อาหารมื้อเย็น ตอบโจทย์ความต้องการของร่างกายจริงหรือ
อาหารมื้อเย็น โดยปกติคนทั่วไปมักจะให้ความสำคัญของอาหารมื้อค่ำเป็นส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะเหนื่อยร่างกายมาทั้งวันแล้วอาหารมื้อค่ำยังมีเวลาในการรับประทานที่ค่อนข้างยาวนานกว่ามั้ง บางคนสังสรรค์มื้อค่ำตั้งแต่ตอนตะวันตกดิน ล่วงเลยไปจนถึง 23 ชั่วโมงก็ยังคงมีความสุขกับการรับประทานอาหารไม่ยอมหยุดโดยเฉพาะคนที่ชอบรับประทานเรื่องปิ้งย่างอาหารบุฟเฟ่ต์ แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ มักจะมีความเข้าใจกันอยู่เสมอว่าการรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์นั้นเราจะต้องใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีในการกินอาหารให้มากที่สุด กินเข้าไปให้ได้มากที่สุดถึงจะเรียกว่าคุ้มกับการรับประทานอาหารชนิดนี้
ในความเป็นจริงแล้วเรื่องราวของ Buffet นั้นไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงการกินปริมาณอาหารที่เยอะ แท้ที่จริงเป็นการบอกให้กับเราได้รู้ว่าเราควรจะได้ลิ้มรสอาหารทุกชนิดที่มีการบริการมาให้กับเรา เมนูอาหารเช้า อาหารที่สำคัญมาก ๆ ได้รู้ถึงอาหารนานาชนิดที่เราไม่สามารถ รับประทานมื้อเดียวพร้อมกันครั้งละมากๆ ได้ กันรับประทานบุฟเฟ่ต์ของจริงนั้นเราจะต้องเก็บเกี่ยวความรู้สึกดีต่ออาหารที่มีอยู่ตรงหน้าให้ทั้งหมด ถึงจะเรียกว่าเป็นวิธีการทานบุฟเฟ่ต์ที่ถูกต้อง
ความสำคัญของ อาหารมื้อเย็น แท้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องรับประทานก็ได้
ความสำคัญของอาหารมื้อเย็นแท้ที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารก็สามารถที่จะอยู่ได้ บางคนหลัง 18:00 น ไม่มีการรับประทานอาหารชนิดใดเพิ่มเติมเป็นการฝึกตนเองให้รู้จักพอและเป็นการงดนำไขมันหรือแป้งเข้าสู่ร่างกาย หรือบางคนอาจจะเป็นเพียงแค่การรับประทานผักผลไม้เล็กน้อยให้รู้สึกดีขึ้น ไม่มีการบริหารท้องเล็กน้อยไม่รู้สึกร่างกายหิวโหยจนเกินไป การได้รับประทานผักผลไม้ที่มีความหวานเล็กน้อยจะทำให้ร่างกายรู้สึกดีและทำให้มีความสุขสดชื่นในตัวเองเป็นอย่างมาก
อาหารมื้อเย็นควรทานแต่พอเหมาะเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ในความเป็นจริงแล้วอาหารมื้อเย็นนั้นเราควรจะรับประทานแต่พอเหมาะ ไม่ควรที่จะรับประทานมากจนเกินไปในความเป็นจริงอาหารมื้อนี้เป็นการนำเข้าสู่ร่างกายและเก็บสะสมไว้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ เลยก็ว่าได้ถึงแม้ว่าเราจะต้องทำงานหนักจนถึง 23:00 น หรือเที่ยงคืน ร่างกายก็แทบจะไม่ได้นำอาหารส่วนนี้มาใช้เลยยังเป็นการใช้พลังงานจากอาหารมื้อเที่ยงที่เรารับประทานเข้าไป เราควรวางแผนในการใช้ชีวิตกันใหม่ลดมื้อเย็นลงสักนิด แล้วไปสนุกสนานกับมื้อกลางวันเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ให้กับชีวิตมากกว่า
- Black Pudding ไส้กรอกดำสุดอร่อยจากอังกฤษอาหารชื่อดังที่แพร่หลาย
- เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สอนทำยำมะระสดง่ายๆ แต่รสชาติอร่อย
- Rendang อาหารที่คล้ายแกงแต่ไม่ใช่แกง เนื้อสัตว์ที่ไปต้มในน้ำกะทิ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
- ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
วิธีทํา เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้ม กรอบนุ่มน่ากินถูกใจเด็ก ๆ กินได้แบบเพลิน ๆ
เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้ม คงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ของเหล่าบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่จะต้องทำหน้าที่ในการกำกับดูแลบุตรหลานของคุณในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอาหารการกิน จะเป็นปัญหาน่าหนักใจของกลุ่มผู้ปกครองในลำดับต้น ๆ กันเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารในรูปแบบใด ๆ คงจะหาที่ถูกปากถูกอกถูกใจกันได้โดยยาก ในวันนี้เราจึงจะมีคำแนะนำการทำอาหารง่าย ๆ เพื่อเป็นการดึงดูดจูงใจให้บุตรหลานของคุณ อยากจะรับประทานอาหารขึ้นมากันเลยทีเดียว จากเมนู อาหารเด็ด เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้มการใช้มันฝรั่งที่มีคุณค่ามีสารอาหารที่เหมาะสม นำมาแปรรูปนำมาเข้าสู่กระบวนการส่งผลลัพธ์ ให้บุตรหลานของคุณอยากจะรับประทานอาหารขึ้นมาทันใด
เริ่มต้นการทำ เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้ม ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ
สำหรับในส่วนแรกนี้ เราจะเริ่มให้มีการจัดเตรียมวัตถุดิบในการทำ เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้มกันก่อน ซึ่งเราจะมีการจัดเตรียม มันฝรั่งที่ได้ผ่านกระบวนการนึ่ง แป้งข้าวโพด เครื่องจิ้มจากบีทรูท ทานกับมันฝรั่งทอด เครื่องปรุงรสเพิ่มรสชาติทั้งจาก เกลือป่น พริกไทย และน้ำมัน ที่ใช้สำหรับทอดในปริมาณที่เหมาะสม
จากขั้นตอนการทำ เฟรนช์ฟรายหน้ายิ้มให้นำมันฝรั่งที่เราได้มีการนึ่งสุก เป็นที่เรียบร้อย นำมาบดให้ละเอียดลงในภาชนะหลังจากนั้น จึงทำการเติมส่วนผสมของแป้งข้าวโพด มีการเติมเกลือกับพริกไทย เพื่อเพิ่มรสชาติแล้วให้มีการนวด ให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันเมื่อเรานวด ส่วนผสมทั้งทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกันหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงนำมาคลึงมานวดให้เป็นแผ่นบาง ๆ ในขนาดพอดีรับประทานเมื่อได้ขนาดได้เหมาะสม จึงทำการหาแม่พิมพ์เป็นวงกลมมากดทับ ให้ออกมาเป็นชิ้นกำลังดี
หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตกแต่งหน้าตา จากการใช้ตะเกียบ หรือใช้วัสดุใด ๆ ที่เจาะเป็นรูปดวงตาของเฟรนช์ฟรายหน้ายิ้ม มีการใช้ช้อนทำเป็นรูปปากยิ้มให้ดูสวยงาม เมื่อจัดการรายละเอียดต่าง ๆ ของวัตถุดิบได้เป็นที่เรียบร้อย ก็จะเข้าสู่กระบวนการในการทอดเราจะเริ่มต้น ด้วยการตั้งน้ำมันทอดให้มีความร้อน ในระดับปานกลาง หลังจากนั้นจึงนำรูปหน้ายิ้มของเราที่ทำมาจากมันฝรั่งลงไปทอด จนมีความกรอบสีสวยตักขึ้นมาพักน้ำมันสะเด็ดน้ำ ให้เรียบร้อย
ให้มีการจัดจานโดยมีการเสิร์ฟคู่กันกับซอสมะเขือเทศ มายองเนส หรือซอสอื่น ๆ ที่จะถูกอกถูกใจให้กับเหล่าบรรดาผู้รับประทานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กเล็กกันนั่นเอง และที่สำคัญในการเฟรนช์ฟรายหน้ายิ้ม ในโต๊ะอาหาร ควรจะมีการเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อโภชนาการของผู้รับประทานในกลุ่มเด็ก ๆ ทั้งการจัดเตรียมอาหารในประเภทเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ ให้เป็นการรับประทานอาหารในมื้อนั้น มีสารอาหารที่มีความครบถ้วน
- Black Pudding ไส้กรอกดำสุดอร่อยจากอังกฤษอาหารชื่อดังที่แพร่หลาย
- เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สอนทำยำมะระสดง่ายๆ แต่รสชาติอร่อย
- Rendang อาหารที่คล้ายแกงแต่ไม่ใช่แกง เนื้อสัตว์ที่ไปต้มในน้ำกะทิ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
- ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
ผัดไทยกุ้งสด น้ำซอสเข้มข้น เส้นนุ่มน่าทานทำเองง่าย ๆ จากที่บ้าน
ผัดไทยกุ้งสด ถือได้ว่าเป็นมื้ออาหารอันเลิศรส และเรื่องชื่อกระฉ่อนดังไปทั่วทุกมุมโลก จะเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ชาวต่างชาติ หากได้แวะเวียนมาเยือนที่เมืองไทย ต้องสั่งทาน ผัดไทยกุ้งสดกันอยู่เป็นประจำ โดยในวันนี้เราจะมีคำแนะนำขั้นตอนง่าย ๆ สอนให้คนทำ ผัดไทยกุ้งสดรสชาติถูกปาก สามารถรับประทานเองทำเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปไหน ลองมาดูกันเลยสิว่าการทำ ผัดไทยกุ้งสดด้วยขั้นตอนง่าย ๆ อาหารอร่อย ที่เราจะให้รายละเอียดกับท่านนั้น มีขั้นตอนเป็นเช่นไรบ้าง
สอนทำ ผัดไทยกุ้งสด อาหารไทยยอดนิยมที่ทานแบบไม่มีเบื่อ
ในกระบวนการแรก เราต้องมีการจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อใช้ในการทำ ผัดไทยกุ้งสดกันก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ววัตถุดิบ ที่มีการให้ข้อมูลนั้นจะหาได้โดยง่ายจากทางพื้นที่ทั้งจากทางตลาด เมนูผัดไทยกุ้งสด เมนูขึ้นชื่อของประเทศไทย หรือร้านค้าร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีเส้นผัดไทย เส้นจันทร์กุ้งสด เต้าหู้แข็ง กุ้งแห้ง ถั่วงอกดิบ ใบกุยช่าย ไข่ไก่ ถั่วลิสง ไชโป๊ น้ำมัน ผักสด
ขั้นตอนในการทำผัดไทยกุ้งสด
ในส่วนนี้ เราจะเริ่มต้นด้วยการทำน้ำผัดไทยที่คุณต้องการกันก่อน จากการใช้น้ำตาลปี๊บ มีการผสมรวมกันกับน้ำมะขาม โดยให้ได้ปริมาณอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ และมีการเติมน้ำปลา มีการใส่พริกป่น ตามความเหมาะสมคนส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันให้พออุ่น หรือมีความร้อนให้เกิดการละลายของน้ำตาลปี๊บ และส่วนผสมต่าง ๆ ที่ได้มีการเติมลงไปจนกลายเป็นซอส ผัดไทยกุ้งสดที่ได้รสชาติที่ถูกปากกันกับตัวคุณ หลังจากนั้นจึงนำเส้นที่คุณได้จัดเตรียมไว้ลงไปผัด
ในลำดับต่อไปให้ทำการจัดเตรียมในส่วนของกุ้งสด นำลงไปผัดให้สุกพอดีหลังจากนั้น จึงตักใส่จานนำเต้าหู้แข็งลงไปผัดต่อให้เกิดความเหลืองมีความกรอบ ใส่ไชโป๊สับเติมน้ำซอสผัดไทยกุ้งสด คลุกเคล้าให้เข้าเครื่อง หลังจากที่ซอสเริ่มมีความเดือดได้เต็มที่ จึงเติมเส้นผัดไทยที่ได้ผัดทิ้งไว้ลงไปผัดต่อคลุกเคล้า ให้เข้ากันให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้น จึงมีการแบ่งเส้น ผัดไทยกุ้งสดแยกออกมาแล้วทำการตอกไข่คนให้ทั่วในกระทะ นำเส้นที่ได้เตรียมไว้ลงไปผัดคลุกเคล้า ให้เข้ากันเมื่อส่วนผสมต่าง ๆ คลุกเค้ามีการสุกได้ที่โดยทั้งหมดจัดแต่งใส่จานให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้เมนู ผัดไทยกุ้งสดอาหารเลิศรสที่สามารถทำได้โดยง่าย ด้วยฝีมือของคนสามารถรับประทานได้เองที่บ้าน ปรุงแต่งรสชาติตามใจชอบกันได้แล้ว
- Black Pudding ไส้กรอกดำสุดอร่อยจากอังกฤษอาหารชื่อดังที่แพร่หลาย
- เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สอนทำยำมะระสดง่ายๆ แต่รสชาติอร่อย
- Rendang อาหารที่คล้ายแกงแต่ไม่ใช่แกง เนื้อสัตว์ที่ไปต้มในน้ำกะทิ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
- ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
ตำข้าวโพด รสชาติจัดจ้าน ดีต่อสุขภาพสำหรับคนที่กำลังจะลดน้ำหนัก
ตำข้าวโพด ในกลุ่มอาหารรสชาติจัดจ้าน ในประเภทตำเราคงนึกถึงส้มตำ ที่มีการแตกแขนงออกมาเป็นไปในหลาย ๆ เมนูด้วยวัตถุดิบหลักแล้ว อาจจะจินตนาการนึกถึงได้กับมะละกอ และน้ำปลาร้า ที่เป็นตัวชูโรงในขณะเดียวกัน เราจะพบด้วยถึงการประยุกต์ความหลากหลายของเมนูในประเภทตำในส่วนนี้ ซึ่งเราจะพบได้ถึงการแปรเปลี่ยนวัตถุดิบอื่น ๆ เข้ามาทดแทนเส้นมะละกอ ทั้งจากการใช้ถั่ว ผัก มะเขือเทศ ผลไม้ในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยความโดดเด่นของอาหารที่น่าสนใจ ที่เราจะขอแนะนำให้ท่านได้ทราบวันนี้นั้นก็คือ อาหารอร่อย ตำข้าวโพดอีกหนึ่งเมนูอาหารที่รสชาติจัดจ้าน ไม่แพ้กันกับการรับประทานส้มตำ ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของคนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักกันอีกด้วย
สอนทำ ตำข้าวโพด ด้วยวิธีง่าย ๆ ไว้ทานเองช่วงกักตัวโควิด
ขั้นตอนแรกเราจะมาจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำ ตำข้าวโพดกันก่อน ส้มตำกรอบ ใส่กุ้ง รสเด็ดชวนน่าทาน ซึ่งจะมีการจัดเตรียมในส่วนของข้าวโพดต้ม แอปเปิ้ล แครอท มะเขือเทศ มะเขือเทศสีดา น้ำมะนาว มะพร้าว กระเทียม น้ำปลา พริกขี้หนู ถั่วลิสง น้ำตาล
เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ได้พร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้ามาสู่กระบวนการในการทำ ตำข้าวโพดหลังจากที่เรานำเข้าโพดไปต้มจนสุกเรียบร้อย ให้ทำการหั่นเอาแต่เฉพาะเนื้อข้าวโพด พักรอไว้แล้วจากนั้นจึงเริ่มตำพริกขี้หนู กับกระเทียมให้แหลกในครบในส่วนนี้ เราอาจจะเลือกจำนวนพริก ให้มีปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณได้
หลังจากนั้นจึงมีการปรุงรสชาติด้วยการใส่น้ำตาลมะพร้าว มีการเติมน้ำปลา น้ำมะนาว ให้ได้รสชาติให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม โดยรสชาติ ที่ควรจะออกมานั้นจะออกเป็น รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เมื่อได้รสชาติของน้ำ ที่ได้มีการปรุงรสได้กลมกล่อม จึงนำส่วนผสมอื่น ๆ ใส่ลงไปทั้งจาก ข้าวโพด มะเขือเทศ แอปเปิ้ล แครอท ใส่ถั่วฝักยาวตามความเหมาะสม หรืออาจจะมีการเติมเครื่องเคียงอื่น ๆ ลงไปอีกด้วยก็สามารถ ทำได้เมื่อส่วนผสมทุกอย่างลงตัว กันกับรสชาติน้ำซอส ที่ได้จัดทำเอาไว้ก็ตักใส่จานพร้อมรับประทานกันได้โดยทันที ท่านจะได้รับรสชาติการรับประทานตันข้าวโพด ที่มีความจัดจ้านมีรสออกเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด
ในการทำ ตำข้าวโพดที่เราได้ให้คำแนะนำวิธีการทำกันไปแล้วนั้น จะเป็นการทำการปรุงแต่งรสชาติที่เหมือนกันกับการทำส้มตำไทย ในกรณีที่คุณอยากจะเติมรสชาติที่มีความแตกต่าง อาจจะมีการใส่น้ำปลาร้า อาจจะมีการใส่ปูนา ปูดำเข้าไปเป็นส่วนผสม ที่จะให้รสชาติให้เอกลักษณ์ ในการรับประทานตำข้าวโพด ในมื้อนั้นมีอรรถรสที่แตกต่าง มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นตามความพึงพอใจของท่านได้อีกด้วย จากการรับประทาน ตำข้าวโพดเราจะเห็นได้ถึงวัตถุดิบส่วนผสม ที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นพืชผักผลไม้ในการรับประทานอาหารในมื้อนี้ จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีคล้ายกันกับการรับประทานสลัดผัก โดยทั่วไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพห่างไกล จากโรคร้าย
- Black Pudding ไส้กรอกดำสุดอร่อยจากอังกฤษอาหารชื่อดังที่แพร่หลาย
- เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สอนทำยำมะระสดง่ายๆ แต่รสชาติอร่อย
- Rendang อาหารที่คล้ายแกงแต่ไม่ใช่แกง เนื้อสัตว์ที่ไปต้มในน้ำกะทิ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
- ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
สอนสูตรเด็ด ซอสผัดกระเพรา รสชาติไม่มีเปลี่ยน เก็บไว้ใช้ที่บ้านของตัวคุณเอง
ซอสผัดกระเพรา ผัดกระเพราจะเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอยู่ ในลำดับต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ สำหรับร้านอาหารตามสั่ง หรือร้านอาหารโดยทั่วไป ก็จะปรากฏให้เห็นเมนูผัดกระเพรานานาชนิด ที่จะมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบตามแต่ทางร้านค้า จะได้มีการออกไอเดียมาด้วยความนิยม ในการรับประทานผัดกระเพรา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีความชื่นชอบ จากรสชาติที่มีความจัดจ้านมีความเผ็ดร้อน จากพริกกระเทียม หรือ ยังจะได้รับกลิ่นหอม จากใบกระเพรา ซึ่งจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว เมื่อได้มีการทานควบคู่กันกับข้าวสวยร้อน ๆ อาหารอร่อย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่เรียบง่าย
แต่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้คน ในบ้านเราได้เป็นอย่างดี ในการทำผัดกระเพราให้อร่อย สิ่งสำคัญของผู้ปรุงรสชาตินั้นจะต้องมีน้ำหนักมือ ในการกะปริมาณสัดส่วนของส่วนผสมเครื่องปรุงให้ลงตัว และพอดี ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง สำหรับผู้ที่นิยม ในการผัดกระเพราด้วยตนเองอาจจะมีความคลาดเคลื่อน หรืออาจจะเรียกได้ว่ามีรถมือที่ไม่นิ่งหากเป็นเช่นนั้นจึงมีความนิยมเลือกที่จะทำ ซอสผัดกระเพราขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรสชาติที่มีความเที่ยงตรงแน่นอนโดย ในวันนี้เราจึงจะมีคำแนะนำสอนให้ทุกท่านได้ทำการเรียนรู้วิธีทำ ซอสผัดกระเพราเก็บไว้ใช้ที่บ้านของตัวคุณเอง ซึ่งเรารับประกันได้ว่าการทำ เมนูกระเพราขาหมู แสนอร่อย ในแต่ละครั้งคุณจะได้รสชาติที่คุณคุ้นเคย และชื่นชอบเหมือนกันหมด ในทุก ๆ เมนู
ขั้นตอนการทำ ซอสผัดกระเพรา แบบเข้มข้น
สำหรับในขั้นตอนแรกนี้ เราจะทำการจัดเตรียมเครื่องปรุงรสที่จะทำ ซอสผัดกระเพรากันก่อน ซึ่งจะมีส่วนผสมเครื่องปรุงที่หาได้โดยง่าย ในครัวของบ้านเรา จากรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซอสซีอิ๊วขาว ปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ ซอสแบบฝาเขียว ปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย ปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ปริมาณ 6-7 ช้อนชา น้ำเปล่า ปริมาณ 10-12 ช้อนโต๊ะ
หลังจากนั้นจึงนำส่วนผสมต่าง ๆ มาเทรวมกันลงไป ในหม้อ หรือกระทะที่ตั้งไฟ ในระดับปานกลางจนเริ่มเดือดจัด ให้เราทำการเคี่ยวไปเรื่อย ๆ สักพักหนึ่งหลัง จากนั้นจึงทิ้งไว้ให้เย็นทำการบรรจุลง ในบรรจุภัณฑ์ หรือขวดที่ง่ายต่อการใช้ ในการปรุงอาหารน้ำซอส ในส่วนนี้เราจะสามารถจัดเก็บแช่เย็นเอาไว้ได้ ซึ่งจะสามารถยืดอายุการใช้งาน ในการรับประทานได้เป็นเดือน จากการที่ท่านได้ทำการปรุงรสชาติของ ซอสผัดกระเพราได้เป็นที่เรียบร้อยท่าน ก็จะได้ปริมาณน้ำซอสจำนวนหนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้ ในการผัดกระเพราที่จะให้รสชาติไม่แปรเปลี่ยนไป ในทุก ๆ เมนู
ส้มตำกรอบ ใส่กุ้ง รสเด็ดชวนทานเมนูอาหารยอดฮิตที่สุดในปี 2022
ส้มตำกรอบ ใส่กุ้ง รสเด็ดน่าทานเมนูถูกใจสาวๆ ที่ชอบทานส้มตำเป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้ เปลี่ยนจากเมนูส้มตำปูปาร้า มาลองทำส้มตำกรอบใส่กุ้ง น่าทานกันดีว่าค่ะ แต่ก่อนจะไปดูวิธีทำกันมาดูสรรพคุณของส้มตำกรอบใส่กุ้งกันดีว่า ว่ามีคุณสมบัติและประโยชน์น่าทานขนาดไหนกัน กุ้งช่วยในการลดน้ำหนักใครที่กินคลีนเมนูนี้ได้นะค่ะ มันกุ้งช่วยยับยั้งน้ำหนักได้ดีเลยค่ะ ส่วนมะละกอ เหมาะกับแม่ๆ ที่พึ่งคลอดน้อง ช่วยเพิ่มน้ำนมได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบำรุงสมองและยังช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้นลดอาการท้องผูกได้ดี ปัสสาวะได้ดีอีกด้วย เห็นสรรพคุณและประโยชน์ของเมนูส้มตำกรอบใส่กุ้งกันแล้ว อย่ารอช้าค่ะ ไปเตรียมวัตถุดิบการทำกันเลยดีกว่าค่ะ
มาชวนทำ ส้มตำกรอบ ใส่กุ้ง ไว้ทานเองที่บ้านแบบไม่ต้องไปรอคิวที่ร้าน
วัตถุดิบการเตรียมทำ อาหารเด็ด ส้มตำกรอบใส่กุ้งมีขั้นตอนการทำดังนี้
- น้ำปลาแท้ ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำโซดา ปริมาณ 1 ถึง 2 ถ้วยตวง (แช่เย็น)
- กุ้งสด จำนวน 6 ตัว (แกะเปลือกผ่าเส้นดำหลังออก)
- มะละกอ 1 จาน (ขูดเป็นเส้นๆ)
- แครอท 1 จาน (ขูดเป็นเส้นๆ)
- ถั่วลิสงคั่ว ปริมาณ 1 ช้อนโต้ะ
- พริกขี้หนูสวนจำนวน 5 เม็ด
- ถั่วฝักยาวจำนวน 1 กรัมมือหยิบ (หั่นเป็นท่อนชิ้นพอดีคำ)
- แป้งอเนกประสงค์ ปริมาณ 1 ถ้วย
- มะเขือเทศ จำนวน 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- กุ้งแห้ง ปริมาณ 1 ช้อนโต้ะ
- กระเทียมสด จำนวน 3 กลีบ
วิธีการทำส้มตำกรอบใส่กุ้ง ให้อร่อยมีขั้นตอนการทำดังนี้ ทำคล้าย ๆ กับเมนู ส้มตำไทย รสเด็ดสุดยอดของความอร่อยทานเมื่อไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
- นำเส้นมะละกอและแครทที่หั่นเป็นเส้นเสร็จแล้วไปแช่เย็นเพื่อเพิ่มความกรอบ
- นำแป้งอเนกประสงค์และแป้งทอดกรอบ ลงชามสำหรับผสมน้ำโซดาเย็นๆ ผสมให้ทั่ว ช่วยให้เส้นฟูและดูน่าทานมากยิ่งขึ้นด้วย
- และตามด้วยใส่เส้นมะระกอและเส้นแครทผสมไปในแป้งกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากันให้หมดทุกอย่าง
- เตรียมตั้งกระทะ ตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันลงไปพอประมาณ นำเส้นมะระกอและเส้นแครทตามลงไปทอด ทอดจนมีสีเหลืองกรอบ ส่งกลิ่นหอมจากนั้นตักใส่จานพักทิ้งไว้ก่อน
- จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดลวกกุ้งพอกุ้งสุกตักใส่จานพักไว้ก่อน
- ต่อไปทำน้ำยำ นำกุ้งแห้ง กระเทียม และพริกกี้หนูสวนตำให้แหลก จากนั้นใส่ผักถั่วยาวแต่ไม่ต้องตำละเอียดมากพอแตก ปรุงรสด้วยน้ำปลาแท้ น้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้ทั่วให้ทุกอย่างละลายเข้าหากัน ปรุงแต่งเพิ่มเติมตามใจชอบ
- ตามด้วยใส่กุ้ง มะเขือเทศ ให้ทั่วน้ำยำ สุดท้ายใส่ถั่วลิสง เป็นอันว่าเสร็จแล้วค่ะ
ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน รสอร่อยอาหารพื้นบ้าน ลงทุนไม่กี่บาทก็ทำเมนูกินได้แล้ว
อาหารพื้นบ้าน ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน อาหารอร่อยทำง่าย ลงทุนไม่กี่บาทก็ได้แกงหม้อใหญ่กินได้ทั้งครอบครัว การเลือกซื้อวัตถุดิบก็หาง่าย ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ของร่างกายมากด้วย ในส่วนของปลาที่มีประโยชน์ ที่ทานแล้วมีประโยชน์ต่อสมองบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เป็นอาหารที่ลดความอ้วนได้ดีมีไขมันน้อยกว่าสัตว์อื่นๆ และยังช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้นด้วยค่ะ สรรพคุณของใบมะขามช่วยในการเจริญอาหารแก้ร้อนใน และลดความดันโลหิต แก้ท้องเดิน แก้พิษสุรา และช่วยฟอกโลหิตได้ดี ข้อดีของเมนูต้มยำปลาช่อนใบมะขาม อาหารอร่อยไม่ลองทำไม่ได้แล้วค่ะ
เคล็ดลับการเตรียมทำเมนู ต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อน ให้อร่อยซดน้ำแกงแบบหมดหม้อ
- ปลาช่อนจำนวน 1 ตัว แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ (หั่นเป็นท่อนๆ เป็นชิ้นพอดีทาน)
- ข่า จำนวน 1 หัว (หั่นเป็นชิ้นบางๆ )
- ตะไคร้ จำนวน 1 ต้น (หั่นเป็นท่อนๆ)
- พริกขี้หนูสวน จำนวน 4 ถึง 5 เม็ด (ตำให้หยาบๆ )
- ผักชีฝรั่ง จำนวน 1 ต้น (ซอยเป็นหยาบๆ )
- เห็ดฟาง จำนวน 1 ถ้วย (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ )
- มะเขือเทศ จำนวน 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- พริกทอด จำนวน 3 เม็ด
- ใบมะกรูด จำนวน 4 ถึง 5 ใบ
- หอมแดง จำนวน 3 หัว
- ผักชีฝรั่ง จำนวน 1 ต้น (หั่นเป็นหยาบๆ)
- ใบมะขามอ่อน จำนวน 1 หยิบมือ
- น้ำมะนาว ปริมาณ 3 ช้อนโต้ะ
- น้ำมะขามเปียก ปริมาณ1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อนอาหารอร่อย มีขั้นตอนการทำดังนี้
- เตรียมตั้งหม้อใส่น้ำลงไปต้มน้ำให้เดือด ใส่ปลาช่อนลงไปต้มด้วยไฟปานกลางพอปลาช่อนสุกได้ดี ตักใส่จานพักไว้ก่อน
- เตรียมตั้งหม้อ ใส่น้ำลงไปครึ่งหม้อ ต้มด้วยไฟปานกลาง จากนั้นใส่ ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดลงไปต้ม ต้มจนกลิ่นสมุนไพรส่งกลิ่นหอมออกมา ใส่พริกขี้หนูสวน หอมแดง และใบมะขามอ่อนลงไป และเห็ดฟาง ลงไปต้ม
- ตามด้วยใส่เครื่องปรุงรส เช่นน้ำปลาและน้ำมะขามเปียก
- เตรียมใส่ปลาช่อน พริกแห้ง มะเขือเทศและผักชีฝรั่งลงตามไป
- ปรุงแต่งรสชาติตามใจชอบ ขาดอะไรเติมลงไปได้เลย
- พอได้รสชาติที่ชอบแล้วตักใส่ถ้วยใส่น้ำมะนาวหรือบีบมะนาวเป็นอันว่าตักใส่ชามพร้อมเสริฟ์ได้เลยค่ะ
เป็นอันว่าได้เมนูต้มยำปลาช่อนใบมะขามอ่อนอาหารอร่อยทานแบบง่ายๆ แล้วค่ะ อย่ารอให้ความยากมาทำหลายการทำอาหารนะค่ะ ถ้าไม่ฝึกทำก็จะไม่ได้และพลาดของอร่อยๆ ไปทานนะค่ะ
- Black Pudding ไส้กรอกดำสุดอร่อยจากอังกฤษอาหารชื่อดังที่แพร่หลาย
- เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ สอนทำยำมะระสดง่ายๆ แต่รสชาติอร่อย
- Rendang อาหารที่คล้ายแกงแต่ไม่ใช่แกง เนื้อสัตว์ที่ไปต้มในน้ำกะทิ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
- ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
แกงจืดสับปะรด แกงดีมีประโยชน์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่มีสรรพคุณมากมาย
แกงจืดสับปะรด มีประโยชน์ เมนูนี้แอดเชื่อว่าไม่ค่อยมีคนทำทานค่ะ หรือบางคนไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ มาดูประโยชน์จากแกงจืดสับปะรด แกงดีมีประโยชน์จากสับปะรดให้สรรพคุณมากมายเช่น มีวิตามินซี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 ช่วยในการขับปัสสาวะ โรคนิ่ว ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ช่วยลดเสมหะในลำคอ และยังช่วยบำรุงผิวพรรณใหดูสดใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีผักต่างๆ ที่ให้คุณประโยชน์เห็นแบบนีแล้วพร้อมทำทานกันหรือยังค่ะ ทำเมนูแปลกๆ ให้ลูกทานบางเพื่อการเจริญอาหารได้ดีอีกด้วยด้วยค่ะ
วัตถุดิบในการเตรียม อาหารเด็ด ทำแกงจืดสับปะรด มีประโยชน์ มีดังนี้
- เม็ดตั้งฉ่าย ปริมาณ1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอม จำนวน 1 ต้น (หั่นเป็นท่อนๆ)
- ผักชี ปริมาณ1 ช้อนโต้ะ (ซอยให้ละเอียด)
- เกลือป่น ปริมาณ 1 ช้อนชา
- ซอสถั่วเปลือง 2 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้ไข่ จำนวน 1 ชิน (หั่นเป็นท่อนๆ)
- สับประรด ปริมาณ 1 จาน (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- ซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ปริมาณ 1 จาน (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- แครอท ปรมาณ 5 ถึง 6 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- กุ้งแห้ง ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปกระดูกหมู ปริมาณ 1 ถ้วย
- กระดูกซี่โครงส่วนเล้ง จำนวน 5 ถึง 6 ท่อน
วิธีการทำแกงจืดสับปะรด มีประโยชน์ มีขั้นตอนการทำดังนี้
- เตรียมตั้งหม้อน้ำใส่กระดูกหมูลงไป ต้มจนเดือด ใส่ซี่โครง เล้ง แกงเทโพหมูย่าง สูตรแกงแบบเข้นข้นน่าทานอาหารสมัยคนรุ่นเก่า ตามด้วยเกลือป่นหยิบปลายนิ้วมือด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 4 ชั่วโมงตักฟองออกเรื่อยๆ ให้น้ำซุปใส
- เมื่อน้ำซุปได้ที่แล้ว ใส่กุ้งแห้ง และเม็ดตั้งฉ่ายตามลงไป ปรุงแต่งรสชาติตามที่เราต้องการได้เลย
- ใส่เต้าหู้ไข่ตามลงไป และสับปะรดพอ ได้กลิ่นหอมมีรสของสับปะรดแล้ว เป็นอันว่าเสร็จตักใส่ชามแต่งหน้าด้วยผักชีต้นหอมโรยหน้าให้สวยงามเป็นว่าเสร็จ แกงจืดสับปะรด แกงดีมีประโยชน์
เคล็บการทำแกงจืดสับปะรด ให้อร่อยมีดังต่อไปนี้ การเลือกซื้อซี่โครงหมูต้องเป็นซี่โครงหมูที่สะอาดและเป็นซี่โครงหมูที่สดห้ามเลือกแบบเก่าและออกเป็นสีเขียวมาเด็ดขาดจะทำให้มีกลิ่นติดมาในแกงจืดและการเลือกใช้สับปะรดต้องเลือกสับปะรดที่ไม่สุกหรือดิบเกินไปจะทำให้เละและไม่อร่อยเพราะพอทำจะได้รสชาติของสับปะรดอยู่แล้วการเลือกซื้อสับปะรดนั้นเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างมากการต้มแกงจืดสับปะรดต้องมีรสชาติมที่เปรี้ยวนำ จะทำให้อร่อยและได้รสชาติจริงๆ ไว้ทานแบบอร่อยในช่วงที่กำลังลงทุนกับ slot777 ได้แบบเต็มอิ่ม หากทำหวานเกินไปจะไม่อร่อยเคล็บลับง่ายๆ ไปลองทำให้คนในครอบครัวทานรับรองติดใจแน่นอนค่ะ
ชวนทำ เมนู ไข่ดาวในไส้กรอก ได้ทั้งความอร่อยและอิ่ม
เมนู ไข่ดาวในไส้กรอก สำหรับใครที่เป็นคนรักไข่ทอด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเมนูธรรมดาแต่ก็อร่อยนะมีความแปลกใหม่ได้ทั้งเนื้อและไข่ในเวลาเดียวกัน ทำได้ไม่ยากแถมสนุกอีกด้วย เป็นเมนูง่าย ๆ แต่สร้างสวรรค์ที่ไม่ว่าผู้ใหญ่ก็ทานได้ เด็กก็ทานดี ทานเล่นก็อร่อยทานกับข้าวก็อิ่มได้ มันเป็นความเข้ากันระหว่างไข่ดาวกับไส้กรอกเหมือนกับนะ ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อเลย ถือว่าเป็นเมนูรอดตายสำหรับหนึ่งมื้อเลยก็ว่าได้ถ้าหากวันนี้ไม่รู้ว่าจะทานอะไรดี เอาล่ะ เรามาดูวัตถุดิบและวิธีทำกันเถอะ
เคล็ดลับเมนูง่าย ๆ ได้ในเวลานิดเดียว เมนู ไข่ดาวในไส้กรอก
วัตถุดิบสำหรับเมนูไข่ดาวในไส้กรอก
ไข่ไก่ 1 ฟอง แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ถ้าจะทานเยอะก็ให้เพิ่มตามจำนวน
ไส้กรอกแบบยาว 1 ถุง
ไม้จิ้มฟัน
ซอสพริกหรือมะเขือ
กระทะ น้ำมัน มีด
วิธีทำไข่ดาวในไส้กรอก
สำหรับการทำไข่ดาวในไส้กรอกนั้น เริ่มแรกให้เราเตรียมหั่นไส้กรอกก่อนก่อน การหั่นไส้กรอกนั้นจะต้องใช้สมาธินิดหนึ่ง ซึ่งในภาพที่แสดงไว้ช่วงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่ก็พอไปวัดไปวาได้ การหั่นให้เราหั่นเป็นช่องเล็ก ๆ ไม่ใช่การหั่นแบบขาดแต่มันเป็นหั่นเป็นช่องแบบไม่ขาดกะและเว้นระยะให้พอดีเพื่อความสวยในเวลาที่ทอดออกมาเสร็จ หลังจากหั่นเสร็จแล้วให้นำไม้จิ้มฟัน 1 ไหม้ไปเสียบหัวพร้อมห่างหักกันให้เป็นรูปวงกลม จากนั้นให้เริ่มเตรียมน้ำมันสำหรับการทอดตั้งไฟให้อ่อนที่สุดและรอเวลาเดือดเพื่อที่เวลาทอดจะได้ไม่กระเด็นใส่ตัวของเรามากนัก เมนูแนะนำ ไข่น้ำ เมนูเพื่อสุขภาพ อาหารตอนเช้าทานได้ในช่วงกักตัว WFH
หลังจากให้ใส่ไส้กรอกลงไปก่อนทอดให้แต่พอสุก จากนั้นให้ทำการตอกไข่ไก่ลงไป สำหรับคนที่กลัวว่าถ้าตอกไข่ไก่ลงไปแล้วกลัวไข่แดงจะแตกไม่สวย เราสามารถตอกใส่ถ้วยก่อนแล้วค่อย ๆ เทลงรูตรงกลางของไส้กรอกก็ได้เพื่อความสวยงาม หลังจากการก็ให้ทอดไปพร้อมกัน ๆ ใช้ตะหลิวเคะไข่กับไส้กรอกด้วยเพื่อไม่ให้มันติดกระทะมากเกินไป สำหรับใครที่ชอบไข่ดาวไม่สุกก็ไม่ต้องพริกด้าน เมนูดี ๆ ที่น่าทานจาก sumoslot มาแนะนำให้สำหรับคนรักสุขภาพ แต่สำหรับใครที่ชอบแบบสุก ๆ จำเป็นต้องพริกด้านเป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับเมนูไข่ดาวในไส้กรอก
ไข่น้ำ เมนูเพื่อสุขภาพอาหารตอนเช้าทานได้ในช่วงกักตัว WFH
ไข่น้ำ เมื่อโควิด-19 กำลังเข้มข้น และรุนแรงการกักตัวหรือWFHอยู่บ้านจึงเป็นอีก 1 ทางเลือกสำคัญที่จะเซฟตนเอง และคนในครอบครัวได้ดีที่สุด และผลจากการWFHหรือกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานานจึงส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันทันที และหนึ่งในนั้นก็คือ อาการเบื่อหน่ายอาหารเดิม ๆ ดังนั้นในบทความนี้จึงขออนุญาต นำเสนอเมนูเดิม ๆ ที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ เปลี่ยนมาเป็นเมนูที่ยกระดับมากขึ้นเพิ่มควาอร่อยถึง 2 เท่า รับรองนอกจากทำกินทำขายก็ยังได้ พบกับเมนูไข่ ไข่ที่จะเปลี่ยนจากไข่น้ำธรรมดา ให้เป็นไข่น้ำสุดแสนอร่อย และน่ารับประทาน
เคล็ดลับการทำเมนู ไข่น้ำ ทำง่ายเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ได้ทานแล้ว
ส่วนผสม และวัตถุดิบต่าง ๆ สำหรับทำไข่น้ำ
คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ไข่น้ำที่กำลังจะนำเสนอนั้น นอกจากหน้าตา และรสชาติที่ดูดีขึ้นแล้ว ส่วนผสม และวัตถุดิบต่าง ๆ ก็ค่อนข้างน้อย เครื่องปรุงรสเป็นชนิดที่สามารถหาได้ตามครัวเรือนทั่ว ๆ ไป อย่ารอช้าไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
1.ไข่ไก่ 2 – 3 ฟอง 2.กระเทียมเจียวกลีบเล็ก 7-10 กลีบ 3.วุ้นเส้นแช่น้ำ(ตามชอบ) 4.หมูสับ 100 กรัม(หมัก3เกลอ) 5.พริกไทย(เล็กน้อย) 6.เกลือ(เล็กน้อย)
7.เครื่องปรุงสำหรับปรุงรสซีอิ๊วขาว,น้ำปลา,น้ำตาลทราย 8.ต้นหอมสับ(ตามชอบ) 9.คนอร์ซุปไก่ 1 ก้อน 10.น้ำเปล่า 500 – 700 มล.
ขั้นตอนการทำไข่น้ำนิวเวอร์ชั่น
1.เจียวไข่ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย นำลงไปทอดในกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันไม่ต้องเยอะจนสุก หั่นไข่เจียวเป็นชิ้นพอคำ (เน้นทอดให้มีกลิ่นกระทเล็กน้อย ให้ไข่มีสีน้ำตาลเข้มเล็กน้อย) ขอแนะนำสำหรับใครชอบเมนูไข่สำหรับ สูตรทำไข่ตุ๋น ที่ทำง่าย ๆ เป็นเมนูราคาประหยัดในยุดโควิดแถมมีประโยชน์จากไข่มากมาย
2.นำน้ำเปล่าเทลงกระทะที่มีไข่เจียวหั่นชิ้นอยู่ ใส่คนอร์ไก่ลงไปรอจนละลาย (ระหว่างนี้สามารถใส่วุ้นเส้น หรือหมูสับหมักสามเกลอปั้นโดยไม่ต้องหนามากได้เลย)
3.หลังจากซุปก้อนละลายจนหมดให้หรี่ไฟอ่อนพร้อมปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และตัดด้วยน้ำตาลทราย (ชิมและปรุงตามใจชอบ)
4.หลังจากปรุงเสร็จเปิดไฟแรงอีกครั้งจนน้ำเดือด ให้เหยาะน้ำปลาเบา ๆ ตามขอบกระทะเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
5.ปิดแก๊สโรยต้นหอมที่สับเตรียมไว้ ตักใส่ชามโรยพริกไทยเล็กน้อย และท็อปด้วยกระเทียมเจียว