ในการที่จะหาเมนูอาหารรับประทานนั้นต้องบอกเลยว่าการรับประทานอาหารแต่ละมื้อคุณก็ต้องหาอาหารที่ทานได้และมีความชอบด้วย ซึ่งอาหารไทยของเรานั้นถ้าพูดว่าจำพวกอาหารที่เป็นข้าวนั้นเมนูที่มักจะพบ ก็คือ ข้าวผัด ซึ่งข้าวผัดนั้นเป็นเมนูที่ทำง่ายมากๆเลย ซึ่งมักจะทำกันในกรณีที่ข้าวเย็นแล้วจึงอยากที่จะเอามาผัดให้ร้อนๆหรือว่าจะเป็นการอะเดปต์อาหารให้มีความหลากหลายก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน โดยเมนูข้าวผัดที่เราจะพูดถึงในที่นี้ คือ เมนู  ข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียม นั่นเอง

วิธีทำ ข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียม

ในเมนูอาหารข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียมนั้นต้องบอกเลยว่ามีความเด็ดอยู่ที่พริกโคชูจัง เนื่องด้วยพริกโคชูจังนั้นเป็นพริกของเกาหลีใต้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดพริกหนึ่งเพราะมีทั้งรสที่มีความครบครันทั้ง เผ็ด หวานและเค็ม ฉะนั้น เมื่อนำมาใส่ลงในข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียมนี้จึงทำให้ข้าวผัดมีความอร่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

เมื่อคุณนำพริกโคชูจังเข้ามาผัดกับข้าวสวยแล้วคุณก็จะได้เม็ดข้าวสวยที่มีสีเหลือง ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความพิเศษอย่างมาก เพราะพริกโคชูจังนั้นเราจะเห็นว่ามีสีแดง แต่เมื่อมาผัดกับข้าวแล้วก็จะกลายเป็นสีเหลืองที่สวยงาม ฉะนั้น เมนูอาหารข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียมนี้มีความพิเศษที่พริกของเกาหลีนั่นเอง

และวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมนูอาหารที่เรียกว่าข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียม คือ หมูทอดกระเทียม ซึ่งหมูในเมนูนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นหมูที่คุณจะต้องทำการหมักก่อนถึงจะทานได้อย่างอร่อยและคุณอาจจะใส่ผัดกับกระเทียมเจียวก็ได้เพื่อความหอมของหมู

จะเห็นได้ว่า เมนูอาหารที่เป็นข้าวผัดโคชูจังกับหมูทอดกระเทียมนี้ เป็นเมนูที่คุณสามารถที่จะทำเองได้ ซึ่งบางคนก็อาจจะบอกว่าพริกโคชูจังนั้นหายาก เราขอบอกเลยว่าหาไม่ยากเลย คุณสามารถที่จะสั่งในช้อปปิ้งออนไลน์ได้แล้ว

// แนะนำอาหาร // แนะนำอาหารไทย // ข้าวผัด(ไทย)//

ในการรับประทานอาหารจำพวกประเภทไข่นั้นต้องบอกเลยว่าไข่เป็นวัตถุดิบที่สามารถจะทำเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เมนูไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ลูกเขย ไข่ลวกก็สามารถที่จะทำได้ แต่ถ้าเมนูไข่ที่รู้จักกันดีนี้ได้มาเป็นเมนูที่มีความอร่อยแบบแตกต่างจากเมนูไข่เดิมๆก็ยิ่งทำให้คุณนั้นอยากที่จะทานเมนูไข่นี้ได้ในทุกๆวันเลย ซึ่งเมนูไข่ที่เราจะแนะนำคุณนั้น ก็คือ เมนู อาหารข้าวไข่ข้นกุ้ง ที่มีกุ้งเป็นส่วนผสมในเมนูที่ทำให้ข้าวนั้นมีความอร่อยแบบละมุนมากขึ้นนั่นเอง

รีวิว อาหารข้าวไข่ข้นกุ้ง ละมุนลิ้นทุกเมื่อที่ได้ทาน

ในเมนูอาหารข้าวไข่ข้นกุ้งนั้นเริ่มจากคุณเตรียมไข่ไก่ในการทำไข่เจียวข้นได้เลย แต่การทำไข่เจียวข้นได้นั้น คุณก็ต้องมีการใส่นมเพื่อให้ไข่ที่ออกมานั้นดูน่าทานและมีความหอมของนมในไข่นั้นด้วย โดยนมที่มักจะนำมาผสมในไข่เจียวนั้นก็มักจะเป็นนมที่เป็นนมสดรสจืดซะส่วนใหญ่

และเมื่อคุณได้ทำในส่วนของขั้นตอนที่เป็นการตีไข่ใส่นมแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การนำไข่เจียวนั้นไปทอด ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่าเมนูอาหารข้าวไข่ข้นกุ้งเป็นเมนูที่มีไข่เจียวสีสวยงามมากๆ เป็นสีเหลืองทองน่าทาน ยิ่งนำไปทอดประกายความหอมและสีก็ยิ่งเด่น

และส่วนที่มีความสำคัญที่สุด คือ เนื้อกุ้ง เป็นส่วนที่คุณสามารถที่จะใส่ในไข่ได้เลย แต่กุ้งที่คุณใส่ในเมนูอาหารข้าวไข่ข้นกุ้งนั้น จะต้องเป็นกุ้งที่มีการเลาะเปลือกออกแล้ว อีกทั้ง ยังต้องทำความสะอาดให้กุ้งอีกด้วย เนื่องจากเป็นการใส่กุ้งลงไปพร้อมๆกับไข่เจียวที่มีการทอดนั่นเองและก็จะช่วยให้คุณได้ทานแบบไม่มีอะไรขัดขวางอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า เมนูอาหารข้าวไข่ข้นกุ้งนั้น เป็นเมนูที่มีความแปลกใหม่ของเมนูไข่เป็นอย่างมากด้วยกระบวนการในการทำนั้น มีการเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆลงไป จึงทำให้รสชาติและสีสันของเมนูนี้ดูมีความพิเศษกว่าเมนูไข่ธรรมดาๆที่เคยทำทาน

// แนะนำอาหาร // แนะนำอาหารไทย // ไข่ข้น //

เวลาในการรับประทานอาหารในมื้อเย็นนั้น ปกติเป็นการรับประทานอาหารที่คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยง เนื่องด้วยกลัวว่าทานไปแล้วจะมีความอ้วนนั่นเอง แต่เมนูที่เราจะแนะนำในที่นี้เป็นเมนูที่ต้องบอกว่านานๆทานสักครั้งหนึ่งไม่ได้ทานบ่อยๆ ทั้งนี้ หากมื้อใดที่คุณมีความรู้สึกว่าอยากได้เมนูที่มีความหนักๆในการรับประทาน คุณก็สามารถที่จะเลือกเมนูนี้ได้ เมนูนั้น ก็คือ ข้าวหน้าไก่เห็ดหอม เป็นเมนูที่รับรองเลยว่าคุณจะต้องติดใจ เพราะด้วยวัตถุดิบที่มีการจัดเต็มในจานนั่นเอง

แนะนำ ข้าวหน้าไก่เห็ดหอม ทานในมื้อเย็นๆ

เมนูอาหารข้าวหน้าไก่เห็ดหอม ถ้าหากคุณเคยเห็นคุณก็จะเห็นว่าเป็นเมนูที่มีไก่ที่มีความชุ่มฉ่ำของการปรุงน้ำไก่ที่เป็นสูตรเด็ด ราดบริเวณข้าวอย่างสวยงาม แถมยังมีกุนเชียงเป็นเครื่องเขียงที่มาพร้อมกับผักชีเสริมเติมแต่งให้ข้าวมีความน่าทานมากยิ่งขึ้น

และเมนูอาหารนี้ บอกเลยว่าวัตถุดิบนั้นมีไม่มาก แต่เครื่องปรุงที่ใช้ถือว่ามีความเยอะอยู่ แต่ความเยอะของเครื่องปรุงนั้นเป็นความเยอะที่มีแต่ความอร่อยอย่างแน่นอน ทั้ง เหล้าจีน ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซีอิ๊วดำ น้ำตาล พริกไทย ซอสหอยนางรม เป็นต้น

ในเมนูอาหารข้าวหน้าไก่เห็ดหอมนี้ วัตถุดิบที่ช่วยชูรสให้เมนูนี้มีความหอมมากๆเลย ก็คือ เห็ดหอมนั่นเอง ด้วยเหตุที่เห็ดหอมนั้นเป็นวัตถุดิบที่มักจะใส่ในพวกซุปต่างๆเพื่อเพิ่มความหอมให้กับน้ำซุป ฉะนั้น จึงสามารถที่จะนำมาใส่ในเมนูนี้ได้ อีกทั้ง ยังช่วยในเรื่องของสุขภาพอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า เมนูอาหารของข้าวหน้าไก่เห็ดหอมนั้น เป็นเมนูที่มีความอร่อยของเนื้อไก่ที่เป็นวัตถุดิบหลักอยู่แล้ว ผสมผสานกับเครื่องปรุงที่มีความหลากหลายพร้อมๆกับการใช้เห็ดหอมมาเป็นตัวช่วยชูโรงความหอมไปอีก ยิ่งเห็นใครล่ะจะไม่อยากรับประทาน

แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ คนเราต้องชอบกินอาหารอยู่แล้วแต่วันนี้เว็บเราได้นำ อาหารเด็ด ๆ มาไว้ตรงหน้าคุณ

เนื้อ ถ้าคำๆนี้ บางคนอาจจะนึกถึงเนื้อหมู เนื้อไก่ แต่ในบ้านเรานั้นถ้าพูดถึงเมนูเนื้อแล้ว ก็หมายถึง เนื้อวัว นั่นเอง เป็นเนื้อที่เรียกได้ว่าเป็นเนื้อที่มีความเหนียวและอร่อยที่มีความแตกต่างจากเนื้อสัตว์อื่นๆ ด้วยเหตุที่เป็นเนื้อของสัตว์ใหญ่นั่นเอง จึงทำให้เนื้อจะมีความแตกต่างกว่าเนื้ออื่นๆ และเมนูในการใช้เนื้อในการทำนั้นก็มีหลากหลายเมนูเลย แต่ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างเมนูอาหารที่ชื่อว่า ข้าวหน้าเนื้อ ให้คุณได้รู้จักกันว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ดังนี้

แนะนำ ข้าวหน้าเนื้อ เอาใจคนชอบ

ข้าวหน้าเนื้อ เป็นเมนูอาหารที่บอกเลยว่าคุณจะต้องทำการเตรียมเนื้อวัวให้มีความพร้อม ซึ่งเนื้อวัวคุณก็สามารถที่จะไปซื้อจากห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ แต่คุณจะต้องเลือกเนื้อวัวแบบติดมันและจะต้องมีการสไลด์เนื้อวัวอีกด้วย เพื่อความสะดวกในการทำอาหารและการรับประทาน นอกจากนี้ก็ต้องมีการเตรียมเครื่องปรุงต่างๆให้ครบและเตรียมเครื่องเขียงอีกด้วย

และเมื่อคุณเตรียมวัตถุดิบที่เป็นเนื้อวัว พร้อมทั้งเครื่องปรุงต่างๆเรียบร้อยแล้ว คุณก็เริ่มที่จะทำเมนูอาหารข้าวหน้าเนื้อ ด้วยการนำเนื้อวัวนั้นมาทอดใส่ในกระทะร้อนๆได้เลย แล้วทำการปรุงด้วยเครื่องปรุงต่างๆให้มีรสชาติที่หอมหวานจนเนื้อวัวนั้นสุกได้กำลังดี จากสีของเนื้อวัวที่มีสีค่อนข้างแดงก็จะกลายเป็นสีที่เป็นสีน้ำตาล ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสีของเครื่องปรุงด้วยก็ได้

เมื่อคุณปรุงทุกๆอย่างในเมนูอาหารข้าวหน้าเนื้อเรียบร้อยแล้ว จากนั้นคุณก็นำเนื้อวัวนั้นมาจัดตกแต่งซึ่งคุณก็นำมาใส่ถ้วยให้เรียบร้อยพร้อมกับการโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับความหอมและความอร่อยของเมนูข้าวหน้าเนื้อนี้แล้ว

จะเห็นได้ว่า เมนูอาหารข้าวหน้าเนื้อนั้นเป็นเมนูอาหารที่บอกได้เลยว่า คุณจะได้รสชาติที่คุณต้องการทานมากๆเลย เพราะเหตุที่เนื้อวัวที่ทานนั้นมีรสชาติที่กลมกล่อมแถมละมุนลิ้นแบบเอาใจสาวกคอเนื้อเลยก็ว่าได้

// แนะนำอาหาร // แนะนำอาหารไทย // แนะนำข้าวโพดพล่า //

แนะนำ ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ สไตล์ญี่ปุ่น

เนื้อหมูในปัจจุบันที่เราทานนั้นที่เราหาทานได้ง่ายๆก็มักจะเป็นเนื้อหมูที่ไทยเราเลี้ยงกัน ซึ่งก็เป็นหมูของเกษตรกรไทยนั่นเอง แต่ในบ้านเราก็มีการนำเนื้อหมูที่เป็นสายพันธุ์อื่นมาขายเช่นเดียวกัน อย่าง เนื้อหมูคุโรบุตะที่มีสายพันธุ์ดังเดิมนั้นมาจากประเทศอังกฤษ โดยเดิมชื่อว่า แบล็กฮอก แต่เมื่อมีคนญี่ปุ่นนำเนื้อหมูคุโรบุตะนี้มาเลี้ยงก็ทำให้เนื้อหมูนั้นมีชื่อว่า คุโรบุตะนั่นเอง และขอบอกเลยว่าเนื้อหมูสายพันธุ์นี้มีความละลายในปากเมื่อได้ทาน เนื่องจากคนญี่ปุ่นนำมาเลี้ยงด้วยวิธีการที่ให้หมูนั้นได้รับแต่สารอาหารจำพวกไขมันในลักษณะกระจายนั่นเอง ก็ยิ่งทำให้เนื้อหมูคุโรบุตะนี้มีความพิเศษกว่าเนื้อหมูอื่นๆ ซึ่งสามารถที่จะนำมาทำเป็นอาหารได้ โดยในที่นี้เราจะแนะนำเมนูที่เรียกว่า ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ ให้คุณได้รู้จักกัน ดังนี้

ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ เป็นเมนูอาหารที่หลายๆคนเลือกทาน เพราะด้วยเนื้อหมูที่มีความนุ่มลิ้น ก็ยิ่งทำให้ใครๆก็อยากทาน เพราะไม่ต้องเคี้ยวให้ติดฟันมากนัก และเมื่อคุณทำการซื้อมาแล้ว ก็เริ่มทำการแล่เป็นชิ้นๆพอดีคำ จากนั้น ก็ทำการใส่ลงในกระทะที่เตรียมไว้พร้อมกับเครื่องปรุงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำมันงา น้ำตาลทรายแดง น้ำสต๊อก พริกไทยดำ เป็นต้น เพื่อให้เมนูอาหาร ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ นี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ ในเมนูอาหาร ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ นี้ คุณก็สามารถที่จะใส่หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยวได้เพื่อความหอมและเมื่อคุณทำการผัดจนเนื้อวัวสุกดีแล้ว คุณก็สามารถที่จะใส่ชามให้ดูมีความสวยงามได้ จะเห็นได้ว่า ข้าวหน้าหมูคุโรบูตะ เป็นเมนูอาหารที่ทำให้คุณอยากจะหยิบตะเกียบในการทานกับข้าวได้เลย ซึ่งเมนูนี้คุณก็มีการเตรียมข้าวสวยร้อนๆสักถ้วย แล้วละเลงไปด้วยเนื้อหมูคุโรบุตะที่ได้มีการปรุงแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่วิเศษในมื้อหนึ่งๆแล้ว (สูตรวิธีทำ)

เหลาเมนูอาหารรวมกันที่เว็บของเรา อร่อย-มั่ก.com มีหลากหลายข้อมูลเช่น เคล็ดลับการทำอาหาร

หากคุณคือคนหนึ่งที่มีการรักษาสุขภาพอยู่แล้ว เราขอเสนอเมนูสุขภาพ อย่าง ข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียม เนื่องด้วยเมนูนี้คุณจะได้พบกับความอร่อยที่มาพร้อมกับปลาแซลมอนที่ได้ชื่อว่าปลาที่หลายๆคนทั่วโลกนิยมทาน เหตุเพราะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเยอะ ทั้ง กรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีน หรือแม้แต่วิตามิน หรือจะเป็นสารอนุมูลอิสระก็มี ถือได้ว่าเป็นปลาที่มีสารอาหารอย่างดีเลยทีเดียว ฉะนั้น หากเลือกเมนูที่มีปลาแซลมอนมาใส่ในเมนูอาหารก็ต้องเลือกข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียม

แนะนำเมนู ข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียม

ข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียม เป็นเมนูอาหารที่คุณสามารถที่จะทำทานได้เอง แต่เป็นเป็นเมนูที่แน่นอนว่าคุณนั้นจะต้องมีการเตรียมเนื้อปลาแซลมอลให้พร้อม ซึ่งปลาแซลมอนส่วนใหญ่ที่ใช้ในการทำอาหารนั้น เราจะเห็นอยู่แล้วว่าเป็นเนื้อปลาที่มีความสดมากๆ ซึ่งสีขอวงมันจะมีลักษณะที่มีสีส้มสดใสอย่างสวยงาม

เมนูอาหารข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียมนั้น เป็นเมนูที่บอกได้เลยว่าคุณได้ทานแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่มีความอร่อยของแซลมอนย่างที่หอมด้วยกลิ่นของการย่าง พร้อมๆกับการผสมผสานของเครื่องปรุงที่ผัดในเมนูนี้ก็ยิ่งทำให้เมนูอาหารนี้มีความน่าทานมากยิ่งขึ้น

และเมนูอาหารข้าวผัดไข่แซลมอนย่างเนยกระเทียมจะต้องมีการใส่ไข่เข้าไปด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อความหอมและความกลมกล่อมของรสชาติข้าวผัด และคุณอาจจะมีการใส่วัตถุดิบ อย่างเช่น แครอท เข้าไปด้วยก็ได้เพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้กับเมนูอาหาร

// แนะนำอาหาร // แนะนำอาหารไทย // แนะนำข้าวโพดพล่า //

สำหรับเมนูนี้หลายคนน่าจะรู้จัก กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ซึ่งเป็นเมนูยอดฮิตตามร้านอาหาร หลายคนคิดว่าทำยากแต่จริงๆแล้วทำง่ายมากๆ หากสนใจดูวิธีการและขั้นตอนที่เราจะนำเสนอในวันนี้ รับรองว่าทำตามได้ แน่นอน

วิธีทำ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา กินกับอะไรก็อร่อย

วัตถุดิบ

• กะหล่ำปลี
• กระเทียมกลีบเล็ก
• ผงปรุงรส น้ำตาล น้ำปลา น้ำมันหอย เกลือ น้ำเปล่า

กะหล่ำปลีหั่นให้เป็นชิ้นใหญ่ โดยอาจจะใช้วิธีการผ่าเป็น 4 ส่วน แกะออกมาเป็นใบ และล้างน้ำให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำ กระเทียมจะใช้ปั่นหรือใช้บุบก็ได้ตามความชอบ

ขั้นตอนการทำ 

• นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันไม่ต้องมาก ให้น้ำมันร้อน ผัดกระเทียมก่อนให้พอหอม ก็ให้นำกะหล่ำตามลงไปผัดจนสลด โรยน้ำปลาเล็กน้อยแค่พอมีรสและกลิ่น แล้วนำขึ้นจัดใส่จาน 
• น้ำมันหอยสำหรับราด ให้นำน้ำเปล่าใส่กระทะปริมาณพอดีกับกะหล่ำ ใส่ผงปรุงรส น้ำตาล เติมเกลือเล็กน้อย ใส่น้ำมันหอยลงไป คนให้เข้ากันชิมรสให้พอดี รอจนเดือดแล้วนำมาราดบนกะหล่ำอีกครั้ง

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ประยุกต์จากเมนูผัดผักน้ำมันหอย กับ กะหล่ำทอดน้ำปลา มาผสมกันก็จะได้เมนูใหม่ที่อร่อยและรับประทานได้เพลิดเพลิน เพิ่มรสชาติในการรับประทานอาหารได้ทุกมื้อ เป็นการประยุกต์สูตรมาปรับ ปรุงตามแบบฉบับที่เราอยากรับประทาน รับรองได้เลยว่าคุณจะสนุกกับการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆสำหรับทุกมื้ออาหารอย่างที่เราได้เกริ่นเอาไว้นอกจาก กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แล้วเมนูนี้ยังประยุกต์เป็น

กะหล่ำปลีทอดกระเทียม

 หากคุณอยากลองใน เมนูกะหล่ำปลีทอดกระเทียม ก็จะต้องเพิ่มปริมาณกระเทียมให้เยอะขึ้นสักนิด และผัดกระเทียมจนหอม แต่ระวังไม่ให้เหลืองเพราะเดี๋ยวเวลาที่เราเติมกะหล่ำลงไปกระเทียมจะไหม้เพราะผัดนาน เมื่อกระเทียมได้ที่แล้วก็ให้คุณนำกะหล่ำใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วราดน้ำปลาที่ปรุงรสด้วยน้ำตาลน้ำมันหอยลงไปเล็กน้อย แค่พอมีกลิ่นมีรสชาติเท่านั้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทำได้ง่ายๆและประยุกต์จากสูตรกะหล่ำทอดน้ำปลา มาเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่สามารถทำได้ง่ายๆ และทำได้จริงเพราะเราทดลองแล้ว ทำรับประทานได้อร่อยสนุกกับการทำเมนูแปลกๆและเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ทานได้ทุกวัย << วิธีทำ >>

// แนะนำอาหารเพื่อสุขภาพ // เครื่องดื่ม //

สูตรอาหารฉบับบ้านๆแบบง่ายๆตามใจคนทานและคนทำ วันนี้ขอเสนอ แกงป่ากระดูกหมู ใส่ถั่วฝักยาว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำได้ง่าย และเน้นวัตถุดิบที่ชอบทานเป็นหลัก หรือเปลี่ยนจากกระดูกหมู หรือเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นก็ได้เช่น ไก่ เนื้อวัว เนื้อหมูติดมันและไม่ติดมัน ก็สามารถทำได้อร่อย

สูตรเด็ด แกงป่ากระดูกหมู อร่อยติดใจ

เครื่องปรุง 

• กระดูกหมูครึ่งกิโลกรัม จะเป็นกระดูกอ่อน 
• ถั่วฝักยาวปริมาณตามต้องการ 
•  กระชาย กระเพรา พริกสดเล็กน้อย พริกไทยอ่อน
• พริกแกงป่าสำเร็จรูป ผงปรุงรส เกลือ น้ำตาลทราย

ขั้นตอนการปรุงแกงป่า

ปรุงล้างกระดูกหมูให้สะอาดหั่นเป็นชิ้น ถั่วฝักยาวหั่น ขนาดพอดีคำ ล้างให้สะอาด กระชายประมาณ 2-3 กอซึ่งเวลาไปซื้อที่ตลาดนั้นลักษณะของกระชายจะมาเป็นกอเล็กๆใช้ประมาณนี้ก็พอ หรือหากซื้อเป็นกระชายที่หั่นและขูดผิวแล้วก็ซื้อสักประมาณ 10-15 บาท หากซื้อเป็นกระชายหัวมาจะต้องนำมาล้างให้สะอาดขุดเปลือกออกเล็กน้อยและหันให้เป็นเส้น  ใบกระเพราล้างและเด็ดให้เรียบร้อยใช้ทั้งดอกและใบ รวมทั้งใบมะกรูดล้างและฉีกให้เรียบร้อย

นำกระดูกหมูผัดพริกแกงให้หอมใส่ถั่วฝักยาวกระชายลงไปพร้อมกันเลย ตอนผัดใส่น้ำมันเพียงแค่เล็กน้อยหลังจากนั้นนำไปใส่หม้อ นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วค่อยปรุงรส ชิมรสให้ได้ตามชอบเมื่อกระดูกหมูเปื่อยตามต้องการ ก่อนที่จะปิดเตาแก๊สให้ใส่ใบกระเพราและใบมะกรูดฉีกลงไป พริกสดบุบเบาๆพอแหลกโรยหน้า พร้อมพริกไทยอ่อนเพิ่มรสชาติความเผ็ดร้อน นี่เป็นการทำ แกงป่ากระดูกหมู ง่ายๆ ที่สามารถทำได้เพราะเราเชื่อว่าหลายคนอยากจะลองทำเมนูใหม่ๆแต่ไม่อยากทำตามขั้นตอนที่วุ่นวาย เน้นความง่าย และเลือกวัตถุดิบที่ชอบรับประทานซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นจึงแนะนำเมนูง่ายๆทำตามแบบที่ชอบมานำเสนอ แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนเมนูเดิมๆมาเป็นเมนูใหม่ด้วยตัวคุณเอง หลายๆแบบรับรองได้เลยว่าจะได้เมนูใหม่และจะทำให้การทำอาหารของคุณสนุกขึ้น รวมทั้งเลือกวัตถุดิบในแบบที่คนในครอบครัวชอบทาน ปรุงรสชาติให้ถูกปากคนในบ้านรับรองได้เลยว่า ทุกมื้ออาหารของคุณจะมีแต่ความสุข <<วิธีทำ>>

เหลาเมนูอาหารรวมกันที่เว็บของเรา อร่อย-มั่ก.com มีหลากหลายข้อมูลเช่น เคล็ดลับการทำอาหาร

สวัสดีค่ะพบกับการรีวิวขนมไทยและของหวานกันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปพบกับการสอนทำเมนูกล้วย ๆ อย่าง กล้วยบวชชี ขนมไทยแสนอร่อย ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกะทิที่จะให้รสชาติความหวานมันเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงรู้จักขนมชนิดนี้เป็นอย่างดี เพราะสามารถทำได้ง่ายและมีราคาถูกอีกทั้งยังให้ความนิยมในการทำไปถวายพระในงานบุญกันอีกด้วย เดี๋ยวเราจะมาติดตามชมกันว่าเมนูกล้วยบวชชีนั้นจะมีความง่ายขนาดไหนและใช้วัตถุดิบอะไรในการทำบ้างพร้อมกับขั้นตอนการทำอย่างละเอียดเลยค่ะ

วันนนี้จะสอนวิธีทำ กล้วยบวชชี ขนมไทย

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำกล้วยบวชชีขนมไทยแสนอร่อย

โดยการที่จะหาวัตถุดิบไปใช้ในการทำกล้วยบวชชี ควรจะพิถีพิถันในการหาวัตถุดิบสักนิดนึง เพราะขนมไทยนั้นนอกจากจะทำยากแล้วยังต้องใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเดี๋ยวเรามาดูวัตถุดิบหลัก ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

• กล้วยน้ำว้าแบบห่าม  1 ถึง 2 หวี อันนี้ตามความชอบเลยนะคะถ้าต้องการจะทำมากก็ทำ 2 หวีไปเลยก็ได้ค่ะแต่ถ้าหากจะทำแค่หม้อเดียวก็ 1 หวีก็เพียงพอค่ะ
• หัวกะทิและหางกะทิ อย่างละ 1 ถ้วยโดยแนะนำให้ใช้เป็นกะทิคั้นแบบสดนะคะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง 5 ช้อนโต๊ะ
• ใบเตยส่วนผสมเพื่อให้ความหอม  5-6 ใบ
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนและวิธีในการทำกล้วยบวชชีขนมไทยแสนอร่อย

มาถึงขั้นตอนสำคัญในการสอนทำเมนูกล้วย ๆ อย่างกล้วยบวชชีกันแล้วนะคะเราจะมาเริ่มทำกันที่ขั้นตอนแรกกันเลยนะคะ

• นำกล้วยน้ำว้าแบบข้ามไปปอกเปลือกแล้วหั่นเป็น 1 ส่วน 4 ใน 1 ลูก โดยหันให้ครบทั้งหวีเลยนะ
• นำกล้วยน้ำว้าที่เตรียมไว้ไปต้มในน้ำสะอาดไฟอ่อน
• หลังจากนั้นให้คุณไปเคี่ยวกะทิรอโดยนำหัวกะทิและหางกะทิไปเที่ยวรวมกันพร้อมกับเติมเกลือป่นและน้ำตาลทรายพร้อมกับน้ำตาลปี๊บลงไปด้วย โดยเคี่ยวให้เข้ากันนะคะ
• หลังจากนั้นพอเคี่ยวกะทิจนได้ที่แล้วให้นำกล้วยน้ำว้าที่นำไปต้ม มาเคี่ยวในน้ำกะทิอีกทีนึงซัก 3-4 นาที หลังจากนั้นให้ปิดไฟและนำใส่ถ้วยเตรียมพร้อมเพื่อเสริมได้เลยค่ะ

สำหรับการ สอนทำเมนูกล้วย ๆ อย่างกล้วยบวชชีขนมไทยแสนอร่อย นั้นมีวิธีขั้นตอนการทำที่ง่าย อีกทั้งยังสามารถทำได้และนำกล้วยที่คุณทานไม่หมดมาแปรรูปให้เป็นขนมหวานเพื่อทำให้คนในครอบครัวได้รับประทานกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งจะได้รสชาติความกลมกล่อมของกะทิและหวานมันอย่างแน่นอนค่ะ

แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ คนเราต้องชอบกินอาหารอยู่แล้วแต่วันนี้เว็บเราได้นำ อาหารเด็ด ๆ มาไว้ตรงหน้าคุณ

เมนูต้มยำหรือเมนู ต้มแซบกระดูกอ่อน นั้น เป็นเมนูที่อยู่คู่ครัวกับคนไทยมาอย่างช้านาน นอกจากจะเป็นเมนูที่มีรสชาติแซ่บและเด็ดแล้วเราก็ยังมีวิธีการทำที่ง่ายอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะทำทานเองที่บ้านกับครอบครัวหรือทำเพื่อขาย ก็สามารถนำมาทำเป็นอาชีพเสริมได้ สำหรับวันนี้นักเขียนมีเคล็ดลับดี ๆในการปรุงรสต้มแซบมาฝากทุก ๆ คนกันกับวิธีการทำต้มแซบกระดูกอ่อน ให้แซ่บแสบไปทั้งทรวง ฉบับอีสานที่จะพาคุณไปนัวความแซ่บ แบบจัดเต็มหอมกลิ่นข้าวคั่วกันเลยล่ะค่ะ

วันนี้มาแนะนำ ต้มแซบกระดูกอ่อน พร้อมวิธีทำ

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำต้มแซบกระดูกอ่อน

วัตถุดิบที่จะต้องใช้ในการทำเมนู ต้มแซบกระดูกอ่อน เป็นหลักนั้นเลย ก็จะมีกระดูกอ่อนที่จะต้องซื้อในตลาด หรือห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านของคุณก็ได้ค่ะโดยมีวัตถุดิบหลัก ๆ ดังนี้

• กระดูกอ่อนปริมาณ 500 กรัม
• ข่าตะไคร้และใบมะกรูด หรือเครื่องต้มยำนั่นเองค่ะ
• ในส่วนของเครื่องปรุงก็จะมี พริกป่น ข้าวคั่ว ผักชีลาว มะนาว น้ำปลา เกลือ ชูรส เป็นต้น

วิธีการทำเมนูต้มแซบกระดูกอ่อน

หลังจากที่คุณเตรียมวัตถุดิบในการทำ ต้มแซบกระดูกอ่อน เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็จะมาถึงขั้นตอนในการปรุงรสต้มแซบกระดูกอ่อนให้แซ่บไปถึงทรวงกันเลยค่ะ

• นำหม้อใส่น้ำสะอาดแล้วต้มกระดูกอ่อนให้ยุ่ยเป็นเวลา 30 ถึง 60 นาที
• นำหม้อใส่น้ำสะอาดประมาณครึ่งหม้อแล้วทุบข่าตะไคร้ใบมะกรูดหรือเครื่องต้มยำใส่ลงไปต้มในหม้อให้น้ำเดือด หลังจากนั้นนำกระดูกอ่อนที่ต้มไว้มาใส่ลงไปในหม้อค่ะ
• หากต้มจนเดือดแล้วให้ตักกระดูกอ่อน และ น้ำต้มยำมาใส่ในถ้วยค่ะเพราะจะทำการปรุงในถ้วย โดยการใส่พริกป่น ข้าวคั่ว มะนาว น้ำปลา เกลือ ชูรส ในปริมาณที่พอดี
• ถ้าหากใครที่ชื่นชอบรสจัดให้เพิ่มมะนาวและพริกป่นลงไปด้วยนะคะ
• เสร็จแล้วโรยด้วยผักชีลาวหอมพร้อมเสิร์ฟค่ะ

สำหรับ วิธีการทำต้มแซ่บกระดูกอ่อน ให้แซ่บแสบไปทั้งทรวง ฉบับอีสาน นั้นเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่าย อีกทั้งยังเสริมความแซ่บกับข้าวสวยร้อน ๆ เพื่อเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มรสความนัว แบบอีสานที่แท้จริง ถ้าหากคุณอยากที่จะทานเมนูต้มแซบกระดูกอ่อนคุณก็สามารถดูวิธีการทำและนำไปทำตามได้เลยนะคะ

// เมนูเด็ดอาหารอร่อย // อาหารทั่วไป // ข้าวคั่ว //