแล้ว ทิ้งให้เดือดเลย แล้วไปทำอย่างอื่นกันต่อเราจะไปยัดไส้มะระกัน เราจะเอาไส้ที่เราหมักไว้ ยัดใส่ในช่องว่างของมะระ ไม่ต้องยัดแน่นมาก เสร็จแล้ว เอาลงไปตุ๋นให้หม้อน้ำซุปที่เราต้มไว้เลย เราจะปิดฝา ตุ๋นไปเรื่อยๆประมาณ 40-45 นาที แค่นี้ก็เรียบร้อย พร้อมรับประทานwfhg]p

แกงเลียงกุ้งสด สูตรน้ำแกงเข้มข้น ผักเน้นๆ เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยบำรุงร่างกายอย่างดีโดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตรอยู่แน่นอนทุกคน ตามชื่อเมนู วัตถุดิบหลักในวันนี้จะอุดมไปด้วยผักนานาชนิด ซึ่งเราจะใส่ “กุ้งสด” ลงไปด้วยสัก 10 ตัว เพื่อเพิ่มความน่ากินขึ้นไปอีก แกงเลียงจัดว่าเป็นแกงที่ใช้วัตถุดิบเปลืองมากๆ คืออยากแนะนำให้ซื้อกินจะง่ายกว่า แต่ถ้าใครอยากลองทำ เราไปดูวิธีการทำพร้อมๆกันเลย

เคล็ดลับการทำ เมนู แกงเลียงกุ้งสด ให้อร่อยเข้มข้นจนต้องเติมข้าวอีกจาน

ขั้นตอนแรก เราจะมาเตรียม แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ในส่วนของผักกันก่อน เราจะใช้ “บวบเหลี่ยม” ครึ่งลูก ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ “บวบหวาน” ครึ่งลูก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ “เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า” อย่างละ 5 ดอก  หั่นพอดี “ฟักทอง” หั่นชิ้นพอดี 7-10 ชิ้น “แตงโมอ่อน” 2 ลูกหั่นพอดี “น้ำเต้าอ่อน” 2 ลูกเล็ก หั่นพอดี “ใบแมงลัก” 2 กำมือ “ใบตำลึง” 3-4 กำมือ และ “หัวปลี” 1 หัวหั่นเฉียงเป็นชิ้นพอดี โอเคทุกคน เราเตรียมในส่วนของผักเสร็จแล้ว เราไปทำ “เครื่องแกง” กันต่อ

เราจะมาตำ “เครื่องแกง” ที่ใช้แบบเดียวกับเมนู แกงคั่วฟักไก่ และเราก็เตรียมครกมาเลยนะทุกคน ใส่เกลือลงไปครึ่งช้อน “พริกไทยเม็ด” 20 เม็ด “หอมแดง” 10 -15 กลีบ “กระชาย” 8-10 หัว “กุ้งแห้ง” 2 หยิบมือ “ปลากรอบ หรือ ปลาแห้ง” 2-3 ตัว ตำให้ทุกอย่างเข้ากันครับ เอาแบบละเอียดเลย ตบท้ายด้วย “กะปิ” 1 ช้อน และ “พริกแห้ง” 5-7 เม็ด แล้วตำให้เข้ากัน เราเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว เราไปที่เตากันเลย

ตั้งหม้อใช้ไฟแรง ใส่น้ำเปล่า 2,000 มิลลิลิตร พอน้ำเดือด ใส่ “เครื่องแกง” ลงไปได้เลย คนให้เครื่องแกงละลายดี ตามด้วย “ฟักทอง” ต่อด้วย “น้ำปลา” 1 ทัพพี และ “น้ำตาลปี๊ป” ครึ่งช้อน เราจะปล่อยให้เดือดไปจนกว่าฟักทองจะเริ่มสุก ตามด้วย “หัวปลี น้ำเต้า แตงโมอ่อน ข้าวโพดอ่อน บวบเหลี่ยม บวบหวาน และเห็ด” ทิ้งให้เดือดสัก 1-2 นาที ตามด้วย “กุ้งสด” แล้วปล่อยให้เดือดไปสัก 4-5 นาที ระหว่างนี้ให้เราตักฟองขาวๆดำๆที่อยู่ในน้ำแกงออก ตามด้วย “ใบแมงลัก และ ใบตำลึง” แล้วทิ้งให้เดือดสักพักจนผักสุกดี ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมรับประทาน