น้ำยำสูตรปลาร้า
อาหารรสเด็ด เคล็ดลับการทำอาหาร

น้ำยำสูตรปลาร้า ทำอย่างไรให้อร่อยจัดจ้านเหมือนร้านต้องทำอย่างไร

เคยสงสัยบ้างไหมว่าเมนูยำที่ดูทำไม่ยาก ทำไมทำเองที่บ้านถึงรสชาติต่างจากร้านลิบลับ ทั้งที่ใส่เครื่องเหมือนกันหมด เคล็ดลับมันอยู่ที่ น้ำยำสูตรปลาร้า ซึ่งไม่ใช่แค่การเอาส่วนผสมหลายๆ อย่างมารวมกัน หากต้องการความกลมกล่อม ความหอม และความเข้มข้นที่ซึมเข้าเนื้อได้ง่าย จำเป็นจะต้องใช้สูตรยอดนิยมที่หลายร้านดังใช้กัน ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำวิธีการทำอย่างละเอียดมาฝากกันแล้ว

น้ำยำสูตรปลาร้า

น้ำยำสูตรปลาร้า ต้องเริ่มจากการเคี่ยวน้ำตาล

          ถ้าคุณคิดจะใช้น้ำตาลทรายเพื่อทำ น้ำยำสูตรปลาร้า ก็นับว่าผิดตั้งแต่ติดกระดุมเม็ดแรก เราต้องใช้เป็น น้ำตาลมะพร้าว อย่างดี ต้องเลือกแบบที่สดใหม่และไม่มีกลิ่นเก่า นำมาผสมกับน้ำพอประมาณเพื่อป้องกันการไหม้ติดหม้อระหว่างเคี่ยว และเติมน้ำมะขามเปียกลงไปด้วย 1 ถ้วยเล็ก จะช่วยตัดไม่ให้น้ำตาลเคี่ยวหวานเลี่ยนจนเกินไป แน่นอนว่าก่อนเอาไปตั้งไฟต้องโรยเกลือป่นลงไปอีกนิดหน่อยด้วย แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ

น้ำตาลเคี่ยว น้ำยำสูตรปลาร้า

แปลงสภาพน้ำตาลเคี่ยวในน้ำยาสูตรปลาร้า

          หลังจากที่เราเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวจนละลายหมดแล้ว พอทิ้งไว้จนเย็นมันจะเหนียวข้นเป็นคาราเมล ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาทำน้ำยำสูตรปลาร้าต้องนำไปเทใส่เครื่องปั่นก่อน และจังหวะนี้อาจเติมน้ำมะขามเปียกที่ไม่ข้นมากลงไปอีกเล็กน้อย น้ำมะขามนี้ไม่ได้เน้นช่วยเรื่องรสชาติ แต่ทำให้การปั่นนั้นง่ายขึ้น จัดการกดปั่นน้ำตาลเคี่ยวต่อเนื่องจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่น และเนื้อสัมผัสเหลวเหมือนน้ำยาทั่วไป

น้ำยำสูตรปลาร้า สูตรน้ำยำ

ปรุงรสน้ำยำสูตรปลาร้าให้จัดจ้านถึงใจ

          พอเราได้น้ำตาลเคี่ยวที่เป็นพระเอกของน้ำยำสูตรปลาร้าแล้ว ที่เหลือก็เป็นการปรุงรสตามใจชอบ แนะนำให้ใช้พริกแห้งคั่วเป็นส่วนผสมเพื่อความหอมด้วย จะใส่เป็นพริกแห้งอย่างเดียวหรือผสมกับพริกสดก็ได้ แล้วเติมน้ำปลาแท้ลงไป บีบมะนาวสดพร้อมใส่เปลือกลงไปด้วย จะได้น้ำมันหอมระเหยจากมะนาวที่ทำให้รู้สึกอร่อยยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยการใส่ผักกลิ่นฉุน เช่น ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย เป็นต้น

Latest Posts

น้ำตาลจากผลไม้
อาหารทั่วไป อาหารไทย

หมดข้อสงสัย น้ำตาลจากผลไม้ กินแล้วดีต่อสุขภาพ หรือทำร้ายกันแน่

น้ำตาลจากผลไม้ เป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆคน เข้าใจแตกต่างกันไป ว่ามันดีต่อสุขภาพ หรือมันทำร้ายสุขภาพกันแน่ เนื่องจากในทุกวันนี้ หลายคนก็อยากจะผอม อยากจะลดน้ำหนัก หรืออยากจะมีรูปร่าง ดูแล้ว สมส่วน ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ที่หันมาสนใจในเรื่องนี้ กระแสการบริโภคอาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างได้ลุกลามมาถึงผู้ชายอีกด้วย บางคนก็หันมาบริโภคผลไม้เพียงอย่างเดียว แต่ หารู้ไม่ว่าผลไม้บางชนิด มีน้ำตาลมากกว่าอาหารบางอย่างที่กินไป และสิ่งที่ดีที่สุดนั่นก็คือ อาหารเด็ด เราต้องควรเลือก ผลไม้ ที่สด ไม่ควรเลือกผลไม้แปรรูป ผลไม้อบแห้ง เพราะในกระบวนการผลิต ส่วนใหญ่แล้วโรงงานจะใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมากเลยทีเดียว

น้ำตาลจากผลไม้

สำหรับ ความรู้ที่จะได้รับในวัน เกี่ยวกับ น้ำตาลจากผลไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่พบ และแตกต่างกันออกไป ร่างกายของเราจะถูกออกแบบมา เพื่อเผาผลาญน้ำตาลเหล่านี้ ให้นำไปใช้ ในปริมาณที่เหมาะสมกับฟังก์ชันต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป เพราะร่างกายของเรา ต้องปรับให้น้ำตาลเหล่านี้เป็นพลังงาน โดยแยกเป็นประเภท ดังนี้ อันดับแรกน้ำตาลกลูโคส ส่วนใหญ่แล้วพบในอาหารประเภทแป้ง และผลไม้ทั่วๆไป ซึ่งหลายๆคนรู้ดีอยู่แล้วว่าน้ำตาลกลูโคสนี้ จะอยู่ในกระแสเลือด สามารถดูดซึมได้เร็ว และเป็นแหล่งพลังงานในชีวิตประจำวัน น้ำตาลประเภทนี้ สามารถทำให้เรามีภูมิต้านทานต่อโรคติดต่อได้ แต่ข้อเสียก็คือ ถ้าหากบริโภคมากไป ก็จะเกิดโรคเบาหวานตามมาทีหลัง ร้าน Jus De Fruits ที่มีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพมาให้เลือกทาน

หมดข้อสงสัย น้ำตาลจากผลไม้

คนที่มีโรคประจำตัวควรบริโภค น้ำตาลจากผลไม้  ให้เหมาะสม และต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

ส่วนน้ำตาลฟรุกโตส จะพบมากในน้ำผึ้ง และผลไม้รสหวาน มีหน้าที่กระตุ้นการสร้างไขมัน ทั้งที่ตับรวมทั้งเส้นเลือดด้วย  สามารถเข้าสู่ เซลล์โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งอินซูลิน น้ำตาลประเภทนี้ มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน สำหรับน้ำตาลซูโครส พบได้ในผลไม้ ที่สุกกแล้วแทบจะทุกอย่าง รวมทั้งน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลอ้อย และน้ำตาลทราย ที่เรารู้จักกันดี ประโยชน์ก็คือแก้การอักเสบ ทำให้เราดับความกระหายได้

นที่มีโรคประจำตัวควรบริโภค น้ำตาลจากผลไม้

การบริโภค น้ำตาลจากผลไม้จึงเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว แยกประเภทต่างๆ กลุ่มผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก เช่น มะม่วง องุ่น อินทผาลัม หรือกล้วยสุก ส่วนที่มีน้ำตาลน้อย อย่างเช่น สตอเบอรี่ ชมพู่ ฝรั่ง หรือจะเป็นมะนาว และอีกหลากหลายประเภท ดังนั้น การบริโภคผลไม้ ที่มีน้ำตาลเพียงพอเหมาะสำหรับการ ดำรงชีวิตของเรา ก็ควรจะเลือก ให้เข้ากับกิจกรรมทางกาย แต่ทางที่ดี ควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่จะดีที่สุด

ตำข้าวโพด
อาหารไทย เคล็ดลับการทำอาหาร

ตำข้าวโพด รสชาติจัดจ้าน ดีต่อสุขภาพสำหรับคนที่กำลังจะลดน้ำหนัก

ตำข้าวโพด ในกลุ่มอาหารรสชาติจัดจ้าน ในประเภทตำเราคงนึกถึงส้มตำ ที่มีการแตกแขนงออกมาเป็นไปในหลาย ๆ เมนูด้วยวัตถุดิบหลักแล้ว อาจจะจินตนาการนึกถึงได้กับมะละกอ และน้ำปลาร้า ที่เป็นตัวชูโรงในขณะเดียวกัน เราจะพบด้วยถึงการประยุกต์ความหลากหลายของเมนูในประเภทตำในส่วนนี้ ซึ่งเราจะพบได้ถึงการแปรเปลี่ยนวัตถุดิบอื่น ๆ เข้ามาทดแทนเส้นมะละกอ ทั้งจากการใช้ถั่ว ผัก มะเขือเทศ ผลไม้ในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยความโดดเด่นของอาหารที่น่าสนใจ ที่เราจะขอแนะนำให้ท่านได้ทราบวันนี้นั้นก็คือ อาหารอร่อย ตำข้าวโพดอีกหนึ่งเมนูอาหารที่รสชาติจัดจ้าน ไม่แพ้กันกับการรับประทานส้มตำ ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของคนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักกันอีกด้วย

ตำข้าวโพด

สอนทำ ตำข้าวโพด ด้วยวิธีง่าย ๆ ไว้ทานเองช่วงกักตัวโควิด

ขั้นตอนแรกเราจะมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำ ตำข้าวโพดกันก่อน ส้มตำกรอบ ใส่กุ้ง รสเด็ดชวนน่าทาน ซึ่งจะมีการจัดเตรียมในส่วนของข้าวโพดต้ม แอปเปิ้ล แครอท มะเขือเทศ มะเขือเทศสีดา น้ำมะนาว มะพร้าว กระเทียม น้ำปลา พริกขี้หนู ถั่วลิสง น้ำตาล

เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ได้พร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้ามาสู่กระบวนการในการทำ ตำข้าวโพดหลังจากที่เรานำเข้าโพดไปต้มจนสุกเรียบร้อย ให้ทำการหั่นเอาแต่เฉพาะเนื้อข้าวโพด พักรอไว้แล้วจากนั้นจึงเริ่มตำพริกขี้หนู กับกระเทียมให้แหลกในครบในส่วนนี้ เราอาจจะเลือกจำนวนพริก ให้มีปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณได้

ตำข้าวโพด รสชาติจัดจ้าน

หลังจากนั้นจึงมีการปรุงรสชาติด้วยการใส่น้ำตาลมะพร้าว มีการเติมน้ำปลา น้ำมะนาว ให้ได้รสชาติให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม โดยรสชาติ ที่ควรจะออกมานั้นจะออกเป็น รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เมื่อได้รสชาติของน้ำ ที่ได้มีการปรุงรสได้กลมกล่อม จึงนำส่วนผสมอื่น ๆ ใส่ลงไปทั้งจาก ข้าวโพด มะเขือเทศ แอปเปิ้ล แครอท ใส่ถั่วฝักยาวตามความเหมาะสม หรืออาจจะมีการเติมเครื่องเคียงอื่น ๆ ลงไปอีกด้วยก็สามารถ ทำได้เมื่อส่วนผสมทุกอย่างลงตัว กันกับรสชาติน้ำซอส ที่ได้จัดทำเอาไว้ก็ตักใส่จานพร้อมรับประทานกันได้โดยทันที ท่านจะได้รับรสชาติการรับประทานตันข้าวโพด ที่มีความจัดจ้านมีรสออกเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด

สอนทำ ตำข้าวโพด

ในการทำ ตำข้าวโพดที่เราได้ให้คำแนะนำวิธีการทำกันไปแล้วนั้น จะเป็นการทำการปรุงแต่งรสชาติที่เหมือนกันกับการทำส้มตำไทย ในกรณีที่คุณอยากจะเติมรสชาติที่มีความแตกต่าง อาจจะมีการใส่น้ำปลาร้า อาจจะมีการใส่ปูนา ปูดำเข้าไปเป็นส่วนผสม ที่จะให้รสชาติให้เอกลักษณ์ ในการรับประทานตำข้าวโพด ในมื้อนั้นมีอรรถรสที่แตกต่าง มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นตามความพึงพอใจของท่านได้อีกด้วย จากการรับประทาน ตำข้าวโพดเราจะเห็นได้ถึงวัตถุดิบส่วนผสม ที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นพืชผักผลไม้ในการรับประทานอาหารในมื้อนี้ จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีคล้ายกันกับการรับประทานสลัดผัก โดยทั่วไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพห่างไกล จากโรคร้าย

เมนูผัดไทยกุ้งสด
อาหารทั่วไป อาหารไทย

เมนูผัดไทยกุ้งสด เมนูขึ้นชื่อของประเทศไทย ใคร ๆ ก็เลือกทาน

เมนูผัดไทยกุ้งสด นอกจากต้มยำกุ้งที่ชาวต่างชาติรู้จัก เมนูผัดไทยกุ้งสดก็เป็นอีกเมนูที่ดังของในประเทศไทยเช่นกัน เมนูนี้วัตถุดิบการทำหาไม่ยากแต่อาจมีหลายขั้นตอนนิดหน่อยแต่ก็ยังเป็นขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูทำง่ายอีกเมนูด้วยค่ะ เมนูผัดไทยกุ้งสด เป็นอาหารรสจืดที่อร่อยในซอสน้ำผัดไทอยู่แล้ว แล้วปรุงแต่งด้วยเครื่องปรุงเพิ่มได้ตามต้องการ เมนูที่อยากให้ทุกบ้านได้ทำเป็นเรามีเทคนิคการทำมาบอก เพื่อเป็นเมนูผัดไทยกุ้งสดเด็ดๆ ไว้ติดบ้านกันนะค่ะ

เมนูผัดไทยกุ้งสด

แจกสูตรการทำ เมนูผัดไทยกุ้งสด ให้เส้นอร่อยทานได้ทั้งบ้าน

สิ่งที่คุณต้องเตรียมในการทำ อาหารเด็ด เมนูผัดไทยกุ้งสด

  • หอมแดงปริมาณ  1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งสดจำนวน 4-5 ตัว
  • กระเทียมปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (สับให้เรียบร้อย)
  • กุ้งแห้งปริมาณ  1 ช้อนโต๊ะ
  • เต้าหู้ปริมาณ  3 ช้อนโต๊ะ
  • หัวไชโป๊ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 
  •  เส้นผัดไทยจำนวน 1 ห่อ
  • ใบกุยช่ายจำนวน 2-3 ต้น
  • ไข่จำนวน 2 ฟอง 
  • ถั่วงอกจำนวน 1 กรัมมือ
แจกสูตรการทำ เมนูผัดไทยกุ้งสด

ส่วนผสมการทำน้ำซอสผัดไทย

  • น้ำปลาแท้ปริมาณ 2 -3 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำปริมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำมะขามเปียกปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำมันหัวกุ้งปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลมะพร้าวปริมาณ 4 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำทำซอสผัดไทยมันกุ้งนำวัตถุดิบข้างบนมาผัดรวมกันจนมีน้ำออกมาและทำการเคี่ยวไปเรื่อยๆ ส่งกลิ่นหอมน่าทานให้ตัดใส่ชามพักไว้ ปรุงแต่เพิ่มเติมได้เลย ผัดไทย อาหารที่นิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ ทั้งรสชาติอร่อยแถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย

วิธีทำ เมนูผัดไทยกุ้งสด

วิธีทำผัดไทกุ้งสด  

  1. เตรียมตังกระทะเปิดไฟที่มีระดับปานกลางใส่น้ำผัดไทกุ้งลงไปผัดให้พอร้อนตามด้วยกุ้งผัดจนกุ้งสุกให้ตักพักทิ้งไว้
  2. จากนั้นตามด้วยใส่ผักหอมแดงและกระเทียมหัวไชโป๊ผัดให้หอมได้ที่ตามด้วยกุ้งแห้งเต้าหู้ผัดรวมกันให้ทั่วอีกที
  3. ตามด้วยใส่เส้นลงไ หากเส้นแข็งใช้การใส่น้ำเพิ่มไปช่วยให้เส้นนุ่มมากขึ้นตามด้วยน้ำผัดไทยเพิ่ม ตอกไข่ไก่ตามลงไปผัดไข่ไก่ไปให้ทั่ว ตามด้วยถั่วงอกใบกุยช่ายเป็นอันว่าเสร็จเมนูผัดไทยกุ้ง รับรองว่าเด็ดทานทานมากเลยค่ะ

เมนูผัดไทยกุ้งสดที่คุณต้องทำเป็น เป็นเมนูน่าทานทำง่ายที่ควรทำเป็นและมีวัตถุดิบติดครัวไว้เลยค่ะ เพราะเมนูนั้นๆ จะเป็นวันที่ดีและสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

สังขยาฟักทอง
อาหารทั่วไป

เมนูขนมหวาน สังขยาฟักทอง ที่เนื้อด้านในเหมือนพุดดิ้ง บอกเลยว่าทำทานเองได้ง่าย ๆ

สังขยาฟักทอง วันนี้ข้างบ้านเอาฟักทองมาให้ค่ะ เป็นฟักทองลูกเล็กคล้ายกับฟักทองญี่ปุ่น เห็นฟักทองลูกขนาดนี้แล้วก็อดนึกถึงสังขยาฟักทองไม่ได้ เพราะลูกกำลังดี เหมาะกับการทำสังขยามาก ๆ เลยล่ะ แต่เชื่อว่าปัญหาในการทำสังขยาฟักทองของแต่ละบ้านก็คือทำออกมาแล้วเนื้อไม่เนียน มีฟองอากาศอยู่ในเนื้อสังขยาเต็มไปหมด เวลาตัดแล้วดูเป็นรู ๆ เหมือนฟองน้ำ ดูไม่สวยงาม และสีไม่ค่อยสวย เรามีวิธีที่จะทำให้สังขยาเนียนสวยเหมือนพุดดิ้งมาฝากค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องเชคฟักทองก่อนนะคะ

สังขยาฟักทอง

วิธีทำ และวัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูขนมหวาน สังขยาฟักทอง เมนูโปรดของหลาย ๆ คน

วิธีการดูว่าฟักทองที่ได้มานั้นเหมาะกับการทำสังขยาไหม ให้เอาเล็บจิกที่ตูดลูกฟักทอง ถ้าหากแข็งดี จิกไม่ลง ก็ใช้ได้ค่ะ เพราะถ้าใช้ฟักทองที่อ่อนกว่านี้จะทำให้สังขยาฟักทองของเราแตกตอนที่นึ่งนั่นเองค่ะ เมื่อได้ฟักทองที่ต้องการแล้วก็ล้างและขัดให้สะอาด เปิดด้านบนนิดหน่อย ให้พอเอาช้อนลงไปคว้านไส้ฟักทองได้ คว้านไส้ฟักทองออกให้หมด ล้างให้สะอาดและวางพักไว้

สังขยาฟักทอง เนื้อเหมือนพุดดิ้ง

ส่วนวัตถุดิบอื่น ๆ เตรียมตามนี้ค่ะ 1 .  หัวกะทิ  2. น้ำตาลปี๊บ 3. ไข่เป็ด 5 ฟอง (ฟักทอง 4 ลูก) 4. ไข่ไก่ 8 ฟอง 5.ใบเตย

วิธีทำ

1.ตอกไข่ไก่ และไข่เป็ดลงในน้ำกะทิ โดยที่ไม่ต้องแยกไข่ขาว ไข่แดง แล้วเอาใบเตยมาหั่นเป็นท่อน ๆ ขยำใบเตยในไข่และกะทิ เพื่อให้ไข่และกะทิเข้ากันดี และให้กลิ่นของใบเตยออกมากลบกลิ่นคาวไข่ ขยำไปเรื่อย ๆ จนกว่าไข่และกะทิจะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

2.ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ชิมรสหวานตามชอบ หากเป็นน้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลมะพร้าวธรรมชาติจะไม่หวานมาก รสชาตินุ่มกำลังดี คนน้ำตาลปี๊บให้ละลายเข้ากับไข่และกะทิ

3.เอาผ้าขาวบางมากรองเนื้อสังขยาที่เราทำไว้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เนื้อสังขยาเนียนเหมือนเนื้อพุดดิ้ง ให้กรองหลาย ๆ ครั้ง หรือซ้อนผ้าขาวบาง  2- 3 ชั้น เพื่อให้กรองออกมาแล้วมีฟองน้อยที่สุด

วิธีทำสังขยาฟักทอง

4.เมื่อกรองเสร็จแล้วเอาเนื้อสังขยากรอกลงในฟักทองอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้เกิดฟอง และอย่าใส่จนเต็ม เว้นที่เพื่อให้เนื้อขนมขยายตัวสัก 1 ซ.ม. จากขอบฟักทอง

5.นึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 20 นาที และเร่งไฟแรงในตอนท้ายประมาณ  10 นาที เพื่อป้องกันฟักทองแตก  หากต้องการรู้ว่าเนื้อสังขยาสุกหรือยัง ให้เอาไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มเนื้อสังขยาฟักทองลงไปตรง ๆ หากไม่มีน้ำติดขึ้นมาแปลว่าสุกได้ที่ พร้อมเสริฟ

*** ไข่เป็ดจะช่วยให้เนื้อขนมเซทตัวได้ดี เนื้อแน่นเด้งเหมือนพุดดิ้ง และทำให้สีสวยนวลน่ากิน

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และ เคล็ดลับการทำอาหาร ได้ที่นี่

ขาหมูต้มพะโล้
อาหารรสเด็ด อาหารไทย

ขาหมูต้มพะโล้ ด้วยหม้อแรงดัน เมนูโปรดของหลาย ๆ คน เพราะทั้งอร่อยแล้วยังมีกลิ่นหอมน่าชวนรับประทาน

            ขาหมูต้มพะโล้ คงเป็นเมนูโปรดของเด็กๆ รวมถึงคุณผู้ใหญ่ในหลายๆ ครัวเรือน ด้วยเนื้อขาหมูที่นุ่มละมุนลิ้นพร้อมละลายในปาก และน้ำพะโล้ที่หอมหวนรวมถึงรสชาติที่กลมกล่อมสามารถตักราดข้าวรับประทานได้เลย ยิ่งรับประทานร้อนๆ ด้วยแล้วรสชาติยิ่งทวีความอร่อยเข้าไปอีก หรือในหลายๆ ครัวเรือนก็มีน้ำจิ้มรสเด็ดสำหรับรับประทานคู่เมนูขาหมูกันอีกด้วย สำหรับวันนี้เราก็จะมาแนะนำกรรมวิธีการทำเมนูขาหมูต้มพะโล้แสนอร่อยด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างหม้อแรงดันกัน ซึ่งในส่วนการใช้หม้อแรงดันโดยทั่วไปแล้วรสชาติจะไม่เข้าเนื้อ หรือ กลิ่นรส เปลี่ยนไป วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับที่ช่วยตัดปัญหาดังกล่าวออกไปทั้งหมดกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกรรมวิธีการทำพร้อมๆ กันเลย

วัตถุดิบสำหรับเมนู ขาหมูต้มพะโล้ มีอะไรกันบ้าง ?

1.ขาหมู ปริมาณ 900 กรัม หรือ 9 ขีด

2.ผงพะโล้สำเร็จรูป ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

3.น้ำสะอาด

4.น้ำตาลมะพร้าว ปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ

5.รากผักชี ปริมาณ 3 ราก

6.น้ำมันหอย ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

7.ซีอิ้วขาว ปริมาณ 3 ช้อนชา

8.แครอท ปริมาณ ครึ่งหัว

9.ผักกาดดอง ปริมาณ 3 ใบ

วัตถุดิบสำหรับทำน้ำจิ้มรสเด็ด

1.พริกชี้ฟ้าสีแดง ปริมาณ 5 เม็ด

2.น้ำตาลทราย ปริมาณ 2 ช้อนชา

3.น้ำส้มสายชู ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

4.ซีอิ้วดำ ปริมาณ 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

1.หม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225

2.กระทะ

3.ตะหลิว

4.มีด

5.เขียง

กรรมวิธีการทำเมนูขาหมูต้มพะโล้

1.นำขาหมูมาล้างให้สะอาด จากนั้นตั้งให้สะเด็ดน้ำ

2.นำผงพะโล้สำเร็จรูปมา 1 ช้อนโต๊ะ พร้อมน้ำสะอาดปริมาณเล็กน้อยใส่ลงกระทะตั้งไฟกลางๆ คนจนละลาย จากนั้นใส่ขาหมูลงไปในกระทะ คั่วโดยใช้เวลาประมาณ 6 นาที จากนั้นปิดไฟ

ขาหมูต้มพะโล้

3.นำขาหมูขึ้นจากกระทะ (ตักเฉพาะขาหมู ส่วนน้ำพะโล้ยังคงไว้ในกระทะต่อ) ใส่ลงหม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225

4.ส่วนน้ำในกระทะอย่าพึ่งล้างก่อน ให้นำน้ำตาลมะพร้าว 5 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในกระทะที่มีน้ำพะโล้อยู่ จากนั้นใช้ไฟกลางอีกเหมือนเดิม จนน้ำตาลมะพร้าวจะเริ่มหลอม เติมน้ำสะอาดลงไปอีกเล็กน้อย เพื่อละลายน้ำตาลมะพร้าว ตั้งไฟกลางต่ออีกประมาณ 4 นาที ก็ปิดไฟ

5.เทน้ำพะโล้ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าวลงไปในหม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225

6.นำรากผักชี 3 ราก มาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วใส่ใน

หม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225

7.ทำการปรุงรสโดยเติมเครื่องปรุง อันประกอบด้วยน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ และ ซีอิ้วขาว 3 ช้อนชา

8.เติมน้ำสะอาดลงในหม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225 ปริมาณให้พอท่วมขาหมู จากนั้นปิดล็อคฝา แต่ไม่ต้องปิดรูระบายความดัน ตั้งเวลาไว้ที่ 15 นาที 15 วินาที แล้วเปิดไฟ

9.เมื่อครบเวลา อย่าพึ่งรีบเปิดฝาหม้อ ให้เปิดปุ่มระบายความดันก่อนว่ามีอะไรไหมเผื่อมีความดันมันคั่งค้างจะได้ปลอดภัย

10.จากนั้นตั้งไฟอีกรอบหนึ่ง ครั้งนี้ปิดรูระบายความดันด้วย เพื่อให้ความดันในหม้อสูงขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น รอบนี้ตั้งเวลาไว้ 45 นาที 45 วินาที รอจนครบเวลาที่ตั้งไว้

11.นำแครอทมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแครอทออกแล้วหั่นตามขวางปริมาณครึ่งหัว แล้วใส่ในหม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225 ที่ครบเวลาในส่วนขาหมูแล้ว

12.นำผักกาดดอง 3 ใบใส่หม้อแรงดัน ยี่ห้อ Otto รุ่น PC-225 พร้อมแครอท แล้วปิดฝา จากนั้นเปิดไฟ ตั้งเวลาที่ 4 นาที 40 วินาที

13.จากนั้นตักขาหมูออกจากหม้อใส่จานเตรียมเสริฟ์ พร้อมตกแต่งด้วยแครอท ส่วนผักกาดดองให้นำมาซอยก่อนใส่จาน

เป็นอันเสร็จ

กรรมวิธีสำหรับทำน้ำจิ้มรสเด็ด

1.นำพริกชี้ฟ้าสีแดง 5 เม็ด มาล้างให้สะอาด เด็ดขั้วพริกออก จากนั้นหั่นตามขวาง แล้วใส่ถ้วยสำหรับทำน้ำจิ้มไว้

2.เติมน้ำตาลทราย ปริมาณ 2 ช้อนชา, น้ำส้มสายชู ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และซีอิ้วดำ ปริมาณ 1 ช้อนชา กวนผสมให้เข้ากัน (ความเข้ากันให้สังเกตที่น้ำตาลละลายหมด) เป็นอันเสร็จ เพียงเท่านี้ทุกท่านก็จะได้น้ำจิ้มรสเด็ดรับประทานคู่กับขาหมูต้มพะโล้กัน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และวิธีทำอาหาร พะโล้ขาหมูเผาแห้ง เมนูที่ทุกคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่รับรองได้ว่าอร่อยสมคำล่ำลือ

ผัดไทย
อาหารทั่วไป อาหารรสเด็ด อาหารไทย

ผัดไทย อาหารที่นิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ ทั้งรสชาติอร่อยแถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย

               ผัดไทย เป็นอาหารประจำชาติของไทย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ คนต่างชาติก็เช่นเดียวกันที่ให้ความสนใจและชื่นชอบเมนูอาหารเส้นชนิดนี้ สามารถหาทานได้ทั่วไป ตั้งแต่รถเข็น ร้านริมทาง ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า โรงแรมบางแห่ง และยังสามารถทำทานได้เองที่บ้านอีกด้วย

ที่มาของเมนู ผัดไทย ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าผัดไทยมีวัฒนธรรมมาจากไหน

               ผัดไทย เป็นเมนูอาหารเส้นที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศจีน แต่เดิมเป็นก๋วยเตี๋ยวผัด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2481 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในสมัยนั้นท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านรณรงค์ให้ประชาชนหันมานิยมทานเส้นก๋วยเตี๋ยวแทนข้าว เพื่อเป็นการลดการทานข้าวในประเทศ เมนูอาหารนี้ก็กลายมาเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดไทย หลังจากนั้น ปี พ.ศ. 2485 จากก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ก็กลายมาเป็น ผัดไทย

               ความโดดเด่นของผัดไทย คือ น้ำซอส ที่มีรสชาติเข้มข้น มีหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรสหวาน รสเปรี้ยว และรสเค็ม ก่อนผัดจะต้องเคี่ยวน้ำซอสก่อน ส่วนผสมในการเคี่ยวน้ำซอส ได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา น้ำมะขามเปียกและพริกป่น ลำดับถัดมา ก่อนผัดเส้น จะต้องทอดเต้าหู้ให้สุกเหลือง ตามด้วยไชโป้วเค็มสับ หอมแดง เติมน้ำเล็กน้อย ใส่เส้นเล็กหรือเส้นจันทน์ลงไปในกระทะ ใช้มุมตะหลิวคน เติมน้ำซอสที่เคี่ยวเสร็จแล้วลงไป นำมาผัดกับไข่ ถั่วงอก กุยช่าย โรยด้วยกุ้งแห้ง

               ผัดไทยเป็นเมนูอาหารเส้นจานเดียว ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมทานและชื่นชอบ ไม่เพียงแค่อาหารจานนี้เท่านั้น ยังมีเมนูอาหารจานอื่นๆ อีกที่เป็นที่นิยม ปัจจุบันมีการนำวัตถุดิบอื่นๆ ที่สดและใหม่มาประยุกต์ผัดเข้าด้วยกัน และมีชื่ออาหารใหม่เกิดขึ้น ร้านอาหารบางร้านจะใช้กุ้งสดแทนกุ้งแห้ง  เรียกชื่ออาหารนี้ว่า ผัดไทยกุ้งสด เป็นต้น บางร้านอาจจะมีการนำเนื้อหมูใส่ลงไปด้วยเล็กน้อยเป็นการประยุกต์อาหารให้เกิดความแปลกใหม่และน่าทานมากยิ่งขึ้น

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และวิธีทำอาหาร เสนอเมนู กุ้งผัดกระเทียม ยังได้รับประโยชน์จากกระเทียมอีกด้วย