สูตรแกงกะทิไตปลา
อาหารรสเด็ด อาหารไทย

สูตรแกงกะทิไตปลา อาหารปักษ์ใต้ อร่อยหอมมัน เข้มข้นครบรส บอกเลยว่าห้ามพลาด

           สูตรแกงกะทิไตปลา ส่วนใหญ่มักไม่ใส่กะทิ แต่คุณรู้ไหมว่าแกงไตปลาใส่กะทิก็มีนะ แถมยังอร่อยเข้มข้น ช่วยเสริมให้ได้ครบรส จนคนใต้แท้ๆ ยังต้องร้องหร่อยจังฮู้

สูตรแกงกะทิไตปลา

วิธีทำ และส่วนผสม สูตรแกงกะทิไตปลา แสนอร่อย จะมีอะไรบ้าง ?

  • ไตปลาให้เลือกแบบอย่างดี 100  กรัม
  • ปลาทูนึ่ง 200 กรัม
  • น้ำพริกแกงไตปลา 100 กรัม
  • สะตอ 100 กรัม
  • ฟักทอง 200 กรัม
  • ถั่วฝักยาว 100 กรัม
แกงกะทิไตปลา
  • หน่อไม้ดอง 100 กรัม
  • ข้าวโพดอ่อน 100 กรัม
  • มะเขือเปราะ 100 กรัม
  • ใบมะกรูด 10 ใบ
  • กะทิ 2 ถ้วยตวง
  • น้ำปลาอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงกะทิไตปลา

-เริ่มจาการเตรียมเครื่องปรุงก่อน ซึ่งการปรุงแกงไตปลากะทิให้เริ่มจากการนำปลาทูนึ่งมาแกะ เพื่อเอาแต่เนื้อออกมาแล้วก็พักไว้ก่อน และอย่าลืมล้างไตปลาหลายๆ รอบจนสะอาดด้วย

-ส่วนผักอื่นๆ ก็ให้คุณจัดการตามนี้ คือสะตอให้แกะเอาแต่เมล็ดออกมา ฟักทองก็หั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ ส่วนถั่วฝักยาวก็หั่นเป็นท่อนขนาดสั้นๆ หน่อไม้ดองก็หั่นให้เล็กพอกินได้  ข้าวโพดอ่อนให้หั่นแบบเฉียงๆ และมะเขือเปราะผ่าเป็น 4 ซีก รวมทั้งใบมะกรูดก็ฉีกหยาบๆ  

-พอเตรียมเครื่องเคราต่างๆ เสร็จแล้วก็ให้คุณเริ่มตั้งกะทิ

-เมื่อกะทิเดือดแล้วก็ให้คุณใส่ไตปลาลงไป

-จากนั้นก็เคี่ยวไตปลาสักพักหนึ่งจนเห็นว่าสุกดีแล้วจึงใส่น้ำพริกแกงไตปลาลงไป

กะทิไตปลา

-เมื่อใส่แล้วก็ให้คนน้ำพริกให้กระจายจนทั่วหม้อ

-ต่อมาก็ให้ใส่ใบมะกรูด ข้าวโพดอ่อน สะตอ หน่อไม้ ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ

-ทีนี้ก็ถึงคราวการปรุงรส ให้คุณปรุงด้วยน้ำปลาพออออกเค็มๆ หน่อย

-ต่อมาก็ใส่เนื้อปลาทูแกะลงไป

-จากนั้นพอเดือดดีก็ปิดไฟได้เลย

-นำมาตักใส่ถ้วยกินพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็ได้แกงกะทิไตปลา ซึ่งเป็นแกงใต้สุดอร่อยได้แล้ว

 วิธีการเลือกซื้อไตปลา

            ไตปลาที่มีคุณภาพ ควรจะเป็นแบบที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน หากซื้อตามตลาดก็ต้องเลือกที่สะอาด ดมแล้วไม่เหม็นไม่ฉุน สีไม่คล้ำดำจนเกินไป และก่อนใช้ก็ควรชิมดูด้วย หากเค็มจัดอยู่แล้วก็ไม่ต้องเติมน้ำปลามาก

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ มากิน ข้าวไข่เจียว แสนถูกยุค 2020 กันเถอะ!! ทั้งอิ่ม ราคาจับต้องได้ และมีคุณประโยชน์

Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง)
แนะนำร้านอาหาร

Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง) ร้านอาหารที่จะทำให้คุณตกหลุมรักอาหารจีน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

            วันนี้เราจะใส่กี่เพ้าไปรับประทานอาหารจีนรสชาติระดับภัตตาคารกันในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร้านนั้นก็คือร้าน Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 สามารถเดินตรงมาจากประตูทางเข้าอาคาร A Tower (เป็นตึกที่เชื่อมกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า) ที่ด้านหน้ามีธนาคารกรุงไทยตั้งอยู่ ตัวร้านจะตั้งอยู่ทางขวามือ เมื่อมาถึงหน้าร้านจะมีพนักงานพาเราไปยังโต๊ะตามจำนวนของผู้ที่มาใช้บริการ

Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง)

Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง) ร้านอาหารจีน รสชาติระดับภัตตาคาร ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กับความอร่อยที่ต้องลอง

หากเป็นครอบครัวใหญ่หน่อยก็จะได้เป็นโต๊ะกลม ทางร้านตกแต่งสไตล์จีน ๆ เห็นแล้วสบายตา แถมโต๊ะนั่งรับประทานก็ตั้งห่างๆ กันไม่แออัดเหมาะกับการมารับประทานกันทั้งครอบครัวเลย สำหรับครัวของทางร้านก็จะทำเป็นลักษณะกระจกใสให้เราได้เห็นเหล่าพ่อครัวแม่ครัวที่กำลังปรุงอาหารให้เราอยู่ ในส่วนของเมนูขึ้นชื่อต้องลองของร้าน Din Tai Fung เลยก็คือ เมนูเสี่ยวหลงเปาที่มีลักษณะเหมือนขนมจีบเสิร์ฟมาในเข่งติ่มซำ

ร้าน Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง)

แต่เมื่อเรากัดไปแล้วภายในเสี่ยวหลงเปานั้นจะมีน้ำซุปร้อนๆ ชุ่มคอ ปะปนกับไส้เสี่ยวหลงเปาช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติให้กับเสี่ยวหลงเปาในแต่ละคำอย่างยิ่ง ส่วนของตัวไส้เสี่ยวหลงเปาก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งไส้เนื้อปูและหมูสับ ไส้ไก่ ไส้กุ้งและบวบ ไส้เห็ดรวมและทรัฟเฟิลออยล์ มีให้เลือกแบบ 5 ชิ้น และ 8 ชิ้น ราคาก็จะแตกต่างไปตามจำนวนชิ้นที่เลือกและชนิดของไส้ ตั้งแต่ราคา 129 บาทไปจนถึงราคา 259 บาท

(ติ่น ไท่ ฟง) ร้านอาหารจีน

เมนูถัดมาที่ไม่ควรพลาด คือ เมนูออเดิร์ฟอย่างเมนูพริกเขียวยัดไส้หมูสับ (ราคาเมนูนี้อยู่ที่ 160 บาท) ที่ได้ความเผ็ดเล็กน้อยของพริกปนกับหมูสับปรุงรสราดน้ำสูตรเฉพาะให้ความอร่อยลงตัวแบบต้องขอเบิ้ลกันอีกชิ้น และเราก็ตบท้ายด้วยเมนูซดน้ำซุปร้อนๆ อย่างเมนูซุปเนื้อตุ๋น (ราคาเมนูนี้อยู่ที่ 259 บาท) เมนูนี้ต้องรับประทานกันร้อนๆ เพราะหากปล่อยไว้สักพักจะมีมันเนื้อลอยหน้าน้ำซุปและมีกลิ่นเฉพาะตามแบบฉบับเนื้อที่อาจไม่ถูกปากบางท่าน ราคาที่กล่าวมาเบื้องต้นยังไม่ได้รวม Vat 7% โดยภาพรวมร้าน Din Tai Fung จัดเป็นร้านที่เปิดประสบการณ์อาหารจีนและทำให้เราตกหลุมรักพร้อมๆ กับติดใจในรสชาติอาหารจีนไปในตัว

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ มากิน ข้าวไข่เจียว แสนถูกยุค 2020 กันเถอะ!! ทั้งอิ่ม ราคาจับต้องได้ และมีคุณประโยชน์

ข้าวไข่เจียว
อาหารทั่วไป เคล็ดลับการทำอาหาร

มากิน ข้าวไข่เจียว แสนถูกยุค 2020 กันเถอะ!! ทั้งอิ่ม ราคาจับต้องได้ และมีคุณประโยชน์

ข้าวไข่เจียว คือเมนูยอดนิยมของนักประหยัดแบบพอเพียงในยุค2020 ก็ว่าได้เพราะมันทั้งอิ่ม ราคาจับต้องได้ มีคุณประโยชน์ สามารถใส่อาหารต่าง ๆ ลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย แต่จะมีความน่าทานขนาดไหนเรามาดูกันเพื่อน ๆ ตามมาเลยค่ะ

ข้าวไข่เจียว

อาหารประเภท ข้าวไข่เจียว มีประโยชน์ไหมนะ!! ให้คุณค่าทางโปรตีนต่อร่างกายหรือไม่ ?

แน่นอนที่สุด ซึ่งบางคนเห็นว่าราคาถูก จะมีประโยชน์ได้อย่างไรกันนะ จนลืมไปว่าไข่นั้นโดยปกติก็ให้คุณค่าทางโปรตีนต่อร่างกายอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องมีประโยชน์นั้นให้คะแนนไปเลยค่ะว่า100%เต็ม นอกจากนี้ยังได้คาร์โบรไฮเดรตจากข้าวอีกด้วย รับรองว่าอิ่มคุ้มถูกใจกันอย่างแน่นอนทีเดียว

ข้าวไข่เจียวมีประโยชน์ไหม

ข้าวไข่เจียวราคากล่องละ20บาทจะอร่อยขนาดไหนมาดูกัน

ความอร่อยของข้าวไข่เจียวนั้นต้องมีแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีคนเปิดขายกันทั่วเมือง แต่มันต้องอยู่ที่การปรุงของร้านที่ขายส่วนหนึ่งด้วยนะคะเพื่อน ๆ ต้องมีความกลมกล่อม หอมอร่อยนั่นเอง สังเกตง่ายๆร้านไหนที่เปิดขายแล้วมีคนมาต่อคิวยาว ๆ รับรองได้เลยว่าอร่อยชัวร์ แถมราคาก็ถูกอีกด้วย คุ้มเกินคุ้มค่ะ เป็นใครบ้างจะไม่สั่งเพื่อน ๆ ว่าไหมคะ อาหารที่ถูกและดีมีที่ร้านไข่เจียวราดข้าวนี่เอง

ข้าวไข่เจียวราคาถูก

ส่วนประกอบของข้าวไข่เจียวคืออะไร>>

มาถึงตรงนี้ส่วนประกอบหรือคะ ง่ายมากเลยก็ใส่ไข่ ใส่ต้นหอม ผงปรุงรส ซอสถั่วเหลือง มะเขือเทศ ปูอัด หมูสับ
ฮอทดอก ส่วนประกอบเหล่านี้เพื่อนๆสามารถเลือกใส่ได้ตามใจชอบเลยนะคะ อิ่มอร่อยในราคาพอเพียง เหมาะกับยุคประหยัดๆแบบนี้ที่สุดเลยค่ะ การทอดต้องทอดให้สุกเหลืองพอดีๆ ไม่อมน้ำมันมีกลิ่นหอมชวนทาน บอกเลยว่าเป็นอาชีพทำกินได้แบบสบายๆอีกอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้นะคะ เพื่อน ๆ คงคิดแบบเราใช่หรือเปล่า

สรุปได้เลยว่าอาหารประเภทนี้นั้น เหมาะกับบ้านเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านราคา ด้านคุณประโยชน์ หรือแม้แต่ปริมาณความอิ่มบอกเลยว่า อิ่มนานมากๆ เพื่อนๆที่สนใจก็ลองไปหาทานกันดูค่ะ อร่อยขนาดไหนทักมาบอกกันได้เลยนะคะ ว่าแล้วก็ไปหามาทานสักกล่องดีกว่าหิวพอดีเลยไปกันค่ะ

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ รวมอาหารจากดอกอัญชัน เมนูอัญชัน ที่ทำง่ายแถมน่าทานมาก บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ

รวมอาหารจากดอกอัญชัน
อาหารรสเด็ด เคล็ดลับการทำอาหาร

รวมอาหารจากดอกอัญชัน เมนูอัญชัน ที่ทำง่ายแถมน่าทานมาก บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ

รวมอาหารจากดอกอัญชัน สมุนไพรที่เราคุ้นเคยกันดีและจัดหาได้ง่าย อย่างอัญชัน ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มากด้วยคุณประโยชน์อันหลากหลาย หากเป็นการใช้ภายนอก เราก็จะนำมาทำทรีตเมนท์ผมเพื่อให้เส้นผมดูเงางาม ส่วนภายในก็ช่วยบำรุงร่างกายได้หลายด้านเลย เช่น ลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสายตา เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เป็นต้น ซึ่งอัญชันสามารถนำมาประกอบอาหารได้เยอะแยะเลย ทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม จะมีเมนูอัญชันที่น่าสนใจแบบไหนบ้าง

รวมอาหารจากดอกอัญชัน

รวมอาหารจากดอกอัญชัน ที่ลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสายตา เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

  • น้ำอัญชัน ดับกระหาย พร้อมเติมความสดชื่นให้ร่างกายกันด้วยเครื่องดื่มนี้เลย ทำได้ง่าย ไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย วิธีการทำเริ่มด้วยนำดอกอัญชันมาต้มน้ำจนเดือด แล้วกรองแยกกากกับน้ำ จากนั้นเมื่อน้ำอัญชันที่ได้เริ่มอุ่นก็ใส่น้ำเชื่อมได้เลย แต่ถ้าใครอยากได้อีกหนึ่งสูตร ก็สามารถใส่มะนาวลงไปได้ เพิ่มความสดชื่นอีกระดับ
น้ำอัญชัน
  • อัญชันทอดกรอบ ถัดมาที่เมนูอาหารกัน เมนูนี้เริ่มจากเตรียมวัตถุดิบก่อน ได้แก่ ดอกอัญชันสด น้ำมัน แป้งทอดกรอบ โดยมีวิธีการทำดังนี้
อัญชันทอดกรอบ
  1. เตรียมดอกอัญชันสดไว้เป็นกลีบๆ แกะเอาขั้วและเกสรออก เตรียมพร้อมที่จะชุบแป้ง
  2. ในส่วนของแป้งให้ผสมกับน้ำ จนแป้งมีความข้นหนืด
  3. เตรียมกระทะและน้ำมันให้ร้อน ระดับไฟปานกลาง เพื่อรอทอด จากนั้นนำอัญชันที่เตรียมไว้ไปชุบแป้ง แล้วทอดได้เลย จนเมื่ออัญชันแป้งกรอบเริ่มเหลือง ก็เร่งไฟให้แรงแล้วนำขึ้นได้เลย ใช้กระดาษซับน้ำมันออก ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย
  4. ยำวุ้นเส้นอัญชันทะเล
ยำวุ้นเส้นดอกอัญชัญ
  • ยำวุ้นเส้นดอกอัญชัญ เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม วุ้นเส้น กุ้งสด ปลาหมึก หมูสับ ดอกอัญชัน(ใช้ได้ทั้งแบบสดและแบบแห้ง) น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย หอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกขี้หนู-พริกแดง ต้นหอม ผักชี  มีวิธีการทำดังนี้
  1. เริ่มที่การลวกเนื้อสัตว์ก่อน ทั้งปลาหมึก หมูสับ และกุ้งสด เมื่อลวกเสร็จแล้วให้พักเอาไว้ก่อน
  2. มาทำในส่วนของเส้นกันก่อน ให้นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ แล้วตัดแบ่งเป็นท่อนๆ เตรียมที่จะลวก แล้วนำอัญชันมาต้มน้ำ ให้สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีม่วงอัญชัน เพิ่มน้ำมะนาวลงไป จากนั้นนำวุ้นเส้นไปลวกได้เลย ให้เส้นนั้นกลายเป็นสีม่วง
  3. มาต่อกันที่น้ำยำ ใช้พริกขี้หนูตำผสมกับพริกแดง แล้วใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย ปรุงรสได้ตามที่ทุกคนชอบ จากนั้นใส่เครื่องเนื้อสัตว์ที่ลวกไว้ได้เลย ต่อด้วยวุ้นเส้นสีม่วง สุดท้ายก็ใส่ผักที่เตรียมไว้ ทั้งมะเขือเทศ ต้นหอม ผักชี และหอมใหญ่ลงไป ก็พร้อมเสิรฟ์ได้เลย

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ ตะลุยกิน ร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านสีลม-ศาลาแดง บอกเลยว่าแต่ละร้านนั้นคัดสรรมาเป็นอย่างดี

ร้านอาหารญี่ปุ่น
แนะนำร้านอาหาร

ตะลุยกิน ร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านสีลม-ศาลาแดง บอกเลยว่าแต่ละร้านนั้นคัดสรรมาเป็นอย่างดี

            ร้านอาหารญี่ปุ่น สายที่ชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นมากองรวมกันตรงนี้เลย เพราะบทความเกี่ยวกับอาหารนี้จะพาไปตะลุยกินร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลม-ศาลาแดง บอกเลยว่าแต่ละร้านนั้นคัดสรรมาเป็นอย่างดีในเรื่องของความสดใหม่ และวัตถุดิบเกรด Premium รับรองเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปตะลุยกินกันเลย

ร้านอาหารญี่ปุ่น

แนะนำ 5 ร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านสีลม-ศาลาแดง รับรองเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน จะมีร้านไหนบ้าง ?

ร้านอาหารญี่ปุ่น

            ตะลุยกินร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลม-ศาลาแดงร้านแรกที่ “Teru Sushi Bistro” ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ Sushi คำโตที่ใช้วัตถุดิบเกรด Premium ในการทำเท่านั้น นอกจากนี้ยังการันตีในเรื่องของความสดใหม่ จึงมั่นใจได้เลยว่าไม่มีกลิ่นเหม็นคาวอย่างแน่นอน อีกทั้งยังพิถีพิถันในการจัดตกแต่งหน้าตาของอาหารเป็นอย่างมาก รับรองว่าคุณเห็นแล้วจะต้องอยากที่จะถ่ายรูปลง Social อย่างแน่นอน

SHAKARIKI 432”SILOM SOI 3

            “SHAKARIKI 432”SILOM SOI 3” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมที่มีสาขาอยู่มากมายทั่วกรุงเทพ แต่บทความนี้จะมาแนะนำสาขาที่สีลมซอย 3 รับรองว่าอร่อยเด็ดทุกสาขาอย่างแน่นอน ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้จะเป็นอาหารญี่ปุ่นสไตล์ OSAKA JAPAN ซึ่งจะมีหลากหลายเมนูที่ไม่สามารถหารับประทานได้จากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่ว ๆไปอย่างเมนู SHIRAKO PONZU เป็นต้น

TUNA ICHIBAN Japanese Restaurant

            “TUNA ICHIBAN Japanese Restaurant” ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลมภายในตึก ITF เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ค่อนข้างจะมีบรรยากาศที่หรูหราสไตล์ญี่ปุ่น ในส่วนของเมนูอาหารนั้นต้องบอกเลยว่ามีให้เลือกเยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว และแต่ละเมนูที่นำออกมาเสิร์ฟนั้นก็จัดเต็มแบบพูน ๆชามเลยทีเดียว รับรองว่าอิ่มจนพุงกางกลับบ้านอย่างแน่นอน

AburiYatai

            “AburiYatai” ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสีลมแห่งนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya ซึ่งบอกเลยว่าในกรุงเทพนั้นค่อนข้างที่จะหาร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์นี้รับประทานได้ยาก เน้นในเรื่องของ Seafood ที่สดใหม่ อีกทั้งบางเมนูยังมีการผสมผสานอาหารสไตล์ไทยเข้าไปอีกด้วย จึงทำให้มีรสชาติที่แปลกใหม่น่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก

HOKKAIDO BUTADON TOKACHI

            “HOKKAIDO BUTADON TOKACHI” ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Hokkaido ในย่านสีลม ภายในซอยทานตะวัน บอกเลยว่าที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้มีรสชาติใกล้เคียงกับต้นตำหรับเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูสุดพิเศษที่เหมาะสำหรับสาว ๆที่รักสุขภาพอีกด้วยอย่างเมนู Butadon Collagen ซึ่งเป็นข้าวหน้าหมูย่างที่ราดด้วยซอสโซราจิที่มีส่วนผสมของ Collagen นอกจากจะอร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ การถนอมอาหาร ในอาหารแต่ละประเภทสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานแค่ไหน ?

การถนอมอาหาร
อาหารทั่วไป

การถนอมอาหาร ในอาหารแต่ละประเภทสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานแค่ไหน ?

การแช่แข็งอาหารเป็นรูปแบบหนึ่งใน การถนอมอาหาร ที่ง่ายที่สุด แม้ว่าอาหารจะสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้เรื่อย ๆ โดยที่สายตาของเราอาจมองเห็นว่าสิ่งนั้น ๆ ยังไม่เน่าเสีย แต่ที่จริงแล้ววัตถุดิบแต่ละประเภทก็มีอายุการแช่แข็งที่แนะนำสำหรับการบริโภคเพื่อความปลอดภัยเวลานำมาปรุงสุกเพื่อรับประทาน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกัน

การถนอมอาหาร

แนะนำวิธี การถนอมอาหาร เพื่อความปลอดภัยเวลานำมาปรุงสุกเพื่อรับประทาน จะเป็นอย่างไรบ้าง ?

อุปกรณ์ที่ควรมีสำหรับการแช่แข็งวัตถุดิบอาหาร

  • กล่องพลาสติกบรรจุอาหาร
  • ถุงพลาสติกซิปล็อกบรรจุอาหาร
ถนอมผัก

ผัก

ผักสามารถอยู่ในช่องแช่แข็งตั้งแต่สามเดือนถึงหนึ่งปีขึ้นอยู่ประเภท ผักบางชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียวจะต้องลวกก่อนที่จะแช่แข็ง นอกจากนี้เห็ดบางชนิดยังต้องปรุงสุกก่อนจะถูกแช่แข็ง สำหรับผักที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น มะเขือเทศ คุณต้องทำการหั่นและรีดน้ำ หรือตากแห้งก่อนแช่แข็งด้วย

ระยะเวลาผักแช่แข็ง

หน่อไม้ฝรั่ง                            1             ปี

อาโวคาโด                             5             เดือน

หัวผักกาด                             1             ปี

พริกหวานยักษ์                      3-4         เดือน

บร็อคโคลี                              1             ปี

แครอท                                  1             ปี

กะหล่ำ                                  1             ปี

ผักชีฝรั่ง                                 1             ปี

ข้าวโพด                                8             เดือน

ถั่วเขียว                                 1             ปี

เห็ด (ปรุงสุก)                         1             ปี

เห็ด (ดิบ)                               8             เดือน

ฟักทอง (ปรุงสุก)                    1             ปี

*ระยะเวลาอาจคลาดเคลื่อนเนื่องจากสิ่งปนเปื้อน เช่น เชื้อรา, อุณหภูมิตู้แช่ตก, ไฟดับ ฯลฯ

วิธีการถนอมอาหาร

ผลไม้

ผลไม้มีน้ำเมื่อถูกแช่แข็งแล้วละลายน้ำแข็ง จะมีเนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักนิ่มและเละ นอกจากนี้ยังทำให้ผลไม้มีรสชาติลดลง ดังนั้นจึงควรวางแผนก่อนว่าจะใช้ผลไม้ทำอะไรบ้าง จำเป็นต้นแช่แข็งจริงๆ หรือไม่ ถ้าแปรรูปเป็นแยม ไอศกรีม หรือดองก่อนได้ก็จะดีกว่า โดยส่วนใหญ่ผลไม้ทั่วไป สามารถอยู่ได้สี่เดือนถึงหนึ่งปีในช่องแช่แข็ง

ระยะเวลาผลไม้แช่แข็ง

แอปเปิล                                4             เดือน

แอปริคอต                             6             เดือน

กล้วย                                    8             เดือน

เชอร์รี่                                    6             เดือน

แครนเบอร์รี                           1             ปี

ลูกพีช                                    4             เดือน

*ระยะเวลาอาจคลาดเคลื่อนเนื่องจากสิ่งปนเปื้อน เช่น เชื้อรา, อุณหภูมิตู้แช่ตก, ไฟดับ ฯลฯ

ถั่วถนอมอาหาร

ถั่ว

ไม่ว่าคุณจะกินถั่วช้าหรือเร็วแค่ไหน ก็ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็งเสมอ ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม เพราะถั่วมีปริมาณไขมันและโปรตีนสูง จึงทำให้เหม็นหืนได้อย่างรวดเร็ว ควรใส่ซองพลาสติกซิปล็อกแล้วแช่แข็ง จะสามารถเก็บถั่วไว้ได้นานประมาณสองปี

เนื้อวัวและเนื้อหมู

ส่วนใหญ่เมื่อซื้อเนื้อมาจากตลาดเรามักจะเอาใส่ตู้เย็นทันที แต่อันที่จริงแล้วหากเปลี่ยนมาใส่กล่องพลาสติกให้ดีสามารถยืดอายุการเก็บได้ตั้งแต่สองเดือนถึงหนึ่งปีขึ้นอยู่กับประเภท สำหรับเนื้อที่มีไขมันมาก คุณควรตัดไขมันส่วนเกินบางส่วนออกก่อนแช่แข็ง เนื่องจากอาจทำให้เนื้อมีกลิ่นหืนได้ และไม่ควรใส่เนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว และเนื้อหมูรวมไว้ในกล่องเดียวกัน เพราะจะทำให้เกิดแบคทีเรียได้ง่าย

ขั้นตอนการถนอมอาหาร

ระยะเวลาเนื้อวัวและเนื้อหมูแช่แข็ง

เบคอน                                  3             เดือน

เนื้อสับ                                  6             เดือน

เนื้อบด (รวมแฮมเบอร์เกอร์)  4             เดือน

เเฮม                                      2             เดือน

เครื่องใน (ตับ ไต ฯลฯ )          4             เดือน

ย่างสุกแล้ว                            1             ปี

ไส้กรอก                                 3             เดือน

สเต๊ก                                     8             เดือน

*ระยะเวลาอาจคลาดเคลื่อนเนื่องจากสิ่งปนเปื้อน เช่น เชื้อรา, อุณหภูมิตู้แช่ตก, ไฟดับ ฯลฯ

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ ทำ กิมจิ กรอบอร่อยต้นตำรับเกาหลีแท้ ๆ ทำง่ายไม่ต้องซื้อแพง

กิมจิ
อาหารต่างชาติ อาหารรสเด็ด

ทำ กิมจิ กรอบอร่อยต้นตำรับเกาหลีแท้ ๆ ทำง่ายไม่ต้องซื้อแพง บอกเลยห้ามพลาด

            กิมจิ จัดเป็นเครื่องเคียงของเกาหลีที่คนไทยนิยมกันมาก เพราะมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้านไม่แพ้อาหารไทย แต่ถ้าให้ซื้อกินบ่อยๆ ก็คงไม่ไหวเพราะส่วนใหญ่แล้วกิมจิมักจะมีราคาแพงมาก ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วกิมจิทำเองได้ง่ายมาก ทั้งยังปรุงรสชาติให้อร่อยแบบสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ได้ไม่ยากเลย ซึ่งถ้าใครเป็นติ่งเกาหลีต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

กิมจิ

กิมจิ เครื่องเคียงของเกาหลี รสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้านไม่แพ้อาหารไทย ใครเป็นติ่งเกาหลีต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

ส่วนผสมกิมจิ

ผักกาดขาวหั่นชิ้นใหญ่ตามยาวสัก 4-6 ชิ้น              2     หัว

หัวหอมใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ๆ                        1                      หัว

ต้นหอมหั่นยาวสัก 1 นิ้ว                          6                      ต้น

วัตถุดิบทำกิมจิ

กระเทียมบด                                          6-7                    กลีบ

ขิงบดละเอียด                                         1                      ช้อนชา

พริกป่นเกาหลี                                        1                      ถ้วยตวง (หาซื้อได้ที่ห้างชั้นนำทั่วไป)

แป้งข้าวเจ้า                                            2                      ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย                                           4                      ช้อนโต๊ะ

เกลือ                                                     4                      ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                                                  7-8                    ช้อนโต๊ะ

(ใช้น้ำปลาไทยที่เป็นน้ำปลาแท้จะได้รสหอมแต่ไม่คาว)

น้ำเปล่า                                                 2                      ถ้วยตวง

อุปกรณ์ในการทำกิมจิ

อ่างผสมใหญ่ๆ

โหลหมักหรือไหที่มีฝาปิดมิดชิด

ทำเมนูกิมจิ

วิธีปรุง

-จะทำกิมจิให้อร่อยต้องเริ่มจากนำน้ำเปล่ากับเกลือมาละลายให้เข้ากันดีโดยกะปริมาณพอแช่มิด (เกลือที่แช่ใช้ต่างหากไม่ใช่เกลือที่ใช้ในการหมักกิมจิ)

-ใส่ผักกาดขาวที่หั่นไว้มาแช่ลงไปในน้ำเกลือ

-แช่ผักกาดขาวทิ้งไว้จนนิ่มหรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมง

-นำผักกาดขาวขึ้นมาพักที่อ่างสำหรับผสม

-หันมาทำส่วนผสมที่ใช้หมักโดยให้คุณใส่น้ำเปล่าลงในหม้อต้ม ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า พยายามคนไปเรื่อยๆ จนแป้งสุกข้น

วิธีทำกิมจิ

-พอแป้งสุกให้คุณใส่ส่วนผสมอื่นๆ ลงไปคือพริกเกาหลี น้ำปลา น้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เย็นตัว  

-เมื่อน้ำที่ผสมเย็นแล้วให้คุณนำมาใส่ในอ่างผสมที่มีผักกาดขาวนอนรอ

-ใส่ผักอื่นๆ ตามลงไปคือ หัวหอมใหญ่ ต้นหอมซอย กระเทียมบด ขิงบด

-นวดส่วนผสมให้เข้ากันโดยให้คุณออกแรงสักหน่อย

-นำกิมจิที่ได้มาใส่ในโหลแล้วปิดให้มิดชิด

-การหมักกิมจินั้น ถ้าอยากให้กิมจิออกเปรี้ยวเร็วๆ ให้คุณแช่ไว้นอกตู้เย็น 1 คืน จากนั้นจึงนำเข้าไปเก็บในตู้เย็นช่องปกติสัก 1-2 สัปดาห์ รสชาติก็จะกลมกล่อมลงตัว  

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ รีวิว ร้าน BAR – B – Q – PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ตัวจริงเรื่องปิ้งย่างฝั่งธนฯ ที่ไม่ควรพลาด

ร้าน BAR - B - Q - PLAZA
แนะนำร้านอาหาร

รีวิว ร้าน BAR – B – Q – PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ตัวจริงเรื่องปิ้งย่างฝั่งธนฯ ที่ไม่ควรพลาด

            ร้าน BAR – B – Q – PLAZA ตัวจริงอร่อยจริงเรื่องปิ้งย่าง สำหรับวันนี้เรามาตะลุยร้าน BAR – B – Q – PLAZAสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า โดยตั้งอยู่ข้าง ๆ ร้านเคเอฟซี เมื่อเราลงบันไดเลื่อนลงมาจากหน้าตัวห้าง (บันไดเลื่อนของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามีหลายจุด บันไดเลื่อนที่เรากล่าวถึงคือบันไดเลื่อนทางหน้าห้างที่เป็นบันไดเลื่อนลงมาถึงชั้น G เลย

ร้าน BAR - B - Q - PLAZA

ร้าน BAR – B – Q – PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กับความอร่อยที่คุณไม่ควรพลาด

เมื่อเราก้าวเข้าประตูห้างในชั้น G แล้วจะพบกับร้านเคเอฟซีก่อนทางซ้ายมือ ถัดจากร้านเคเอฟซีก็คือร้าน BAR – B – Q – PLAZAนี้เอง )ร้าน BAR – B – Q – PLAZAจะมีบางช่วงที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ส่วนช่วงที่เรามารับประทานกันนี้จะเป็นการสั่งแบบอาลาคราส (สั่งและคิดเงินตามมูลค่าอาหารที่รับประทาน) เมื่อมาร้านนี้กันแล้วเราขอแนะนำให้ทำบัตรสมาชิกกันก่อนเลย ซึ่งก็สมัครได้ง่ายมากเพียงแค่กรอกข้อมูลในไลน์

BAR - B - Q - PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า

จากนั้นเราก็จะได้รับหมายเลขสมาชิกเพื่อใช้เป็นส่วนลดในค่าอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย (ในอดีตบัตรสมาชิกนี้เราต้องเสียค่าสมาชิกด้วย แต่ในปัจจุบันไม่มีการเสียค่าบัตรสมาชิกแต่อย่างใด) จากนั้นเราก็สั่งอาหารกัน โดยวันนี้สมาชิกที่เรามารับประทานมีเดือนเกิดภายในเดือนนี้พอดี เราจึงใช้ชื่อของสมาชิกท่านดังกล่าวในการสั่งชุดวันเกิดซึ่งการใช้สิทธิ์นี้ต้องป็นสิทธิ์ของเจ้าของวันกิดที่เกิดภายในเดือนที่มารับประทานเท่านั้น ชุดวันเกิดอันคุ้มค่าเสิร์ฟอย่างแรกว่าด้วยเครื่องดื่มนั่นก็คือ น้ำแข็ง 1 ถัง และโค้ก 1 เหยือก

ร้าน BAR - B - Q - PLAZA สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า

จากนั้นก็มีคอนโดอาหาร 3 ชั้นมาส่ง เราเริ่มด้วยการนำมันหมูทารอบกระทะทองเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมเทน้ำซุปรอบกระทะทองเหลืองนี้ แล้วเติมผักกระหล่ำปลีซึ่งเติมได้ไม่อั้น จากนั้นเราก็เริ่มปิ้งย่างอาหารในคอนโดกันทั้งหมูสันนอก เบคอน กุ้ง หมึก แซลมอน นารุโตะ แครอท เส้นอุด้งที่เหนียวนุ่ม

นอกจากนี้ชุดดังกล่าวนังมีข้าวผัดกระเทียมถึง 2 ถ้วยเสิร์ฟมาพร้อมในชุดด้วย น้ำจิ้มของที่นี่รสชาติออกหวานเมื่อเราปรุงเพิ่มด้วยพริก กระเทียม มะนาวก็จะลงตัวพอดี เมื่อเรารับประทานอาหารคาวกันเสร็จก็มาต่อที่ขนมหวานอย่างไอติมวนิลา 2 ลูกเสิร์ฟมาในถ้วยวาฟเฟิลราดด้วยสตอเบอรี่ซอส ซึ่งยังคงอยู่ในชุดวันเกิด เรียกได่ว่า BAR – B – Q – PLAZA เป็นร้านปิ้งย่างที่อร่อยกันแบบครบรส

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ จับคู่ไวน์กับอาหาร อย่างไรให้เลิศ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับเคล็ดลับดี ๆ แบบนี้

จับคู่ไวน์กับอาหาร
เครื่องดื่ม

จับคู่ไวน์กับอาหาร อย่างไรให้เลิศ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับเคล็ดลับดี ๆ แบบนี้

จับคู่ไวน์กับอาหาร เรื่องของไวน์และอาหารถือเป็นศาสตร์ประเภทหนึ่งซึ่งมีเคล็ดลับและเทคนิคมากมายที่ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ มีทฤษฎีเล็กหน่อยที่เราควรรู้เกี่ยวกับศัพท์เทคนิคไวน์ คำศัพท์เหล่านี้ใช้เพื่ออธิบายแง่มุมต่าง ๆ ทำให้เราสามารถเข้าใจวิธีการจับคู่อาหารได้ง่ายขึ้น

จับคู่ไวน์กับอาหาร

เคล็ดลับการ จับคู่ไวน์กับอาหาร ที่ทุกคนควรรู้ จะมีอะไรบ้าง ?

คำศัพท์ไวน์ที่ควรรู้

 Acidity : ความเป็นกรด มีอยู่ในองุ่นทุกชนิด และมีบทบาทในการเก็บรักษาไวน์ ไวน์ที่มีรสชาติชัดกว่าจะมีระดับความเป็นกรดสูงกว่า

Body : ใช้อธิบายรายละเอียดรสชาติไวน์ เช่น ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์มาก เป็นไวน์ที่มีรสชาติที่แรง มีรสค้างอยู่ในลำคอเข้มข้นมากกว่า

Dry : ไวน์ที่ประกอบด้วยน้ำตาลน้อยมากจนถึงไม่มีเลย

Tannin : สารประกอบทางเคมีที่พบในเปลือกและลำต้นขององุ่น รวมถึงถังไม้บ่มไวน์ด้วย

จับคู่ไวน์กับอาหาร
  • ไวน์แดงและเนื้อวัว หนึ่งในเคล็ดลับพื้นฐานที่สุด จำง่ายที่สุด เหตุผลที่ไวน์แดงเข้ากันได้ดีกับเนื้อวัว โดยเฉพาะส่วนเนื้อแดง เช่น สเต๊ก เนื่องจาก ไวน์ทำให้โปรตีนในเนื้อนุ่มขึ้น ช่วยเพิ่มรสชาติของไขมัน เพิ่มความอ่อนตัวของเนื้อวัว โดยเกิดจากแทนนินซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่พบในไวน์แดง
ไวน์ขาวและไก่หรือปลา
  • ไวน์ขาวและไก่หรือปลา ไวน์ขาวเข้ากันได้ดีกับปลาหรือไก่ เพราะกรดในไวน์ช่วยเพิ่มรสชาติของเนื้อสัตว์ทั้งสองประเภท ทำให้รสชาติสดชื่นขึ้น  คล้ายกับการบีบมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ เนื่องจากความเป็นกรดนั่นเอง
ไวน์หวานและของหวาน
  • ไวน์หวานและของหวาน รสชาติที่ไปในทิศทางเดียวกันทำให้สองสิ่งนี้สามารถไปด้วยกัน เช่น ขนมหวานหรือทาร์ตจากผลไม้และไวน์หวาน กลิ่นผลไม้ในไวน์หวานยังสามารถเพิ่มความอร่อยของขนมได้ด้วย
ไวน์แดงและเนย
  • ไวน์แดงและเนย จานอาหารที่หนักไขมัน หนักเนย หนักน้ำมัน เช่นพาสต้า บัตเตอร์เค้ก นิยมรับประทานคู่กับไวน์แดง เนื่องจากไวน์แดงสามารถตัดรสเนยได้ และกลิ่นไวน์แดงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีกลิ่นที่หวานขึ้นเมื่อดื่มกับอาหารประเภทเนย
แชมเปญหรือสปาร์คกลิ้งไวน์กับของทอด
  • แชมเปญหรือสปาร์คกลิ้งไวน์กับของทอด ของทอดกรอบ หมูทอด ปลาทอด ไก่ทอด เฟรนซ์ฟราย หรืออื่นๆ เข้ากันได้ดีกับฟองฟู่ๆ ในแชมเปญหรือสปาร์คกลิ้งไวน์ นอกจากนั้นอาหารรสเค็มจากเกลือก็เหมาะกับเครื่องดื่มทั้งสองประเภทด้วย ช่วยตัดเลี่ยน ช่วยย่อย และยังทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น

จะเห็นได้ว่าหลักพื้นฐานของการจับคู่ไวน์และอาหารค่อนข้างจำง่ายๆ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นมือสมัครเล่นทำอาหารรับประทานในบ้านหรือตั้งใจจะเปิดร้านอาหารก็สามารถเริ่มลองศึกษาได้โดยจำหลักพื้นฐานเหล่านี้ สำหรับการแยกยี่ห้อไวน์ รูป รส กลิ่นสี โดยรายละเอียดปลีกย่อยต้องอาศัยประสบการณ์ ไม่แน่ว่าในอนาคตคุณอาจไม่หยุดอยู่เพียง ไวน์หวานต้องคู่กับของหวาน แต่อาจลงลึกไปอีกว่าควรเลือกกลิ่นน้ำผึ้ง หรือกลิ่นเชอร์รี่ เพื่อช่วยเสริมให้จานอาหารของคุณสมบูรณ์แบบมากที่สุด

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ นักหมักเบียร์ ที่มีเกณฑ์การวัดคุณภาพของเบียร์ การบ่งชี้ได้ว่าเบียร์นั้นดีหรือไม่ ?

นักหมักเบียร์
เครื่องดื่ม

นักหมักเบียร์ ที่มีเกณฑ์การวัดคุณภาพของเบียร์ การบ่งชี้ได้ว่าเบียร์นั้นดีหรือไม่ ?

นักหมักเบียร์ หากคุณเป็นคอเบียร์ตัวยง หรือกำลังมีความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจการทำเบียร์ คราฟต์เบียร์ หรือเบียร์ชนิดอื่นๆ แล้วละก็…ขอเชิญทางนี้ เพราะในอุตสาหกรรมการทำเบียร์ เราไม่สามารถประเมินคุณภาพเบียร์ด้วยความชอบส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียวได้ ซึ่งในวงการเบียร์เองก็มีเกณฑ์การวัดคุณภาพของเบียร์ที่ควรจะเป็นเช่นเดียวกัน การบ่งชี้ได้ว่าเบียร์นั้นดีหรือไม่ สามารถช่วยกำหนดเอกลักษณ์ให้เบียร์ได้ ทั้งยังสามารถต่อยอดถึงการจับคู่กับอาหารต่าง ๆ ได้ด้วย

นักหมักเบียร์

นักหมักเบียร์ เกณฑ์ที่ใช้ในการชิม และประเมินคุณภาพเบียร์ขั้นต้นของนักหมักเบียร์มืออาชีพ จะมีอะไรบ้าง ?

  • กลิ่น ในวงการนักหมักเบียร์ใช่คำว่า “Bouquet” แปลว่า “ดอกไม้” เป็นคำแทนของ “กลิ่น” เบียร์ ดังนั้นอย่าแปลกใจที่พวกมืออาชีพถามหาบูเก้ของเบียร์ชนิดต่าง ๆ เขาไม่ได้หมายถึงช่อดอกไม้จริง ๆ โดยคนทำเบียร์จะสังเกตกลิ่นของเบียร์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อทำออกมาแล้วมีกลิ่นใดที่โดดเด่น อาจเป็นกลิ่นผลไม้ หรือกลิ่นของแร่ธาตุบางอย่าง ซึ่งมักเป็นกลิ่นที่อวลเบา ๆ ไม่มากจนไปจึงถือว่าดีสำหรับเบียร์ และกลิ่นเด่นยังเป็นตัวชี้ว่าเบียร์ชนิดนั้น ๆ ควรจับคู่กับอาหารอะไร
  • ฟองเบียร์ มีคำกล่าวว่าเบียร์ที่ดีจะมีหัวฟองที่หนาจนฝาขวดสามารถลอยอยู่ด้านบนโดยไม่จม นั่นคือการทดสอบคุณภาพเบียร์ของสายการผลิต แต่ในความเป็นจริงเวลาที่เราดื่ม มักจะพยายามรินให้เกิดฟองน้อยเท่าที่จะเป็นไปได้ นับว่ามีความแตกต่างกัน
หมักเบียร์
  • สี ช่วงสีสันที่เหมาะสมของเบียร์คือ สีเหลืองโปร่งแสง ไปจนถึง สีอำพันโปร่งแสง (ในกรณีที่คุณไม่ได้เติมสีสันอื่นลงไป) โดยคุณสามารถวัดคุณภาพสีเบียร์ด้วยตนเองได้ด้วยการยกแก้วเบียร์ขึ้นตรง ๆ แล้วมองผ่านแสงสีไฟสีขาว ซึ่งเบียร์ที่มีสีสันประมาณนี้ถือว่าเหมาะสมที่จะดื่มในกิจกรรมทุกๆ วัน ไม่หนักจนทำให้แฮงก์ เช่น กินข้าวกับเพื่อน ดูบอล ไปร้านนั่งชิล เป็นต้น
  • ความนุ่ม ไม่ใช่ว่าจับแล้วนุ่มแต่อย่างใด แต่เป็นความลื่นคอ ละมุน กลมกล่อม (Smoothness) คุณจะพบว่าจริงๆ แล้วมาตรฐานของนักหมักเบียร์ก็ไม่ต่างจากนักหมักไวน์ ความนุ่มนวลของเบียร์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ในการจิบเพียงครั้งเดียว คุณต้องดื่มต่อทั้งขวดจึงจะเห็นว่าความนุ่มมีความสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคดื่มต่อได้มาก คอเบียร์มือใหม่อาจแยกไม่ค่อยออกว่าเบียร์แบบไหนคือเบียร์ที่นุ่มคอ แต่คอเบียร์ตัวยงที่ดื่มมาแล้วนับไม่ถ้วนเป็นเวลานานจะแยกได้ว่านี่แหละ “เบียร์เนื้อเนียน”
เบียร์ที่ดี
  • ค่าสัมประสิทธิ์การเมาสุรา ค่าสัมประสิทธิ์การเมาสุรา (Drunkening Coefficient) เป็นสิ่งที่คนหมักเบียร์ควรกำหนดและแยกให้ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ก็สัมพันธ์กับการหมักเบียร์ตั้งแต่แรกเริ่มว่าคุณตั้งใจจะขายเบียร์ราคาเท่าไร เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ควรเป็นเท่าใด ซึ่งถ้าลองดื่มแล้วเมาเร็ว เบียร์ขวดนั้นก็ควรมีราคาที่สูงขึ้น และไม่ควรเน้นขายจำนวนเยอะๆ แต่ถ้าเป็นเบียร์เพื่อการสังสรรค์ ดูบอลตามผับต่าง ๆ เบียร์ก็ควรมีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ที่อ่อนลงมา

ทั้งหมดนี้เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการชิมและประเมินคุณภาพเบียร์ขั้นต้นของนักหมักเบียร์มืออาชีพ ซึ่งถ้าคุณกำลังคิดที่จะศึกษาค้นคว้าในวงการนี้จะพบว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์ไม่น้อย ไม่ว่าจะรูป รส กลิ่นสัมผัส ความมีเอกลักษณ์ของเบียร์ ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่ครองในนักดื่มเสมอมา

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด แนะนำเมนูอาหาร และ Café สมุทรปราการ กับบรรยากาศที่ดีสุด ๆ ใกล้เมืองกรุง