เคยไหมคะ เวลาที่มีงานเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ที่มีโต๊ะจีน ในเมนูแต่ละเมนูนั้นจะต้องมี เมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาว อยู่สม่ำเสมอหลายคนคงคิดว่าทางโต๊ะจีนนั้นทำอย่างไรถึงให้เมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาวนั้น ถึงอร่อยได้ขนาดนี้ วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำเมนูนี้มาฝากทุก ๆ คนกัน ตามรอยเมนูอาหารบนโต๊ะจีน กับ เมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาว ที่จะทำให้มื้ออาหารของคุณกลายเป็นเมนูสุดพิเศษบนโต๊ะจีน คุณเองก็ทำได้ โดยมีขั้นตอนวิธีการทำง่ายๆดังนี้

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาว

-ปลาทับทิมสดใหม่ คุณสามารถหาซื้อปลาทับทิมได้ที่ตลาดสด หรือ ห้างสรรพสินค้าควรเลือกปลาทับทิมที่มีดวงตาใสและเนื้อไม่ช้ำ เพราะจะเป็นปลาใหม่ค่ะ

-หาซื้อตะไคร้และกระเทียมพริกไทย เพื่อที่จะนำมายัดไส้ปลาทับทิมเพื่อดับความขาวค่ะ

-เครื่องปรุงในการหมักปลาทับทิม รสดี ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสภูเขาทอง

-ผักกาดหอมเพื่อนำมาตกแต่งจานให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

-เครื่องปรุงในการใช้ทำน้ำจิ้ม หรือ ใช้ทำน้ำราดเมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาวประกอบไปด้วย มะนาว พริกขี้หนู กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ หอมผักชี น้ำอุ่น

ขั้นตอนในการทำเมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาว

-ขอดเกล็ดปลาทับทิมให้สะอาด และ นำไส้ออกจากพุง พร้อมกับตัดคีบและหาทางออก คุณควรบั้งบริเวณตัวปลาทับทิม  2-3 บั้งต่อ 1 ข้าง

-ตำกระเทียมพริกไทย เพื่อที่จะนำมาหมักปลาทับทิมให้มีกลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม พร้อมนำตะไคร้มายัดไส้บริเวณท้องปลาทับทิม

-หลังจากนำกระเทียมพริกไทยที่ตำไว้ มาหมักและทาบริเวณให้ทั่วตัวกับปลาทับทิม โดยเครื่องปรุงที่ควรจะใส่เพิ่มเติมในการหมักก็ รสดี ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสภูเขาทอง

-หลังจากนั้นนำปลาทับทิมที่หมักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปนึ่งในซึ้งประมาณ 30 ถึง 40 นาทีเพื่อให้ปลาทับทิมสุกโดยปิดฝาให้สนิท

-ต่อมาจะเป็นขั้นตอนในการทำน้ำราดปลาทับทิมนึ่งมะนาวนะคะ ตำกระเทียมและพริกขี้หนูให้ละเอียดแล้วใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเล็กน้อย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับน้ำอุ่นเพื่อละลายส่วนผสมให้เข้ากัน 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นซอยหอมผักชีเพื่อใส่ในน้ำจิ้มที่จะโรยให้มีกลิ่นหอม

-หลังจากปลาทับทิมนึ่งสุกแล้ว ให้คุณน้ำปลาทับทิมออกจากซึ้งเพื่อเตรียมใส่จาน โดยการนำผักกาดหอมที่เตรียมไว้มาลองเพื่อความสวยงาม และ ตักปลาทับทิมใส่จานพร้อมกับราดน้ำจิ้มที่เตรียม

เพียง 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ก็จะทำให้คุณสามารถตามรอยเมนูอาหารบนโต๊ะจีน กับเมนูปลาทับทิมนึ่งมะนาว ที่จะเปลี่ยนเมนูธรรมดาของคุณ ให้กลายเป็นเมนูเลิศรสบนโต๊ะจีนง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง นอกจากจะมีหน้าตาและสีสันที่สวยงาม แล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมอีกด้วยค่ะ

ติดตามเมนูอาหารมาใหม่ทุกวันได้ที่นี่

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเงาะลอยแก้ว และ แน่นอนว่าวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำเมนูดับกระหายแก้หน้าร้อนแบบนี้ ด้วยเจ้า เมนูเงาะลอยแก้ว นะคะ แต่เงาะลอยแก้วที่พูดถึงนี้ก็คือเงาะเชื่อมธรรมดานี่แหละค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นเมนูที่แสนจะง่ายมาก ๆ เพราะเพียงแค่คุณซื้อเงาะมา 1 กิโลกรัมคุณก็จะได้เงาะลอยแก้วถึง 2-3 ถ้วยเลยนะคะ แล้วก็สามารถเก็บไว้ทานได้นานด้วยค่ะยิ่งแช่เย็นไว้ ยิ่งทำให้เราชื่นใจมากเลยค่ะเวลาที่ได้ทาน เดี๋ยวเรามาลองทำกันดูเลยนะคะ

วัตถุดิบในการทำเงาะลอยแก้ว

-เงาะโรงเรียน หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปโดยใช้ประมาณ 1 กิโลกรัม

-น้ำตาลทรายเพื่อที่จะมาเคี่ยวให้เป็นน้ำเชื่อมและใบเตยค่ะ

-น้ำเชื่อม ในกรณีที่คุณไม่สะดวกใช้น้ำตาลทรายมาเคี่ยวเป็นน้ำเชื่อม คุณก็จะสามารถใช้น้ำเชื่อมแบบสำเร็จรูปได้เลยนะคะ ซึ่งจะหาซื้อได้ที่ตามตลาดทั่วไปแล้วก็ร้านทำขนมค่ะ

-มีดแกะสลักเพื่อที่จะคว้านเอาเม็ดของเงาะออกมาค่ะ

-เตรียมภาชนะที่มีฝาปิดเพื่อที่จะใส่เงาะลอยแก้วในการแช่ตู้เย็น

วิธีการทําเงาะลอยแก้วแบบง่าย ๆ

ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า วิธีการทําเงาะลอยแก้วนั้นเป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ เลยนะคะแล้วหลายครัวเรือนก็นิยมใช้วิธีแบบนี้ในการทำ เพราะนอกจากจะสะดวกแล้ว ยังสามารถประหยัดเวลาได้อีกด้วยค่ะ

-ขั้นตอนการทำน้ำเชื่อมนะคะ นำน้ำตาลทรายประมาณครึ่งกิโลกรัมมาใส่กับน้ำสะอาด แล้วนำใบเตยมาใส่ด้วยเพื่อที่จะเคี่ยวไปพร้อมกับน้ำเชื่อมนะคะ แล้วน้ำเชื่อมของคุณก็จะมีกลิ่นหอมของใบเตยค่ะ โดยการเคี่ยวน้ำเชื่อมนั้นควรใช้ไฟอ่อนนะคะ

-นำเงาะที่เตรียมไว้มาปอกเปลือกแล้ว แล้วนำไปล้างให้สะอาดค่ะ

-หลังจากที่ปอกเปลือกของเงาะเสร็จแล้ว ให้คุณนำมีดแกะสลักมาคว้านบริเวณส่วนหัวและส่วนท้ายของลูกเงาะนะคะโดยค่อยๆคว้านให้ติดเมล็ดมากที่สุด เพื่อที่จะให้เราได้มีเนื้อเงาะเหลือไว้มากยิ่งขึ้น

-หลังจากนั้นนำเงาะที่ได้จากการคว้านแล้ว นำไปเคี่ยวในน้ำเชื่อมค่ะโดยตั้งไฟอ่อนนะคะเที่ยวซัก 3 นาทีก็เพียงพอค่ะ

หลังจากที่เราทำจนเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว เพียงเท่านี้เราก็จะได้ เมนูเงาะลอยแก้ว มาทานกับครอบครัวในหน้าร้อนแบบนี้แล้วนะคะ ซึ่งบอกได้เลยว่า ร้อน ๆ แบบนี้ต้องดับกระหายด้วยเงาะลอยแก้ว เท่านั้นเลยนะคะ อร่อยหอมหวานทานง่าย ลองไปทำกันดูนะคะ

ติดตามการแนะนำเมนูอาหารมาใหม่ทุกวันและ3 เมนูอาหารจากมะเขือเทศอร่อยแถมยังเสริมในเรื่องของผิวพรรณให้สดใสเปร่งปรั่งอีกด้วย

มะเขือเทศ เป็นอาหารที่สามารถทานเพื่อที่จะเสริมในเรื่องของสุขภาพผิวให้มีความแข็งแรงสดใส ซึ่งมะเขือเทศมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์คนที่ไม่ชอบทานก็อาจจะเป็นในส่วนของกลิ่นที่ค่อนข้างแรงเป็นเอกลักษณ์ ส่วนคนที่สามารถทานมะเขือเทศได้ไม่ว่าจะทานสด ๆ หรือทานแบบน้ำมาทำอาหารไม่ว่าจะเป็น น้ำมะเขือเทศ ส้มตำที่ใส่มะเขือเทศ วันนี้แอดอยากที่จะมาแนะนำ 3 เมนูอาหารจากมะเขือเทศ อร่อยแถมยังเสริมในเรื่องของผิวพรรณให้สดใสเปร่งปรั่งอีกด้วย

เมนูอาหารจากมะเขือเทศ ที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เมนูแรกที่แอดอยากจะแนะนำ คือ มะเขือเทศอบชีส เอาใจคนที่ชอบทานทั้งมะเขือเทศและชีส วัตถุดิบก็มีไม่มาก คือ มะเขือเทศ ชีส และใส่ส่วนของการปรุงรสให้มีรสชาตินิดหน่อย คือ เกลือและพริกไทยดำ วิธีทำก็แสนง่ายนำวัตถุดิบทั้งหมดใส่ภาชนะและอบด้วยอุณภูมิ ประมาณ 740 วัตต์ 5 นาที ก็จะได้เมนูอาหารแสนอร่อยมาทานแบบฟิน ๆ แล้ว

เมนูอาหารจากมะเขือเทศ ที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เมนูที่สองที่แอดอยากจะแนะนำ คือ ซุปมะเขือเทศย่าง สามารถทำทานเป็นอาหารเช้าแสนอร่อยใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักบอกเลยว่าต้องชอบเมนูนี้ วัตถุดิบก็ไม่มาก มีมะเขือเทศ ซุป พาเมซานซีน เกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก วิธีทำก็น้ำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อและต้มไว้ อย่าลืมบี้มะเขือเทศคนให้กลายเป็นซุป

เมนูอาหารจากมะเขือเทศ ที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เมนูที่สามที่แอดอยากจะแนะนำ คือ สเต็กทานคู่กับมะเขือเทศย่าง เป็นเมนูอาหารสุดง่ายที่เราอาจจะเลือกเนื้อสัตว์ประเภทที่เราอยากทาน และนำมะเขือเทศมาย่างทานคู่เป็นอาหารสุดอร่อย อาจจะมีในส่วนของผักสลัดทานคู่ด้วย

ทั้งหมดก็เป็นเมนูอาหารที่มีส่วนผสมจากมะเขือเทศให้ที่ควบคุมน้ำหนักและอยากให้ผิวพรรณมีความสดใสเปร่งปรั่ง การทานมะเขือเทศก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ อีกทางเลือกหนึ่ง

ติดตามเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและเราขอแนะนำเมนูวุ้นแตงโมอร่อยหอมหวานสดชื่น ง่ายนิดเดียว

มาถึงคิวของขนมหวานทางด้านประเภทวุ้นกันแล้วนะคะ หลายคนอาจสงสัยว่าวุ้นแต่ละชนิดสามารถทำได้เหมือนกันไหม และ มีวิธีการทำที่เหมือนกันหรือเปล่า แล้วเราจะใส่สีสันให้กับผู้อื่นได้อย่างไร ซึ่งแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไปที่สีของธรรมชาติหรือต้องการที่จะใช้สีผสมอาหารในการตกแต่งให้วุ้นมีสีสันที่สวยงาม แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับ เมนูวุ้นแตงโม อร่อยหอมหวานสดชื่นง่ายนิดเดียว ติดตามชมไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำวุ้นแตงโม

-แตงโม 1 ผล  ผลจะลูกเล็ก หรือ ลูกใหญ่ก็ได้นะคะ

-วุ้นตรานางเงือกใช้สำหรับทำขนม

-น้ำตาลทราย  1 ช้อนโต๊ะ  อันนี้สำหรับคนที่ชอบทานหวานนะคะ

-เตรียมผ้าขาวบางและภาชนะไว้สำหรับในการทำด้วยนะคะ

วิธีทำเมนูวุ้นแตงโม

-นำแตงโมที่เตรียมไว้นะคะมาผ่ากลางลูกค่ะ แล้วใช้ช้อนโต๊ะหรือว่าช้อนทานข้าวก็ได้ขูดเอาเนื้อแตงโมหรือตักเนื้อแตงโมนะคะออกไปไว้อีกภาชนะหนึ่งให้หมดทั้งลูกเลยนะคะ

-นำเนื้อแตงโมที่ได้ไปกรองในผ้าขาวบางค่ะ เพื่อที่จะเอาเม็ดและกากของเนื้อแตงโมออกเพราะเราต้องการเพียงแค่น้ำเพื่อที่จะนำมาทำวุ้นค่ะ โดยกองประมาณ 2-3 รอบนะคะคันเอาน้ำให้ได้มากที่สุด

-หลังจากคั้นน้ำแตงโมได้แล้ว ให้นำน้ำแตงโมไปเคี่ยวในหม้อด้วยไฟอ่อน ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบความหวานมาก ๆ อยากจะเติมความหวานก็สามารถใส่น้ำตาลทรายไปได้ 1 ช้อนถึง 2 ช้อนโต๊ะนะคะ 

-ใส่ผงวุ้นลงไป แล้วเคี่ยวให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาทีแล้วปิดไฟพักไว้บนเตา

-หลังจากนั้นนะคะเราก็จะนำวุ้นที่ได้จากการเคี่ยว ไปใส่ในแม่พิมพ์ของเราก็คือเปลือกแตงโมที่เราขุดไว้เมื่อตอนแรกนะคะ แล้วก็ปล่อยให้เขาเซ็ตตัวแล้วนำไปแช่เย็นค่ะ

หลังจากที่แช่เย็นเสร็จแล้ว วุ้นแตงโมก็จะออกมาและมีหน้าตาที่น่ารับประทานมากเลยนะคะ สำหรับ เมนูวุ้นแตงโม อร่อยหอมหวานสดชื่นง่ายนิดเดียว มีขั้นตอนในการทำที่ง่ายมากเลยนะ อีกทั้งยังช่วยแปลรูปเมนูแตงโมให้ชวนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นค่ะ

ติดตามเมนูอาหารมาใหม่ได้ที่นี่ทุกวัน

หากอยากรับประทานอาหารจีนที่มีรสชาติแบบดั้งเดิมก็ไม่ควรที่จะพลาดบทความเกี่ยวกับอาหารนี้ เพราะบทความนี้จะมาแนะนำ ร้านอาหารจีนดั้งเดิมที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะมีรสชาติแบบต้นตำหรับแล้วยังใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบที่สดใหม่อีกด้วย จะเป็นร้านอาหารไหนบ้างตามบทความนี้ไปดูกันเลย

มาที่ร้านแรกตั้งอยู่แถวพระราม 3 เป็นร้านอาหารจีนดั้งเดิมที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน หากอยากลิ้มลองรสชาติอาหารจีนแบบต้นตำหรับต้องมาที่ร้าน “รื่นรสภัตตาคาร” แห่งนี้ โดยเชฟที่ทำอาหารที่ร้านอาหารแห่งนี้นั้นเป็นเชฟที่มีฝีมือในด้านของอาหารจีนโดยเฉพาะ และด้วยสูตรอาหารดั้งเดิมที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นจึงทำให้ที่ร้านอาหารแห่งนี้ได้รับความนิยมในเรื่องของอาหารจีนเป็นอย่างมาก

“ภัตตาคาร เล่งหงส์” ร้านอาหารจีนดั้งเดิมในย่านพระราม 2 ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 55 ปี ด้วยรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากจึงทำให้ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งนี้จะต้องจองโต๊ะไว้ล่วงหน้าก่อน และยังเป็นร้านอาหารจีนที่มีราคาไม่สูงมากนักอีกด้วย โดยเมนูอาหารแนะนำของร้านอาหารแห่งนี้ก็คือ ไก่แช่เหล้า ขาห่านอบหม้อดิน ฯลฯ เป็นต้น

“ภัตตาคารตั้งใจอยู่” ร้านอาหารจีนดั้งเดิมที่ไม่ควรพลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ถนนสุรวงศ์ เป็นร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงในย่านนั้นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นร้านเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี โดยมีเมนูอาหารจีนให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะสั่งแบบเดี่ยวหรือแบบชุดก็มีให้เลือกรับประทานอย่างมากมายเลยทีเดียว เมนูยอดนิยมของภัตตาคารตั้งใจอยู่แห่งนี้ คือ เมนูพระกระโดดกำแพง สลัดแพะเย็น ฯลฯ เป็นต้น

“ส.บ.ล. ภัตตาคารสมบูรณ์ลาภ” ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ในย่านวังบูรพา ที่ร้านอาหารแห่งนี้นอกจากจะเป็นร้านอาหารจีนที่มีรสชาติ และหน้าตาของอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนแล้ว ยังการันตีในเรื่องของความสดใหม่ของอาหารอีกด้วย เพราะทุกเมนูอาหารนั้นทำสดใหม่ทุกวัน จึงทำให้ร้านอาหารจีนแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในย่านวังบูรพา

“สีลม ภัตตาคาร” ชื่ออยู่สีลม แต่ร้านอาหารแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ที่ถนนบรมราชชนนี ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงในปัจจุบัน นอกจากจะมีรสชาติที่ดั้งเดิมแล้วนั้น ยังมีบรรยากาศภายในร้านที่ทำให้รู้สึกย้อนยุคอีกด้วย

ติดตามการแนะนำเมนูอาหารและติดตามอาหารจีน 3 อย่างที่มีอิทธิพลต่อการรับประทานอาหารของคนไทย ที่ไม่ควรพลาด

ในการที่เราจะหาอาหารทานสักเมนูหนึ่งนั้นบางครั้งเราไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย ขอบอกเลยว่าหาเอาแถวๆบ้านนั่นแหละ อย่าง ดอกโสน เอง ก็เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เติบโตแถวๆรั้วบ้านของคน เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีเหลืองสวยงามถ้าหากใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงต้นกระถินริมรั้วจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้นที่นิยมนำมาทำจำพวกอาหารน้ำพริก แกง หรือจำพวกผัดต่างๆก็สามารถที่จะทำได้ แต่ที่จะกล่าวในที่นี้จะกล่าวถึงในส่วนของดอกโสนเท่านั้นที่นำมาทำเป็นอาหาร ซึ่งดอกโสนก็สามารถนำมาทำเป็น เมนูไข่เจียวดอกโสน ได้ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมนูที่ง่ายๆที่ทำง่ายแถมยังเป็นผักริมรั้วที่หาได้ง่ายไม่ต้องเสียเงินในการซื้อผักเลย

เมนูไข่เจียวดอกโสน เป็นเมนูหนึ่งที่คนไทยเรานิยมทำด้วยดอกโสนเป็นดอกของต้นไม้ที่ขึ้นริมรั้ว ฉะนั้น หากหาเมนูอาหารสักอย่างหนึ่งมาทำเป็นอาหารสิ่งที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดที่หามาทำกับข้าวได้ก็ดอกโสนนี่แหละ เป็นเมนูที่ง่ายและประหยัดเงินอีกด้วย ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมากๆเพียงแค่คุณเตรียมไข่ไก่ที่ต้องการตีจำนวนไข่ก็แล้วแต่ปริมาณที่ต้องการ เมื่อเตรียมไข่ไก่เรียบร้อยแล้วจากนั้นคุณก็ทำการตีไข่ให้เข้ากันแล้วปรุงด้วยซีอิ๊วขาว จากนั้นก็นำดอกโสนที่เก็บมาได้จากริมรั้วมาทำความสะอาดแล้วใส่ลงในชามไข่ไก่ที่มีการตีไว้เรียบร้อยแล้ว และก็นำไข่ที่ตีพร้อมกับดอกโสนที่ใส่ลงไปไปทอดให้ไข่มีความฟูฟ่อง พอร้อนได้ที่มีกลิ่นที่หอมก็ยกขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นคุณก็ทำการเตรียมตักข้าวสวยๆร้อนๆใส่ในจานแล้วนำไข่เจียวดอกโสนมาวางไว้ด้านบนเพียงเท่านี้เมนูอาหารผักริมรั้วก็มาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว

จะเห็นได้ว่า เมนูไข่เจียวดอกโสนที่กล่าวถึงนั้นเป็นเมนูที่ทำง่ายประหยัดงบรายจ่ายในบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้การรับประทานอาหารในมื้อนั้นๆมีความอร่อยอีกด้วย

ติดตามการแนะนำเมนูอาหาร และ ติดตามเมนูไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวันได้ที่นี่

คุณแม่บางคนมีความกังวลใจหากลูกๆทานจำพวกผักได้ยากมาก แต่คุณแม่ยุคใหม่หมดความกังวลนี้ไปได้เลย เพราะว่าในปัจจุบันมีการสอนทำอาหารหลากหลายในสื่อของโลกออนไลน์ ฉะนั้น หากลูกๆของคุณแม่ไม่ชอบทานผักหรือเป็นเด็กที่ค่อนข้างทานผักได้ยาก เราขอแนะนำ เมนูคัพเค้กไข่และผัก ซึ่งเป็นเมนูที่จะทำให้เด็กๆหันกลับมามองผักและทานมันได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยการดัดแปลงการทานผักที่แปลกใหม่จึงทำให้เด็กๆหลายคนหันมาสนใจที่จะทานผักมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีอย่างมากสำหรับคุณแม่มือใหม่

เมนูคัพเค้กไข่และผักเป็นเมนูที่คุณแม่มองว่าเป็นทางเลือกที่จะทำให้เด็กๆที่ไม่ค่อยชอบทานผักได้หันมาสนใจทาน เพราะถ้าหากเด็กๆขาดสารอาหารจำพวกผักแล้วก็จะมีผลต่อสุขภาพของเด็ก อย่างเช่น ท้องผูก เนื่องด้วยคนเรานั้นจะต้องมีกากใยอาหารในร่างกาย ทั้งนี้ ก็เพื่อให้กากใยเหล่านั้นได้ช่วยย่อยในเรื่องของกระบวนการขับถ่ายนั่นเอง ฉะนั้น หากร่างกายขาดอาหารจำพวกกากใยแล้วก็อาจจะทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหาได้

เมนูคัพเค้กไข่และผักจึงเป็นเมนูหนึ่งที่ช่วยลูกๆของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นเมนูที่ช่วยให้เด็กๆชอบทานผักไปโดยปริยายโดยที่ไม่ต้องบังคับเด็กๆให้ทานผักเลยเป็นวิธีในการสอนให้เด็กทานผักโดยที่ไม่ต้องบังคับจิตใจเด็กๆเลย เป็นวิธีที่ง่ายมากๆ

ฉะนั้น หากคุณแม่เห็นว่าลูกๆดื้อไม่ยอมทานผัก คุณแม่ก็อาจจะใช้วิธีการดัดแปลงอาหารให้เมนูผักมีหน้าตาที่น่าทานและมีความอร่อย อย่าง เมนูคัพเค้กไข่และผักได้น่ะค่ะ

ติดตามการแนะนำเมนูอาหาร และ เราขอนำเสนอเมนูข้าวน้ำพริกกะปิรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

อาหารในแต่ละมื้อนั้นคุณจะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายรสชาติ มีทั้ง เค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด ปะปนกันไป ซึ่งรสชาติที่กล่าวมานั้นก็เป็นรสชาติของจำพวกเมนูอาหารที่เป็นแกง ผัด ต้ม ทอด หรือยำเสียมากกว่า แต่ถ้าหากรสชาติของเมนูอาหารนั้นๆได้มีการปรากฏเข้ามาในข้าวที่เราทานแล้วล่ะก็คงนึกภาพไม่ออกใช่ไหม ฉะนั้น ในที่นี้เราจะขอแนะนำอีกเมนูที่คุณจะพบว่าข้าวมีรสชาติที่แตกต่างไม่เหมือนใครเลย เมนูนั้นก็คือ ข้าวน้ำพริกกะปิ

เมนูข้าวน้ำพริกกะปิเป็นเมนูที่ข้าวที่คุณทานจะมีความแตกต่างด้วยการนำข้าวนั้นไปคลุกกับกะปิให้มีความหอมรัญจวน และยิ่งผัดนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ข้าวนั้นมีความหอมมากยิ่งขึ้น เมนูนี้ถือได้ว่าเป็นการรังสรรค์ด้วยการนำในส่วนของวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมาผสมผสานกับข้าวที่ทานได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ข้าวที่เราทานนั้นมีรสชาติเค็มๆของกะปิที่นำลงไปผัดและมิใช่เมนูนี้จะมีแต่ข้าวเท่านั้น แต่ข้าวในเมนูนี้ยังจะทานควบคู่ไปกับ ไข่เจียว กุ้งหวาน หมูหวาน หอมแดง พริก มะม่วงเบาซอย มะนาว รวมถึงกุนเชียงอีกด้วย โดยจะทานแบบคลุกเคล้าให้เข้ากันกับข้าวกะปิเสียก่อนก็ยิ่งที่จะเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีก

ฉะนั้น หากคุณมองหาเมนูอาหารที่มีข้าวมีรสชาติเค็มๆก็คงต้องเลือกทานเมนูข้าวน้ำพริกกะปิแล้ว เพราะข้าวในเมนูนี้จะทำให้คุณนั้นฟินไปกับกะปิหอมๆที่ผัดลงไปในข้าวได้เป็นอย่างดี

ติดตามการแนะนำเมนูอาหารมาใหม่ทุกวัน

ในการทานข้าวเช้านั้นเป็นการทานที่บำรุงสมองได้อย่างดีเยี่ยม เพราะนอกจากจะเป็นการเติมอาหารเสริมให้แก่สมองแล้วยังช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงในทุกๆเช้าอีกด้วย เนื่องจากอาหารที่กินเข้าไปนั้นล้วนจะเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อแต่ละวันยังคงให้ได้มีความแข็งแรง ยิ่งเติมในทุกๆเช้าก็ยิ่งทำให้สุขภาพแข็งแรงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งเมนูอาหารเช้าที่จะขอแนะนำในที่นี้ คือ เมนูไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน เป็นเมนูที่ทำง่ายและเป็นมื้อที่พิเศษที่มีผักเข้ามาเป็นส่วนผสมในไข่เจียวอีกด้วย

เมนูไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน ไม่ใช่เมนูที่จะทานเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น แต่ถือได้ว่าเป็นเมนูที่ทำง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องเร่งรีบในช่วงเช้าที่จะออกไปทำงานหรือออกไปเรียนหนังสือ แต่ความพิเศษนั้นอย่างที่กล่าวแล้วว่าเป็นเมนูที่มีการเติมผักที่มีประโยชน์อย่างต้นอ่อนตะวันเข้าไปด้วยก็ยิ่งทำให้ไข่เจียวเมนูนี้มีแต่วิตามินและสารอาหารที่ร่างกายต้องการเป็นอย่างดี และไม่เพียงเฉพาะต้นอ่อนทานตะวันที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ว่าไข่เจียวเป็นอาหารที่มีความพิเศษ แต่ไข่เจียวเมนูนี้คุณสามารถที่จะใส่จำพวกผักสีอื่นได้อีกด้วย อย่างเช่น แครอทที่มีสีส้ม หรือจะเป็นข้าวโพดอ่อนที่มีสีเหลืองอ่อนๆก็ใส่ได้เช่นเดียวกัน

และการทำเมนูไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน ก็ไม่ยากเลยเพียงแค่คุณตีไข่เจียวแล้วก็ผสมผักสีต่างๆเข้าไปในไข่พร้อมทั้งต้นอ่อนทานตะวัน จากนั้นก็ทำการปรุงด้วยซีอิ๊วขาวหรือซอสปรุงรส เพียงเท่านี้คุณก็ได้ไข่เจียวมื้อพิเศษที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนแล้ว

ติดตามการรีวิวอาหาร และ เรามีเมนูที่ทำจากไข่เจียวมาแนะนำอีก

สำหรับคนที่ชอบทานแตงกวาก็จะรู้เลยว่าแตงกวานั้นสามารถที่จะทำได้หลากหลายเมนูไม่ว่าจะต้มจืดแตงกวาที่ใส่ไข่ไปในเมนูหรือจะเป็นยำแตงกวาก็มีน่ะ หรือจะเป็นตำแตงกวาก็มีอีก แต่ที่จะพูดถึงในที่นี้ คือ เมนูแตงกวาผัดไข่ ที่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีความอร่อยอย่างไม่รู้ลืมเลยเป็นเมนูที่จะได้รับทั้งโปรตีนที่มาจากเนื้อกุ้งพร้อมทั้งวิตามินที่มาจากแตงกวา และโซเดียมที่มาจากเครื่อง อย่าง ซอสปรุงรสอีก นี่ไม่ต้องนึกเลยน่ะว่ารสชาติจะอร่อยแค่ไหน

เมนูแตงกวาผัดไข่ เป็นเมนูที่มีความหอมด้วยกลิ่นของไข่ที่มีการผัดลงไป แต่เมนูนี้ก็ยังมีเนื้อปลาอินทรีที่มีความเค็มกรุบๆใส่เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอมมันมากยิ่งขึ้น และยิ่งใส่แตงกวาลงไปก็ยิ่งทำให้ความหอมมันๆเค็มๆของเนื้อปลานั้นเข้ากันได้ดีกับแตงกวา แตงกวาจึงออกรสชาติที่แปลกและไม่เหมือนการนำแตงกวาไปทำเมนูอื่นๆเลย ฉะนั้น หากคุณอยากทานแตงกวาที่มีรสชาติอร่อยหอมมันๆต้องเมนูแตงกวาผัดไข่นี่เลย

นอกจากเนื้อปลาแล้วยังมีการใส่กุ้งเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเมนู ขอบอกเลยว่ากุ้งนั้นคุณต้องทำให้ดีน่ะ เพราะตัวกุ้งจะมีเส้นดำๆอยู่ ซึ่งในการทำอาหารเราจะต้องดึงออกอยู่แล้ว และจะต้องมีการปอกเปลือกกุ้งอีกด้วย และในการทำกุ้งนั้นก็ต้องทำการผ่าหลังของกุ้งเพื่อให้ตัวกุ้งเมื่อนำมาทอดแล้วจะมีลักษณะที่ม้วนอย่างสวยงาม

ฉะนั้น หากคุณอยากจะมีรสชาติของเมนูอาหารที่เกี่ยวกับแตงกวาแบบไม่เหมือนใคร เป็นรสชาติที่ทานไปแล้วคุณจะจำอย่างไม่รู้ลืมเลย คุณต้องเลือกทานเมนูอาหารแตงกวาผัดไข่เท่านั้น

ติดตามการแนะนำเมนูอาหารใหม่ๆทุกวัน และ เราขอนำเสนอเมนูอาหารยอดฮิตรับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน