แกงไตปลา
อาหารรสเด็ด อาหารไทย

แกงไตปลา เมนูขึ้นชื่อของภาคใต้ ที่รสชาติรสชาติเผ็ดร้อนถึงใจ หากใครได้ลองทานแล้ว รับรองว่าจะติดใจ !!

            แกงไตปลา แกงปักษ์ใต้รสชาติเผ็ดร้อนถึงใจ หากใครได้ลิ้มลองรสรับรองได้ว่าจะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน แกงไตปลาเป็นแกงที่นิยมรับประทานคู่ทั้งกับข้าวสวยและขนมจีน ในระหว่างที่เรามาทำแกงไตปลากัน เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมเตรียมข้าวสวยหรือขนมจีนกันไว้เลย พอเราทำแกงไตปลาเสร็จจะได้พร้อมลงมือรับประทาน ก่อนไปถึงขั้นรับประทานเรามาดูกรรมวิธีการทำแกงไตปลาตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมพริกแกงไตปลาพร้อม ๆ กันเลย

แกงไตปลา

วิธีทำ และวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนู แกงไตปลา แสนอร่อย จะมีอะไรบ้าง ?

1.พริกขี้หนูแห้ง ปริมาณ 40 เม็ด

2.พริกขี้หนูสด ปริมาณ 10 เม็ด

3.พริกไทย ปริมาณ 10 เม็ด

4.กระเทียม ปริมาณ 10 กลีบ

5.หัวหอมแดง ปริมาณ 2 หัว

วัตถุดิบทำแกงไตปลา

6.ใบมะกรูด ปริมาณ 5 ใบ

7.ข่า ปริมาณ 1/2 หัว

8.ตะไคร้ ปริมาณ 10 ต้น

9.ผิวมะกรูด ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

10.ขมิ้น ปริมาณ 1/2 หัว

11.กะปิ ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

12.เกลือผง ปริมาณ 1/2 ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับเมนูแกงไตปลา

1.ถั่วฝักยาว ปริมาณ 1/2 กำมือ

2.ฟักทอง ปริมาณ 1/4 ผล

3.หน่อไม้ ปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด

4.กุ้งสด ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด

5.ปลาทูย่าง ปริมาณ 1 ตัว

วิธีทำแกงไตปลา

6.ไตปลา ปริมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำสะอาด ปริมาณ 600 กรัม หรือ 6 ขีด

8.ส้มแขก ปริมาณ 3 – 5 ชิ้น

9.น้ำตาลปึก ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

10.พริกแกงไตปลา ปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์สำหรับเมนูแกงไตปลา

1.มีด

2.เขียง

3.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ

4.ครก

5.สาก

6.หม้อ

7.จวัก

8.ที่กรองกากไตปลา

กรรมวิธีการเตรียมน้ำพริกแกงไตปลา

1.นำพริกขี้หนูแห้ง ปริมาณ 40 เม็ด มาแช่น้ำให้นิ่ม วางใส่จานพักไว้

2.นำพริกขี้หนูสด ปริมาณ 10 เม็ด มาล้างให้สะอาด เด็ดขั้วพริกออก หั่นให้มีขนาดเล็กลง วางใส่จานพักไว้

3.นำกระเทียม ปริมาณ 10 กลีบ และ หัวหอมแดง ปริมาณ 2 หัว มาแกะเปลือกออก สับละเอียดวางใส่จานพักไว้

4.นำใบมะกรูด ปริมาณ 5 ใบ, ข่า ปริมาณ 1/2 หัว, ตะไคร้ ปริมาณ 10 ต้น และ ขมิ้น ปริมาณ 1/2 หัว มาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ เฉพาะขมิ้นและข่าฝานเอาเปลือกนอกออก จากนั้นสับละเอียด

5.นำพริกขี้หนูแห้ง, พริกขี้หนูสด, ข่า, ตะไคร้, ผิวมะกรูด, พริกไทยและใบมะกรูดที่เตรียมไว้ มาโขลกรวมกันในครกให้ละเอียด

6.ใส่หัวหอมแดง, กระเทียมและขมิ้นที่เตรียมไว้ ลงไปโขลกจนละเอียดเข้ากันดี ใส่กะปิ ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะและเกลือผง ปริมาณ 1/2 ช้อนชาลงโขลกจนเข้ากันดีตักใส่จานพักไว้

กรรมวิธีการทำแกงไตปลา

1.นำถั่วฝักยาว ปริมาณ 1/2 กำมือ และหน่อไม้ ปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด มาล้างใหสะอาด จากนั้นหั่นเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ ใส่จานพักไว้

2.นำฟักทอง ปริมาณ 1/4 ผล มาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นให้ขนาดพอดีคำ ใส่จานพักไว้

เมนูแกงไตปลา

3.นำกุ้งสด ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด มาล้างให้สะอาดแกะเปลือกและเส้นสีดำกลางหลังออก จากนั้นสับหยาบๆ ใส่จานพักไว้

4.นำปลาทูย่าง ปริมาณ 1 ตัว มาแกะเอาเฉพาะเนื้อ ใส่จานพักไว้

5.ใส่ไตปลา ปริมาณ 2 – 3 ช้อนโต๊ะและน้ำสะอาด ปริมาณ 600 กรัม หรือ 6 ขีด ลงในหม้อแล้วตั้งไฟให้ละลาย จากนั้นกรองเอากากออก แล้วใส่พริกแกงไตปลา ปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะลงไปละลายในหม้อแกง ตั้งไฟต่อจนน้ำเดือด

6.ใส่กุ้งสับและเนื้อปลาทูย่างที่เตรียมไว้ลงไป

7.ทำการปรุงรสโดยใส่ส้มแขก ปริมาณ 3 – 5 ชิ้นและน้ำตาลปึก ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง

8.เติมถั่วฟักยาว, ฟักทอง และหน่อไม้ที่เตรียมไว้ลงไป ต้มต่อจนผักสุก ยกใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ 2 จังหวัดเจ้าดังแห่ง ขนมรังผึ้ง ตำนานของขนมไทยโบราณที่ค่อนข้างหารับประทานยากในปัจจุบัน

ขนมรังผึ้ง
แนะนำร้านอาหาร

2 จังหวัดเจ้าดังแห่ง ขนมรังผึ้ง ตำนานของขนมไทยโบราณที่ค่อนข้างหารับประทานยากในปัจจุบัน

ขนมรังผึ้ง หรือ “ขนมพิมพ์” ที่ผู้คนสมัยนี้ อาจเรียกวาฟเฟิลสไตล์ไทยโบราณ อาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายกับวาฟเฟิลนั่นเอง และอาจมีการประยุกต์ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ในการเพิ่มสีสันให้กับหน้าตาและรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นหน้าลูกเกด ผลไม้อบแห้ง หรือธัญพืชต่าง ๆ แต่ความดั้งเดิมที่มาด้วยความหอมของมะพร้าว กะทิ และข้าวโพดจัดเป็นสูตรที่กำลังจะกลายเป็นตำนานของขนมไทยโบราณที่ค่อนหายากอีกชนิดหนึ่ง ที่มีกลิ่นและรสชาติในแบบฉบับไทยแท้ วันนี้เราขอแนะนำ 2 เจ้าดังแห่งขนมรังผึ้งที่จะต้องซื้อฝากให้สมาชิกในบ้านลิ้มลองกันให้ได้   

ขนมรังผึ้ง

2 จังหวัดแห่ง ขนมรังผึ้ง จะมีจังหวัดไหนบ้าง ? และจะอร่อยมากเพียงใด ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด !      

1. ขนมรังผึ้งเตาถ่าน ซอยตลาดศรีวานิช หากใครแวะเวียนผ่านวัดตะพาน ในละแวกเขตดินแดง ก็จะพบแหล่งของกินนานาชนิดไม่ว่าจะคาวหรือหวาน แต่ที่น่าสนใจสำหรับสายขนมโบราณที่ตอบโจทย์ความเป็นออริจินัลแท้ ๆ คงหนีไม่พ้น รถเข็นโบราณเจ้านี้ โดยมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์การย่างบนเตาถ่านโดยใช้แม่พิมพ์โบราณ ที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นกันในสมัยนี้แล้ว ซี่งความหอมชวนหิวนั้นไม่ต้องพูดถึง ความผสมผสานรสชาติของตัวแป้งที่มีกลิ่นของกะทิและข้าวโพดนั้นได้ช่วยเพิ่มเติมความฟินในระดับคูณสอง ที่สำคัญสูตรลับของการกวนแป้งโดยไม่ใช่ตัวช่วยอย่างผงฟูและยีสต์ สะท้อนถึงความพิถีพิถันของแม่ค้าได้อย่างชัดเจน                                                             

ขนมรังผึ้งเตาถ่าน ซอยตลาดศรีวานิช

        2.  ขนมรังผึ้งกรอบ ชลบุรี ข้ามไปฝากไปยัง ตัวเมืองชลบุรีกันบ้าง ย่านแยกสาธารณสุข หรือในพิกัดตรงข้ามร้านขายยาศรีทองโอสถ เป็นที่กล่าวขานกันสำหรับสาวกขนมโบราณของชาวชลบุรี ในรสชาติที่ยังคงเอกลักษณ์ที่รู้จักกันในนาม ”ขนมโหล่วเทงก้วย” หรือขนมรังผึ้งนั่นเอง กลิ่นหอมของความเป็นมะพร้าวที่ยั่วยวนแตะจมูก อาจติดไหม้ตรงความกรอบ ตามขอบมุมบ้างก็ไม่ใช่ปัญหา 

ขนมรังผึ้งกรอบ ชลบุรี

เพราะคือเสน่ห์ของขนมชนิดนี้โดยแท้ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ระหว่างวาฟเฟิลกับขนมรังผึ้ง อาจเป็นความบางของแป้งที่ผสมผสานกลิ่นหอมของเตาถ่าน ส่งผลให้ลดความเลี่ยนได้ในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะพบได้ในสูตรของเจ้าดังแห่งนี้ นอกจากนั้นความหวานในระดับปานกลาง (บางเจ้าอาจหวานมาก) เคี้ยวหนึบหนับเพลิน ๆ จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ที่ได้แวะอุดหนุนขนมระดับตำนานของเจ้าดังเจ้านี้  ขนมรังผึ้ง ระดับตำนานที่เห็นได้ชัด ของการหาซื้อได้ยาก ตามเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่กำลังจะกลายเป็นขนมเฉพาะกลุ่ม ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นเก่า ฉะนั้นหากใครยังไม่เคยได้หาทาน แวะเวียนผ่านต่างจังหวัดหรือชนบทในจังหวัดต่าง ๆ หากได้กลิ่นของขนมรังผึ้งโบราณ ก็อย่าลืมสัมผัสรสชาติได้สักครั้ง

ที่มาข้อมูล         :   https://www.wongnai.com/

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ร้านข้าวซอยเมืองกรุง เจ้าอร่อย ที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงภาคเหนือก็สามารถรับประทานข้าวซอยรสชาติแบบต้นตำหรับได้

ร้านข้าวซอยเมืองกรุง
แนะนำร้านอาหาร

ร้านข้าวซอยเมืองกรุง เจ้าอร่อย ที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงภาคเหนือก็สามารถรับประทานข้าวซอยรสชาติแบบต้นตำหรับได้

            ร้านข้าวซอยเมืองกรุง ใครที่ชอบรับประทานข้าวซอยมากองรวมกันตรงนี้เลย เพราะบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะพาคุณไปอร่อยฟินกับร้านข้าวซอยในเมืองกรุงที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงภาคเหนือก็สามารถรับประทานข้าวซอยรสชาติแบบต้นตำหรับได้ ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปอร่อยฟินกับร้านข้าวซอยในเมืองกรุงกันเลย

ร้านข้าวซอยเมืองกรุง

แนะนำ 4 ร้านข้าวซอยเมืองกรุง เจ้าดังเจ้าอร่อยในเมืองกรุงฯ ที่บอกเลยว่า อร่อยไม่แพ้ภาคเหนือ !!

อองตอง ข้าวซอย

            “อองตอง ข้าวซอย” ร้านข้าวซอยในเมืองกรุงที่ย่านพหลโยธินที่จะทำให้คุณอร่อยฟินอย่างแน่นอนด้วยข้าวซอยสูตรต้นตำหรับแท้ ๆของทางภาคเหนือ นอกจากนี้บรรยากาศที่ร้านข้าวซอยแห่งนี้ยังมีความน่ารักเป็นอย่างมาก ใครที่ชื่นชอบเมนูข้าวซอยจะต้องชอบรสชาติของอาหาร และบรรยากาศของที่ร้านข้าวซอยแห่งนี้อย่างแน่นอน

ข้าวซอย อย่างเดือด

            “ข้าวซอย อย่างเดือด” ใครที่ชอบข้าวซอยรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมต้องที่ร้านข้าวซอยในเมืองกรุงแห่งนี้เลย รับรองว่าคุณจะอร่อยฟินทุกคำอย่างแน่นอน เพราะน้ำซุปของที่นี่ต้องบอกเลยว่าเด็ดจริง ๆ นอกจากนี้ยังตุ๋นเนื้อจนเปื่อยกำลังพอดีทำให้รู้สึกเหมือนเนื้อละลายในปากได้ทันทีที่รับประทานเข้าไป และนอกจากเมนูข้าวซอยแล้วก็ยังมีเมนูอาหารเหนืออื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นต้น หากใครอยากลิ้มลองรสชาติข้าวซอยรสชาติเข้มข้นแบบนี้ต้องไปที่ย่านวังทองหลางเลย รับรองว่าไม่มีผิดหวัง

ข้าวซอยแม่สุภาพเจ้าเก่าย่านเทเวศน์

            “ข้าวซอยแม่สุภาพเจ้าเก่าย่านเทเวศน์” ร้านข้าวซอยเก่าแก่ชื่อดังในย่านเทเวศน์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยฟินอย่างแน่นอน ทีเด็ดของที่ร้านข้าวซอยแห่งนี้ก็คือ เส้นที่ทำเองตั้งแต่ขั้นตอนแรกจึงมีความพิเศษไม่เหมือนที่ไหน ๆ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งข้าวซอยไก่ และข้าวซอยเนื้ออีกด้วย ทั้งยังมีเมนูพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายอย่างเมนูหมูสะเต๊ะ เมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว เมนูข้าวหมกไก่ เป็นต้น

หอมด่วน

            “หอมด่วน” ร้านอาหารเหนือในเมืองกรุงที่ย่านเอกมัย ทีเด็ดของร้านนี้เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเมนูข้าวซอยสูตรต้นตำหรับล้านนาแท้ ๆ ใครอยากลองลิ้มรสชาติแบบต้นตำหรับว่าเป็นอย่างไรต้องที่ร้านอาหารเหนือแห่งนี้เท่านั้น นอกจากนี้เมนูอาหารเหนืออื่น ๆ ก็เป็นสูตรต้นตำหรับล้านน้าด้วยเช่นกัน รับรองเลยว่าจะต้องถูกใจหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบอาหารเหนืออย่างแน่นอน และที่สำคัญก็คือ มีราคาที่เหมาะสมกับความอร่อยของอาหารเป็นอย่างมาก ใครได้ผ่านไปแถวย่านเอกมัยต้องไม่พลาดที่ร้านอาหารเหนือแห่งนี้รับรองว่าคุณจะอร่อยฟินอย่างแน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์ เจ้าอร่อย และมีอาหารรสเด็ด อยู่มากมาย ที่คุณต้องไม่พลาดเด็ดขาด !

ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์
แนะนำร้านอาหาร

ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์ เจ้าอร่อย และมีอาหารรสเด็ด อยู่มากมาย ที่คุณต้องไม่พลาดเด็ดขาด !

            ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์ ในย่านอนุสาวรีย์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในกรุงเทพที่มีร้านอาหารเด็ด ๆ อยู่มากมาย บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะพาไปตะลุยกินร้านอาหารเด็ดชื่อดังรอบอนุสาวรีย์ที่ไม่ควรพลาด รับรองเลยว่าแต่ละร้านเด็ด ๆ ทั้งนั้น

ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์

แนะนำ 5 ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์ ที่คนนิยมไปรับประทานมากที่สุด จะมีร้านไหนบ้าง ?

ร้านอาหารชื่อดังอนุสาวรีย์

            มาตะลุยกินที่ร้านแรก “ส้มตำเจ๊ไก่ อนุสาวรีย์” จะบอกว่าเป็นร้านส้มตำชื่อดังที่แซ่บที่สุดในย่านอนุสาวรีย์เลยก็ว่าได้ นอกจากเมนูส้มตำแซ่บ ๆแล้วก็ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ให้เลือกอีกมากมาย และรับรองเลยว่าแซ่บทุกเมนู เหมาะกับเป็นร้านที่จะนัดรวมตัวเพื่อนมานั่ง Party ส้มตำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และบอกได้คำเดียวเลยว่าเป็นร้านอาหารเด็ดชื่อดังรอบอนุสาวรีย์ที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์

            “ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อดังในย่านอนุสาวรีย์ที่เปิดขายมานานกว่า 40 ปีเลยทีเดียว เรื่องรสชาติความอร่อยนี่ไม่ต้องพูดถึงไม่ต้องปรุงก็สามารถรับประทานได้เลย ด้วยสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณที่เข้มข้น กลมกล่อม หอมน้ำซุป ทั้งยังมีราคาเพียงชามละ 10 บาท เท่านั้นอีกด้วย บอกเลยว่ามาที่อนุสาวรีย์แล้วไม่มาที่ร้านอาหารเด็ดชื่อดังแห่งนี้ถือว่าพลาดเป็นอย่างมาก

ลูกชิ้นดิสโก้

            “ลูกชิ้นดิสโก้” ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำใสชื่อดังรอบอนุสาวรีย์ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก แม้แต่ผู้ที่พึ่งจะเคยผ่านมา เดินผ่านหน้าร้านก็ต้องหอมกลิ่นของน้ำซุปจนอดใจไม่ไหวกันทุกราย จุดเด่นของที่ร้านอาหารเด็ดชื่อดังแห่งนี้อยู่ที่ลูกชิ้นที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ทางร้านทำเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก จึงมั่นใจในเรื่องของความสะอาด และปลอดสารพิษได้อย่างแน่นอน ทั้งยังมีให้เลือกรับประทานทั้งหมู และเนื้ออีกด้วย

Eat Am Are

            “Eat Am Are” ร้าน Steak ชื่อดังรอบอนุสาวรีย์ที่ไม่ว่าพูดถึงของกินที่อนุสาวรีย์เมื่อไหร่ก็จะต้องนึกถึงร้านอาหารเด็ดชื่อดังแห่งนี้อย่างแน่นอน เป็นร้าน Steak ที่มีผู้คนแวะเวียนกันเข้ามาเป็นลูกค้าอย่างไม่ขาดสายในทุก ๆ วัน เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมแล้วยังมีราคาที่สบายกระเป๋าอีกด้วย บอกได้เลยว่าไม่ว่าใครที่ได้เข้ามาลิ้มลอง Steak ที่ร้านอาหารแห่งนี้ก็จะต้องติดใจอยากกลับมารับประทานซ้ำอีกครั้งอย่างแน่นอน

Ginza Japanese Food

            “Ginza Japanese Food” ร้านอาหารเด็ดชื่อดังรอบอนุสาวรีย์ที่ถูกใจผู้ที่ชอบรับประทาน Sushi เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมแบบญี่ปุ่นแท้ ๆแล้ว ยังใส่วัตถุดิบมาแบบแน่น ๆ เต็มคำ ทั้งยังมีราคาเพียงแค่คำละ 10 บาทเท่านั้นอีกด้วย บอกเลยว่าผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดหากได้มาในย่านอนุสาวรีย์แห่งนี้

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ ร้านดังเจ้าอร่อยสุด ๆ หากใครที่ชอบไอติมกะทิแบบสมัยก่อน บอกเลยว่า ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !!

ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ
แนะนำร้านอาหาร

ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ ร้านดังเจ้าอร่อยสุด ๆ หากใครที่ชอบไอติมกะทิแบบสมัยก่อน บอกเลยว่า ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !!

            ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ ไอติมทรงเครื่องโบราณที่ค่อนข้างจะหารับประทานได้ยากแล้วในสมัยนี้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะหันไปรับประทาน Ice cream แบบสมัยใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติของไอติมทรงเครื่องโบราณที่มีความหอม หวาน มันกะทิ นอกจากนี้ยังมีการใส่เครื่องต่าง ๆ มากมายอีกด้วย ดังนั้นบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงได้รวบรวมร้านไอติมทรงเครื่องโบราณที่น่าไปลองมาไว้ให้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปตะลุยกินกันเลย

ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ

แนะนำ 4 ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ ร้านดัง แสนอร่อย จะมีร้านไหนบ้าง ?

ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณ

            “หวานลิ้น ไอติมทรงเครื่อง” ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณที่มีเครื่องให้เลือกเยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆที่น่าสนใจอย่าง ไอติมทรงเครื่องไข่แข็ง ไอติมทรงเครื่องกล้วยไข่เชื่อม ฯลฯ เป็นต้น เป็นร้านไอติมทรงเครื่องโบราณที่น่าไปลองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว หากใครสนใจก็สามารถตามพิกัดร้านไอติมทรงเครื่องโบราณแห่งนี้ไปได้ที่ย่านพรานนก

ไอติมทรงเครื่องโบราณลุงวัน

            “ไอติมทรงเครื่องโบราณลุงวัน” ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณที่จังหวัดตรังที่น่าไปลองเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีรสชาติให้เลือกมากมายแล้วยังมีเครื่องให้เลือกใส่กันได้ตามใจชอบอีกด้วย นอกจากนี้ภาชนะที่ใช้ใส่ไอติมทรงเครื่องโบราณแต่ละเมนูนั้นต้องบอกเลยว่ามีความน่ารัก น่ารับประทานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ITIM LAMOON

            “ITIM LAMOON” ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณที่มาในรูปแบบขนมปังที่เห็นกันได้บ่อยครั้งในสมัยก่อน ซึ่งในปัจจุบันนี้ค่อนข้างที่จะหารับประทานได้ยากแล้ว ที่ร้านไอติมทรงเครื่องโบราณแห่งนี้นำมาประยุกต์โดยมีรสชาติใหม่ ๆ และเครื่องแบบใหม่ ๆให้เลือกได้มากขึ้น บอกเลยว่าน่าไปลองเป็นอย่างมาก

นัฐพร Ice cream กะทิสด

            “นัฐพร Ice cream กะทิสด” ต้องบอกเลยว่าร้านไอติมทรงเครื่องโบราณร้านนี้เป็นไอติมทรงเครื่องโบราณที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหรือแม้กระทั่งเครื่องที่ใส่ในไอติมทรงเครื่องโบราณ ใครที่อยากรับประทานไอติมทรงเครื่องโบราณที่มีรสชาติแบบดั้งเดิมต้องที่ร้านแห่งนี้เลย นอกจากนี้บรรยากาศภายในร้านยังให้ความรู้สึกย้อนยุคอีกด้วย หากได้มานั่งรับประทานไอติมทรงเครื่องโบราณที่ร้านแห่งนี้รับรองเลยว่าจะทำให้คุณคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆในสมัยอดีตที่มีแต่ไอติมทรงเครื่องโบราณเท่านั้นอย่างแน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ  ร้านอาหารชื่อแปลก ที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้คุณสนใจเรื่องอาหาร ตั้งแต่เห็นชื่อร้าน

ร้านอาหารชื่อแปลก
แนะนำร้านอาหาร

ร้านอาหารชื่อแปลก ที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้คุณสนใจเรื่องอาหาร ตั้งแต่เห็นชื่อร้าน

            ร้านอาหารชื่อแปลก บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะพาไปดูร้านอาหารชื่อแปลกที่จะทำให้คุณสนใจตั้งแต่เห็นชื่อร้าน ในส่วนของเมนูอาหาร และรสชาตินั้นต้องตามไปลิ้มลองกันเองว่าจะแปลกเหมือนชื่อร้านหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปดูกันเลย

ร้านอาหารชื่อแปลก

แนะนำ 5 ร้านอาหารชื่อแปลก จะแปลกแค่ไหน มีร้านอะไรบ้าง และอาหารจะแปลกเหมือนชื่อร้านหรือไม่ ?

ร้านอาหารชื่อแปลก

            ร้านอาหารชื่อแปลกที่จะทำให้คุณสนใจตั้งแต่เห็นชื่อร้าน “ดาวอังคารกำลังนั่งยานไปดาวสุข MA MARS CAFÉ” ครั้งแรกที่คุณเห็นชื่อร้านคุณจะต้องอยากรู้อย่างแน่นอนว่าเป็นร้านอะไร และร้านที่ว่านี้ก็คือ Café ขนมหวาน และเครื่องดื่มแสนอร่อยที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากชื่อร้านที่ว่าแปลกแล้วยังมีเมนูสุดแปลกอย่าง เมนูข้าวกระเพราหมูกรอบดาวอังคาร ส่วนรสชาตินั้นจะเป็นอย่างไรนั้นต้องตามมาลองชิมกันเอง

เย็นตาโฟตอแหล

            “เย็นตาโฟตอแหล” ร้านอาหารชื่อแปลกที่แซ่บตั้งแต่ชื่อร้านเลยทีเดียว และต้องบอกเลยว่าเย็นตาโฟที่ร้านอาหารแห่งนี้แซ่บไม่แพ้ชื่อร้านอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมนูเย็นตาโฟต้มยำรสชาติเด็ดที่ไม่ต้องปรุงก็สามารถกินได้เลย และไม่เพียงแต่เมนูเย็นตาโฟเท่านั้น ที่ร้านอาหารชื่อแปลกแห่งนี้ยังมีข้าวขาหมูอีกด้วย ใครสนใจอยากจะมาลิ้มรสชาติความแซ่บที่ร้านอาหารชื่อแปลกแห่งนี้ก็สามารถตามไปได้ที่ถนนนวลจันทร์

แดกหัวมันส์

            “แดกหัวมันส์” ร้านอาหารทะเลชื่อแปลกที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากที่ตลาดนัดหัวมุม ด้วยกุ้งเนื้อแน่นตัวโต และสดใหม่ พร้อมกับน้ำจิ้ม Seafood รสเด็ดจึงทำให้ร้านอาหารชื่อแปลกแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่ไปที่มาของชื่อร้านอาหารสุดแปลกแห่งนี้ก็มาจากกุ้งเผาตัวโตที่มีมันกุ้งไหลเยิ้มออกมานั่นเอง

ร้านหน้าสั่นโภชนา

            “ร้านหน้าสั่นโภชนา” ร้านอาหารที่จะทำให้คุณสนใจตั้งแต่เห็นชื่อของร้าน ด้วยชื่อสุดแปลกที่มาจากประโยคเด็ดของร้านคือ “ไม่อร่อยให้ตบหน้าสั่น” เห็นแบบนี้แล้วมั่นใจความอร่อยได้ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นอกจากนี้ที่ร้านอาหารชื่อแปลกแห่งนี้ยังมีบรรยากาศที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ติดกับริมทะเลเลยทีเดียว ได้รับประทานอาหารพร้อมกับฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งได้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบสุด ๆไปเลย

ลักจุ่ม มุมตึก

            “ลักจุ่ม มุมตึก” ร้านอาหารชื่อแปลกที่จะต้องถูกใจสาย Buffet อย่างแน่นอน เพราะที่ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหาร Buffet ที่มีทั้งแบบจุ่ม และแบบปิ้งย่างให้เลือกได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ทางร้านยังหมักหมู และเนื้อสัตว์อื่น ๆเองทั้งหมดจึงแน่ใจในเรื่องของความสะอาด และความอร่อยไม่เหมือนใครได้อย่างแน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ  ทุเรียนและมังคุด ราชา – ราชินี ผลไม้ที่คนส่วนใหญ่นำมาทำอาหาร ในรูปแบบของอาหารคาว

ทุเรียนและมังคุด
อาหารรสเด็ด

ทุเรียนและมังคุด ราชา – ราชินี ผลไม้ที่คนส่วนใหญ่นำมาทำอาหาร ในรูปแบบของอาหารคาว

            ทุเรียนและมังคุด ผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชา และราชินีของผลไม้ในเมืองไทย หลาย ๆ ท่านคงจะตอบได้โดยไม่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนเลยว่า ราชาแห่งผลไม้ คือ “ทุเรียน” เชื่อว่าเป็นผลไม้ร้อน ไม่ควรทานมาก และไม่ควรทานคู่กับแอลกอฮอล์ ชาวต่างชาติบางคนไม่ชอบกลิ่นของทุเรียนเพราะว่ามีกลิ่นค่อนข้างแรง และทุเรียนก็ถูกนำไปแปรรูปเป็นขนมหลากหลายชนิด เช่น ทุเรียนกวน ข้าวเหนียวทุเรียน ทุเรียนทอด ฯลฯ

ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนก็สามารถเพิ้มอรรถรสในการทานทุเรียนเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนราชินีแห่งผลไม้คือ “มังคุด” เป็นผลไม้เย็น เชื่อกันว่าเมื่อทานทุเรียนไปแล้วให้ทานมังคุดตามไปจะทำให้ร่างกายไม่ร้อนเกินไป เหมือนกับปรับธาตุ ปรับหยิน หยางในร่างกายตัวเอง และเมื่อทานไม่หมดก็นำมาแปรรูปเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น มังคุดกวน น้ำมังคุด มังคุดหยี ฯลฯ แต่คุณผู้อ่านจะเคยคิดไหมว่าทุเรียนและมังคุดจะสามารถนำมาทำเป็นอาหารคาวได้ บทความนี้จะนำเสนอราชาและราชินีผลไม้ในรูปแบบอาหารคาว

ทุเรียนและมังคุด

ทุเรียนและมังคุด จะสามารถนำมาทำเป็นอาหารคาวอะไรได้บ้าง ? และมีวิธีการทำอย่างไร

ส้มตำทุเรียน

            อาหารคาวจานแรกจากราชาผลไม้ “ส้มตำทุเรียน” จะใม่เรียกทุเรียนที่สุกแล้วเพราะจะเละ จะเลือกที่ยังไม่สุกดี หรือห่ามมาก ๆ เรียกได้ว่าแกะออกมายังไม่มีกลิ่นจะดีที่สุด นำมาสับ ๆ เฉาะ ๆ ให้เป็นลักษณะเป็นเส้น แล้วเตรียมครกสำหรับตำเลย เริ่มต้นใส่พริกและกระเทียม ลงไปตำให้พอบุบ จากนั้นใส่ถั่วฝักยาวหักใส่ตามลงไป จากนั้นก็กุ้งแห้ง และเครื่องปรุง อันได้แก่ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา บีบมะนาว ปรุงให้ได้ 3 รส เปรี้ยว หวาน และมีเค็มเล็ก ๆ ปลายลิ้น

เมื่อปรุงได้รสที่ต้องการแล้วใส่ทุเรียนที่สับเตรียมไว้ ไม่ตำจนทุเรียนช้ำ จากนั้นใส่ถั่วลิสงคั่ว ตักใส่จานทานกับผักสด และข้าวเหนียว ส้มตำทุเรียนโดยทั่วไปแล้วจะปรุงแบบส้มตำไทย จะไม่นิยมปรุงแบบปลาร้า อาจจะเป็นเพราะทุเรียนมีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่แล้วถ้าปรุงในแบบปูปลาร้า ไม่เพียงแต่จะไม่ชูรสชาติของทุเรียนแล้ว ปูปลาร้าอาจจะกลบกลิ่นของทุเรียนอีกด้วย

แสร้งว่ายำไข่จะละเม็ดมังคุด

            อาหารคาวจากราชินีผลไม้จานนี้มีชื่อว่า “แสร้งว่ายำไข่จะละเม็ดมังคุด” หลายท่านคงจะสงสัยว่ำไข่จะละเม็ดคืออะไร ไข่จะละเม็ด สมัยก่อนนิยมทานกันมาก นั่นก็คือ “ไข่เต่า” ลักษณะเด่นคือ ไม่ว่าต้มนานแค่ไหนไข่แดงของไข่เต่าก็จะไม่แข็ง

ดังนั้นเมื่อทำอาหารคาวจานนี้ สิ่งที่แทนได้คือ ไข่ต้มยางมะตูมที่ไข่แตงยังเยิ้ม ๆ หรือจะเรียกว่าไข่ออนเซ็นก็คงจะไม่ผิด ถึงเรียกชื่ออาหารคาวเมนูนี่ว่าแสร้งว่าไข่จะละเม็ด เพราะไม่ได้ทำมาจากไข่จะละเม็ดจริง ๆ และเมื่อเตรียมไข่จะละเม็ดแล้วก็ถึงเวลาเตรียมในส่วนของมังคุด ให้เลือกมังคุดกลีบเล็ก ๆ ยิ่งเป็นมังคุดแก้วยิ่งดี เมื่อปอกเปลือกออกมาแล้วให้แช่น้ำเกลือเพื่อไม่ให้ดำ

จากนั้นเตรียมกุ้งโดยการแกะเปลือกออก เอาเส้นดำกลางหลังออก หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วลวกพอสุกไม่ให้สุกมากเพราะจะแข็งไม่อร่อย เตรียมน้ำยำโดยใช้น้ำปลา 1 ส่วน น้ำมะนาว 1 ส่วน น้ำตาลและน้ำกระเทียมดองอีก 1 ส่วน แล้วซอยพริกขี้หนูใส่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นจัดมังคุดลงจานตามด้วยเนื้อกุ้ง ไข่จะละเม็ด แล้วราดด้วยน้ำยำ โรยด้วยหอมหัวแดงซอยบาง ต้นหอมซอย เป็นอันเสร็จสิ้นอาหารคาวเมนูนี้ “แสร้งว่ายำไข่จะละเม็ดมังคุด” (ก่อนทานต้องเจาะไข่แดงเพื่อความอร่อยที่เพิ่มขึ้น)

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ มือใหม่หัด ทอดกล้วยแขก ที่บอกเลยไม่ยากอย่างที่คิด กับวิธีการทำอย่างไรให้กรอบอร่อย

ทอดกล้วยแขก
เคล็ดลับการทำอาหาร

มือใหม่หัด ทอดกล้วยแขก ที่บอกเลยไม่ยากอย่างที่คิด กับวิธีการทำอย่างไรให้กรอบอร่อย

ทอดกล้วยแขก หากเป็นสายของทอด ไม่ว่าจะเป็น เผือกทอด มันทอด ข้าวเม่าทอด หรือกล้วยทอด อาจจะกังวลถึงกรรมวิธี หรือขั้นตอนของร้านแผงลอยและตามรถเข็นต่าง ๆ ที่อาจใช้วัตถุดิบหรือน้ำมันที่ซ้ำ ๆ วนไปมา ในการทอดของทอดนั้น ฉะนั้นเพื่อสุขภาพของตนเอง ลองเปิดตำราสูตรลับและวิธีทำ โดยเริ่มจากของทอดที่ไม่ยากอย่างกล้วยแขกและลงมือทำสักตั้งดู ประกอบกับเทคนิคหรือเคล็ดที่ไม่ลับที่เราเสนอวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางเพิ่มเติมให้รสชาติของกล้วยทอดหรือกล้วยแขกนั้น มีความกรอบนุ่ม หอมอร่อยได้ดั่งใจ

ทอดกล้วยแขก

3 เทคนิค วิธีการ ทอดกล้วยแขก ให้กรอบนุ่มแสนอร่อย จะมีอะไรบ้าง ?

1. เลือกกล้วยดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ว่าคุณจะมีเคล็ดลับหรือสูตรหวานมันอร่อยในรูปแบบใดก็ตาม หากเลือกกล้วยไม่ดีหรือสุกเกินไป  อาจทำใหภารกิจล้มเหลวตั้งแต่ต้นได้  ฉะนั้นวิธีการเลือกกล้วยที่เหมาะสม ควรเลือกชนิดที่สุกแต่อมเขียวเล็ก ๆ หรือห่ามนั่นเอง เพราะหากสุกเกินไปเวลาทอดก็จะอมน้ำมันและไม่สวยงาม ในขณะเดียวหากเลือกกล้วยที่มีลักษณะดิบ ผลที่ได้คือรสชาติที่อาจจะฝาดและผิดวิสัยของคุณลักษณะของกล้วยแขกได้                                                                                   

สูตรวิธีการทำกล้วยแขกกล้วยทอดอร่อย

2. ความหอมคือท่าไม้ตาย ขนมหวานหรือของทอด ถ้าไม่หอมหรือกลิ่นไม่ชวนยั่วยวน ก็จะผิดคอนเซ็ปต์ไปอย่างมาก ความหอมของกล้วยแขกก็เช่นเดียวกัน ควรเริ่มจากการเลือกสรรน้ำมันเป็นอันดับแรก ที่นิยมก็คือ น้ำมันมะพร้าวนั่นเอง แต่หากยังต้องการกลิ่นหอมที่เพิ่มเติม ก่อนลงกล้วย ควรนำใบเตยที่หั่นเล็ก ๆ ลงไปใส่ในน้ำมันเพื่อเพิ่มความหอมคูณสองยิ่งขึ้น (อย่าลืมตักใบเตยที่กรอบแห้งได้ที่แล้ว ทิ้งไปก่อนลงกล้วย)                                                                                                         

3. ทอดให้ได้ดั่งใจ ระยะเวลาการทอดเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะต้องคำนึงอยู่ตลอด ฉะนั้นควรจับเวลาหรือประมาณการทอดไว้ ไม่เกิน 20 หรือในระหว่าง 15-20 นาที ทั้งนี้ควรดูสีสันประกอบตามไปด้วย เมื่อสีเหลืองได้ที่อยู่ระหว่าง 90-95% ให้ยกขึ้นพักได้ทันที

วิธีทำทอดกล้วยแขก

            กล้วยทอดหรือกล้วยแขกที่เราเรียกกันติดปาก เป็นของทอดที่เห็นอย่างชินชาในยามเด็ก เรียกได้ว่าเกิดมาก็พบเห็นตามท้องตลาดแล้ว หากคุณได้มีโอกาสทดลองทำไม่ว่าจะเป็นแม่ครัวหรือพ่อครัวมือใหม่ก็ตาม ล้วนจะต้องภูมิใจที่สามารถสร้างของอร่อยที่มีตำนานอย่าง กล้วยแขกในสไตล์ไทย ๆ ได้เช่นนี้

ที่มาข้อมูล      : https://www.easycookingmenu.com/

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ มะระผัดไข่กุ้ง เป็นเมนูอาหารที่มีรสขม ในความคิดของหลาย ๆ คน แต่มีประโยชน์สุด ๆ

มะระผัดไข่กุ้ง
อาหารรสเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ

มะระผัดไข่กุ้ง เป็นเมนูอาหารที่มีรสขม ในความคิดของหลาย ๆ คน แต่มีประโยชน์สุด ๆ

            มะระผัดไข่กุ้ง หวานเป็นลม ขมเป็นยา คงเป็นสุภาษิตที่ใช้เปรียบเปรยกับการรับประทานอาหารที่มีรสชาติขม แล้วมีประโยชน์ และด้วยประโยคนี้ อาหารที่มีรสขมที่ผุดขึ้นมาในความคิดของหลาย ๆ ท่านก็คือมะระ มะระผัดไข่กุ้งจึงเป็นเมนูที่หลายๆ ท่านคิดรสชาติแรกขึ้นมาเลย คือ รสขมนั่นเอง สำหรับวันนี้เราจะมานำเสนอกรรมวิธีการทำมะระผัดไข่กุ้งที่มีทั้งประโยชน์และความอร่อย โดยที่ไม่มีรสขมอย่างแน่นอน เราไปดูกรรมวิธีการทำพร้อม ๆ กันเลย

มะระผัดไข่กุ้ง

วิธีทำ และวัตถุดิบสำหรับใช้ทำเมนู มะระผัดไข่กุ้ง ที่มีทั้งประโยชน์และความอร่อย

1.มะระ ปริมาณ 1 ลูก

2.เกลือผง ปริมาณ 1/2 ช้อนชา

3.น้ำสะอาด

4.พริกชี้ฟ้า ปริมาณ 2 – 3 เม็ด

5.แครอท ปริมาณ 1/4 หัว

วัตถุดิบมะระผัดไข่กุ้ง

6.กระเทียม ปริมาณ 4 – 5 กลีบ

7.กุ้ง ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด

8.ไข่ไก่ ปริมาณ 1 ฟอง

9.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

10.ซอสปรุงรส ปริมาณ 3 ช้อนชา

11.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1 ช้อนชา

อุปกรณ์สำหรับเมนูมะระผัดไข่กุ้ง

1.มีด

2.เขียง

3.ช้อน

4.จานสำหรับวางวัตถุดิบพัก

ทำมะระผัดไข่กุ้ง

5.ถ้วยสำหรับแช่มะระ

6.หม้อ

7.จวัก

8.กระทะ

9.ตะหลิว

กรรมวิธีการทำมะระผัดไข่

1.นำมะระ ปริมาณ 1 ลูกมาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นผ่าตามแนวยาวของผลมะระ แล้วใช้ช้อนขูดไส้และเมล็ดออก (ส่วนนี้ถ้าขูดออกไม่หมดจะทำให้ได้มะระรสชาติขม) จากนั้นหั่นให้มีขนาดลดลง

2.นำมะระที่หั่นแล้วมาขยำกับเกลือผง ปริมาณ 1/2 ช้อนชา (ขั้นตอนนี้เป็นอีกหนึ่งเคล็บลับที่ช่วยลดความขมของมะระ) ในถ้วยสำหรับแช่มะระ ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที จากนั้นล้างเกลือผงออกด้วยน้ำสะอาด 3 – 4 น้ำ พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วใส่จานเตรียมไว้

3.นำหม้อใส่น้ำสะอาดตั้งไฟจนน้ำเดือด แล้วใส่มะระลงไปลวก แล้วรีบตักใส่ถ้วยน้ำเย็นทันที (เพื่อป้องกันมะระเปลี่ยนสีและขั้นตอนนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนช่วยลดรสขมของมะระอีกด้วย) แล้วตักขึ้นใส่จานพักไว้

วิธีทำมะระผัดไข่กุ้ง

4.นำพริกชี้ฟ้า ปริมาณ 2 – 3 เม็ด มาล้างให้สะอาด เด็ดขั้วพริกออก ตั้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นเฉียงใส่จานเตรียมไว้

5.นำแครอท ปริมาณ 1/4 หัว มาล้างให้สะอาด ตั้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ปอกเปลือก แล้วให้เป็นเส้นเล็กๆ ใส่จานเตรียมไว้

6.นำกระเทียม ปริมาณ 4 – 5 กลีบ มาแกะเปลือกออก สับให้ละเอียด ใส่จานเตรียมไว้

7.นำกุ้ง ปริมาณ 300 กรัม หรือ 3 ขีด มาล้างให้สะอาด แกะเปลือกกุ้งออก แล้วล้างอีกครั้ง จากนั้นใส่จานเตรียมไว้

8.นำกระทะมาตั้งไฟ จากนั้นใส่น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงไป รอจนน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอมได้ที่เติมกุ้งลงไปผัดจนใกล้สุก

9.เติมมะระลงไปพร้อมกับแครอทที่เตรียมไว้ แล้วใส่ไข่ไก่ปริมาณ 1 ฟองลงไปขยี้จนเข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ปริมาณ 3 ช้อนชาและน้ำตาลทราย ปริมาณ 1 ช้อนชา

10.เติมพริกชี้ฟ้าที่เตรียมไว้ลงไปผัดอีกประมาณ 2 – 3 นาที ตักใส่จานเตรียมเสิร์ฟ

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ อาหารรสเด็ด ได้ที่นี่

ร้าน STARBUCKS COFFEE
อาหารทั่วไป

ร้าน STARBUCKS COFFEE สาขา สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ที่บอกเลยว่า ไม่แตกต่างจากสาขาอื่น ๆ แน่นอน ต้องไปลอง !!

            ร้าน STARBUCKS COFFEE ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ตั้งอยู่ ณ สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ โดยตั้งอยู่หลังบันไดเลื่อนบริเวณประตูทางออกที่ 1 และประตูทางออกที่ 2 และอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณให้บริการตู้ ATM ของหลาย ๆ ธนาคาร ณ สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ร้าน STARBUCKS COFFEE สาขานี้เปิดให้บริการในวันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 6.30 AM – 9.30 PM บริเวณเคาร์เตอร์เครื่องดื่มและสั่งขนมจะอยู่ด้านหนึ่ง

ร้าน STARBUCKS COFFEE

ร้าน STARBUCKS COFFEE สาขา สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่มารอขึ้นเครื่อง

และโต๊ะสำหรับนั่งดื่มหรือนั่งรับประทานจะอยู่อีกด้านหนึ่ง (ส่วนนี้จะตั้งอยู่กับตรงข้ามกับร้านขายยา PHARMAWAY) เริ่มจากเราไปสั่งเครื่องดื่มและขนมที่เคาร์เตอร์ สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน STARBUCKS COFFEE สาขาสนามบินนานาชาติเชียงใหม่มีเมนูเหมือนร้าน STARBUCKS COFFEE สาขาอื่น ๆ เลย (ปกติร้านที่ขายที่สนามบินโดยมากจะมีเมนูที่น้อยกว่าสาขาที่ตั้งอยู่ภายนอกสนามบิน)

ร้าน STARBUCKS COFFEE สนามบินเชียงใหม่

ส่วนเบเกอรี่ต่าง ๆ ก็มีหน้าตารวมถึงราคาให้เราได้เลือกโดยตั้งอยู่ในตู้กระจกด้านข้างเคาร์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ เบเกอรี่ที่สาขานี้ก็มีทั้งแซนวิส ครัวซอง คุ้กกี้แบบนิ่ม แพนเค้ก มัลฟิน ขนมเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มและขนมเค้กชาเขียว เป็นต้น หากเราต้องการเบเกอรี่ชิ้นไหน เราก็สามารถสั่งพนักงานได้ จากนั้นพนักงานจะเป็นผู้หยิบเบเกอรี่ใส่จาน (ส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยป้องกันโควิดได้ อีกทั้งยังถูกสุขลักษณะด้วย เพราะพนักงานเท่านั้นที่จะหยิบเบเกอรี่ให้เราได้

และพนักงานเหล่านั้นก็สวมถุงมือสำหรับหยิบจับอาหารและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอีกด้วย) แล้วนำมารวมให้เราพร้อมกับเครื่องดื่มที่สั่งไว้ จากนั้นเราก็ทำการจ่ายเงินแล้วนำไปไว้ที่โต๊ะที่นั่งของเราเอง แต่หากออเดอร์มีจำนวนหนึ่งพนักงานจะให้เบเกอรี่เราพร้อมให้เราจ่ายเงินก่อน ส่วนเครื่องดื่มพนักงานจะเป็นผู้นำมาเสริฟ์ให้เราที่โต๊ะ

STARBUCKS สนามบินเชียงใหม่

ถัดไปจากตู้กระจกที่บรรจุเบเกอรี่ไว้เต็มตู้นี้ก็มีชั้นสำหรับตั้งโชว์แก้วและกาแฟสำหรับซื้อกลับบ้าน แก้วกาแฟ STARBUCKS ที่ตั้งโชว์อยู่ในตู้นี้มีหลากหลายรุ่นหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกซื้อกัน ในบางรุ่นร้าน STARBUCKS COFFEE สาขาใหญ่ ๆ สาขาอื่นก็จำหน่ายหมดกันแล้ว สำหรับท่านใดที่สะสมแก้วกาแฟ STARBUCKS แล้วหาบางรุ่นที่ออกมาไม่เจอ เราขอแนะนำให้ลองมาเลือกซื้อที่สาขานี้กัน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่