รีวิวการทำอาหารด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน ที่คุณเองก็สามารถทำที่บ้านได้
ในยุคของคนรักสุขภาพนี้การทำอาหารด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน นั้นก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการรับประทานอาหารทอด ซึ่งนอกจากจะไม่ทำลายสุขภาพแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย ในปัจจุบันจึงเริ่มที่จะเห็นผู้คนหันมาใช้หม้อทอดไร้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะพาไปดูว่าสามารถที่จะทำอาหารเมนูใดได้บ้างจากการใช้ หม้อทอดไร้น้ำมัน
หมูสามชั้นทอดน้ำปลา เป็นเมนูยอดนิยมอันดับแรกที่ผู้คนมักจะใช้ หม้อทอดไร้น้ำมัน ในการทำอาหาร เพราะจะได้รับปริมาณน้ำมันที่เข้าสู่ร่างกายนั้นน้อยกว่าการทอดโดยใช้กระทะ ทั้งนี้รสชาติที่ได้ออกมานั้นก็ยังอร่อยไม่แพ้การทอดด้วยกระทะอีกด้วย โดยสัดส่วนที่ใช้ในการทำเมนูหมูสามชั้นทอดน้ำปลาด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน นั้นควรที่จะใช้หมูสามชั้นแบบสไลด์ปริมาณ 300 กรัม เพื่อให้มีความสุกที่ทั่วถึง จากนั้นก็ปรุงรสชาติตามที่ต้องการ ในการทำอาหารด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันเมนูหมูสามชั้นทอดน้ำปลานั้นควรที่จะใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสในระยะเวลา 15 นาที จะทำให้อาหารออกมาดีที่สุด
ไก่ทอดเกาหลี เมนูอาหารเกาหลีที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน หมดปัญหาเรื่องน้ำมันกระเด็นในการทอดโดยใช้กระทะ ได้รสชาติที่ถูกปาก และไม่ทำลายสุขภาพอีกด้วย ในการทำไก่ทอดเกาหลีด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน นั้นควรที่จะใช้ความร้อนอยู่ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส โดยใช้ระยะเวลาเพียง 10 นาที เพราะปีกไก่นั้นสามารถที่จะสุกได้ง่ายกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ใช้เวลาในการทำอาหารด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันเพียงไม่นานก็สามารถที่จะได้เมนูอาหารสุดอร่อยแล้ว
ทาร์ตไข่ หม้อทอดไร้น้ำมัน ก็สามารถที่จะทำของหวานได้ โดยใช้วิธีในการทำทาร์ตไข่ทั่วไป เพียงแต่ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันในการทำให้สุก โดยใช้อุณหภูมิในการทำทาร์ตไข่ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมันที่ 140 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 20 นาที ก็จะได้ทาร์ตไข่ขนมหวานแสนอร่อยแล้ว การทำอาหารด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน นั้นมีตัวเลือกเมนูอาหารให้เลือกมากมายรวมไปถึงของหวานก็สามารถที่จะทำได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้การทำอาหารด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารอีกด้วย อาหารที่ได้ก็มีรสชาติที่เหมือนกัน และยังปลอดภัยจากการถูกน้ำมันกระเด็นใส่ในขณะที่ทำอาหารอีกด้วย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่
เอร็ดอร่อยไปกับทุกเมนูที่เราเลือกสรรมาให้
เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ติดอันดับทำเงินได้มากที่สุด
ผัดกระเพราเมนูนี้มีแต่ความอร่อย เมนูที่คุณก็สามารถทำรับประทานเองได้
เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ติดอันดับทำเงินได้มากที่สุด
ในจำพวกอาหารที่มีการขายตามท้องตลาดทั่วๆไปหรือตามห้าง เราจะเห็นอาหารที่เป็นจำพวกของกินเล่นหรือจะเป็นจำพวกอาหารจานเดียวซะเยอะ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าทำง่าย คนชอบทาน ราคาไม่สูงมากนัก จะทานมื้อไหนๆก็ได้ และเป็นอาหารที่ทานแล้วคนไม่เบื่อ เหตุผลต่างๆเหล่านี้เป็นเหตุผลของ เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่เราจะพูดถึงต่อไปว่า เป็นเพียงแค่ เมนูอาหารธรรมดาๆ ทั่วไปแต่กลับได้รับความนิยมไม่ตกกระแสเลยและสามารถที่จะทำเงินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ใครๆก็รู้จักกันดี นั่นคือ ลูกชิ้งปิ้ง เป็นเมนูที่มีความคลาสสิกมากๆด้วยการนำลูกชิ้นไปปิ้งให้สุกหอมกำลังดี จากนั้นเตรียมน้ำจิ้มที่มีราดเข้าไปในตัวลูกชิ้น เพียงเท่านี้ลูกชิ้นปิ้งก็มีความน่าสนใจและน่าอร่อยขึ้นมาทันที เป็นเมนูที่ดูเรียบง่ายแต่เม็ดเงินในธุรกิจลูกชิ้นนั้นเยอะมหาศาลเลย
ต่อมา เป็นเมนูกล้วยทอด กล้วยทอดที่เป็น เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่คุณรู้หรือไม่ค่ะว่าวิธีทำกว่าจะเป็นกล้วยทอดได้นั้นต้องขอซูฮกให้กับแม่ค้าที่ขายกล้วยทอดเลย เพราะความอดทนในขั้นตอนตั้งแต่การทำกล้วยให้เป็นชิ้นๆ และรอให้กระทะร้อน จากนั้นจึงนำกล้วยที่ทำไว้ไปผสมกับแป้งสูตรเฉพาะ และกว่าที่จะเป็นกล้วยทอด ก็ต้องนำไปทอด ช่างเป็นเมนูที่ทรหดมากๆเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ดียังเป็นเมนูหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วๆไปเป็นอย่างมาก
ไก่ทอด เป็นอีก เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะบอกเลยว่าบางคนมีอาชีพที่ดีได้ ก็เพราะไก่ทอดนี่แหละ บางคนส่งลูกจนจบปริญญาได้ ก็เพราะไก่ทอด เมนูนี้มีความกรอบ หอม นุ่มมากๆ ถ้ายิ่งกินตอนร้อนๆก็ยิ่งอร่อย และเป็นเมนูที่ทำเงินได้ในทุกๆวันจากที่กล่าวมา เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากมายให้น่าสนใจ แต่เมื่อคุณได้รู้ถึงเม็ดเงินของการทำอาชีพขายเมนูเหล่านี้แล้ว บอกเลยว่าคุณต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
ผัดกระเพราเมนูนี้มีแต่ความอร่อย เมนูที่คุณก็สามารถทำรับประทานเองได้
ใครบอกได้บ้างว่าทำไมในการรับประทานอาหารในบางครั้งนั้น บางคนอาจจะชอบทานแต่เมนูอาหารเดิมๆ ถ้าใครไม่รู้ เราขอบอกให้ฟังว่าเมนูอาหารที่คนชอบทานซ้ำๆบ่อยๆนั้น บางครั้งก็เป็นเพราะเมนูนั้นสามารถที่จะทำได้หลากหลายรูปแบบ ก็เลยทำให้การรับประทานอาหารนั้นมีรสชาติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับบางคนแล้วการทานรสชาติเดิมๆ แต่เปลี่ยนรูปแบบอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่เราขอรับรองว่าเมนูที่จะนำเสนอนี้เป็นเมนูที่เดิมๆที่หลายๆคนชอบทาน แต่มีรูปแบบที่คุณต้องชอบอย่างแน่นอน เพราะมีหลากหลายแบบ นั่นก็คือ ผัดกระเพรา นั่นเอง
ผัดกระเพรา ชื่อนี้ใครๆก็นึกถึงกลิ่นหอมๆของกระเพราะ เป็นเมนูที่มีเกือบทุกๆร้านเลย และแบบแรกที่เราต้องสั่งในทุกๆร้าน ก็คือ ผัดกระเพราหมูสับไข่ดาว เป็นเมนูที่คลาสสิกมากๆ แต่ยังมีเมนูที่พิเศษกว่านั้น ที่จะนำเสนอ อย่างเช่น ผัดกระเพราหน่อไม้หมูสับ เป็นเมนูหนึ่งที่หลายๆคนชอบ เพราะความพิเศษของหน่อไม้ที่มีความกรุบกรอบบวกกับกระเพราที่มีความหอมเมื่อได้ผสมเข้ากันแล้วก็ยิ่งน่ารับประทานสุดๆ
แต่ถ้าจะเปลี่ยนรูปแบบให้ดูน่ากินไปอีกก็ต้องผัดกระเพราไส้อั่ว ซิกเนเจอร์ที่เด่นของเมนูนี้แน่นอนว่าอยู่ที่ไส้อั่ว โดยปกติไส้อั่วๆนั้นเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่เรามักจะทานเป็นของว่างก็ได้หรือจะทานเป็นกับข้าวก็ได้ แต่การที่นำไส้อั่วมาผัดรวมกับกระเพราะนั้นก็ยิ่งทำให้ผัดกระเพรามีความอร่อยมากยิ่งขึ้น
เมื่อชิมรสชาติแล้วขอบอกว่าเข้ากันได้ดีเมนูที่จะแนะนำต่อมา คือ ผัดกระเพราเครื่องในไก่ เป็นเมนูที่มีการนำเครื่องในไก่มาผัดกับกระเพราที่มีกลิ่นหอมก็ยิ่งทำให้เครื่องในต่างๆของไก่ที่ลงไปผัดนั้นมีความน่ากินไปอีก ดูไม่จืดชืด ใครที่ไม่ชอบเครื่องในไก่ ถ้าหากได้ทานเมนูนี้รับรองว่าติดใจแน่นอนฉะนั้น เมนูผัดกระเพราที่กล่าวมานั้นมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็มีอยู่หลายร้านที่ได้ทำผัดกระเพราในรูปแบบที่กล่าวมานี้ แต่หลายร้านก็ไม่มี แต่ถ้าหากคุณอยากจะทานจริงๆ คุณสามารถทำได้เองทั้งสะดวกและง่ายสุดๆ
อาหารจีน 3 อย่างที่มีอิทธิพลต่อการรับประทานอาหารของคนไทย ที่ไม่ควรพลาด
อาหารจีน นับได้ว่าเป็นอาหารที่เข้ามามีอิทธิพลต่อคนไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะเห็นได้จากการทานอาหารจำพวกเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวหรือเส้นหมี่ต่างๆ การรับประทานอาหารเหล่านี้ก็มาจากประเทศจีนที่เป็นต้นกำเนิดของเมนูนั่นเอง หรือจะเป็นอาหารเช้าที่คนไทยมักนิยมทาน อย่าง ซาลาเปา ก็มีอิทธิพลกับคนไทยอย่างมาก เพราะเราจะเห็นได้ว่ามีการขายซาลาเปากันเกือบทุกแห่งทุกที่เลยก็ว่าได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วซาลาเปาจะมีการขายในช่วงเช้าๆกัน เป็นต้น จะเห็นได้ว่า อาหารจีนส่งผลเป็นอย่างมากสำหรับวัฒนธรรมการกินของคนไทยเรา แต่จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น เราจะมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
กระเพาะปลา เป็นอาหารจีนประเภทหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นอาหารของเหล่าชนชั้นสูงอย่างองค์จักรพรรดิของราชวงศ์จีน เป็นอาหารที่ใครๆต่างก็ต้องการ เพราะคนจีนเชื่อว่าเป็นอาหารของคนชั้นสูง ยิ่งกินก็ยิ่งมีความมงคลต่อชีวิต และเป็นอาหารสุดฮิตที่รับประทานกันในช่วงวันตรุษจีนอีกด้วย
ขนมจีบ เป็นเมนูอาหารว่างที่ใครๆต่างก็ชอบทาน ซึ่งเราจะเห็นได้จากช่วงเช้าๆในแต่ละวันของบ้านเราที่มักจะเห็นขนมจีบเป็นเมนูอาหารที่ใครๆต่างชอบลิ้มลอง เมนูอาหารนี้วิธีการทำคล้ายๆกับติ่มซำนั่นเอง ซึ่งติ่มซำก็เป็นอาหารจีนเช่นเดียวกันที่มักนิยมในการรับประทานในช่วงมื้อเช้าๆหรือจะรับประทานช่วงไหนๆก็ได้ กินได้ไม่มีเบื่อ
บ๊ะจ่าง เป็นเมนูหนึ่งที่คนไทยนำมาเป็นเมนูอาหารที่สามารถรับประทานพร้อมๆกับขนมต่างๆได้ ถือได้ว่าเป็นอาหารจีนแบบหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยทรงที่เป็นสามเหลี่ยมทรงแหลม มีไส้ต่างๆอยู่ในบ๊ะจ่าง เนื่องด้วยบ๊ะจ่างทำมาจากข้าวเหนียวแล้วใส่ไส้ห่อด้วยใบไผ่ จากนั้นพับให้เป็นทรงสามเหลี่ยมแล้วเอาไปนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ได้บ๊ะจ่างที่แสนอร่อยแล้ว
อาหารจีนที่กล่าวมาทั้ง 3 แบบ เป็นอาหารจีนที่ฮิตกันในหมู่ของชนชาวไทยเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งกินยิ่งฟิน ยิ่งกิน ก็ยิ่งหยุดไม่ได้ ดังนั้น คุณควรจะหาอาหารจีนเหล่านี้มารับประทานกันน่ะ
น้ำปลาหวานจิ้มกับมะม่วงทีไรฟินทุกที
หากจะกล่าวถึง น้ำปลาหวาน แล้วล่ะก็ ต้องนึกถึงความเปรี้ยวเข็ดฟันของมะม่วงขึ้นมาทันทีเป็นผลไม้ที่จะต้องทานคู่กับน้ำปลาหวาน ถ้าไม่ได้ทานเหมือนกับไม่ถึงรสชาติของมะม่วงเปรี้ยวอย่างแท้จริง ฉะนั้น ของมันต้องมี ก็คือ ต้องมีน้ำปลาหวานในการทานทุกๆครั้งนั่นเอง แต่คนที่ชอบทานน้ำปลาหวานรู้หรือไม่ว่าน้ำปลาหวานนั้นมีส่วนผสมหลักๆใดบ้างที่ทำให้เป็นน้ำปลาหวานที่มีรสชาติหวาน เค็ม และเผ็ด ฉะนั้น เราจะมารู้ไปพร้อมๆกัน ดังนี้
สิ่งที่ทำให้น้ำปลาหวานมีรสชาติที่หวานก่อนเลย บางคนอาจจะคิดว่าก็เติมน้ำตาลทรายลงไป แต่เคล็ดลับการทำน้ำปลาหวานให้มีความหวานนั้นมีความพิเศษไปมากกว่านั้น คือ การใช้น้ำตาลปี๊ปในการเป็นส่วนผสมหลักของน้ำปลาหวานที่ทำให้ชูรสได้อย่างหวานแบบกลมกล่อม เป็นน้ำตาลที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายทั่วๆไปอีกด้วย
ต่อมารสเค็ม บางคนก็บอกว่าน้ำปลาหวานก็ใส่เกลือไป น้ำปลาหวานก็เค็มแล้ว ผิดคาดค่ะ เพราะน้ำปลาหวานที่มีรสเค็มได้นั้นเราใส่กะปิลงไป ซึ่งกะปิที่ใส่ก็ต้องเป็นกะปิอย่างดี ฉะนั้น หากใส่เกลือไปน้ำปลาหวานก็ไม่มีความเค็มเทียบเท่ากับเกลือได้
สุดท้ายรสเผ็ด อันนี้ต้องยกให้กับพริกชี้ฟ้าสดๆที่มีการหั่น ยิ่งหั่นก็ยิ่งเพิ่มความเผ็ด เพราะด้วยเมล็ดของพริกที่อยู่ด้านในนั้นได้มีการกระจายไปทั่วน้ำปลาหวานนั่นเอง เพียงเท่านี้น้ำปลาหวานก็มีความเผ็ดแซ่บ จิ้มกับมะม่วงเปรี้ยวๆแล้วก็ยิ่งเผ็ดจี๊ดจ๊าดมากๆเลย
ไม่ว่าจะรสหวาน เค็ม หรือเผ็ดของน้ำปลาหวานก็ไม่ทำให้การกินมะม่วงเปรี้ยวๆนั้นลดน้อยลงได้เลย ยิ่งบางคนได้ทานน้ำปลาหวานกับมะม่วงแล้วก็ยิ่งชอบกินทุกๆวัน ยิ่งคนท้องไม่ต้องพูดถึงกินเยอะมากกว่าคนปกติเสียอีก