อาหารเป็นส่วนสำคัญของทุกวัฒนธรรม และอาหาร ส่วนผสม และอาหารของแต่ละสังคมสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ค่านิยม และประเพณีของพวกเขาได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของภูมิหลังทางวัฒนธรรมและ ประวัติศาสตร์ของอาหาร ต่าง ๆ จากทั่วโลก จะมีเมนูไหนบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

ประวัติศาสตร์ของอาหาร ที่น่าสนใจทั่วโลก

1. พาสต้า

ประวัติศาสตร์ของอาหาร หนึ่งในอาหารอิตาเลียนที่โดดเด่นที่สุดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือพาสต้า พาสต้ามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยแหล่งที่มาบางแห่งมีต้นกำเนิดย้อนกลับไปยังกรุงโรมโบราณ และกล่าวไว้ว่าพาสต้าถือว่ากลายเป็นอาหารหลักใน อิตาลี ในช่วงยุคกลาง และแต่เดิมทีแล้วอาหารประเภทนี้ถูกทำจากข้าวสาลีดูรัมซึ่งเป็นข้าวสาลีชนิดแข็งที่มีโปรตีนสูง ปัจจุบันอาหารประเภทพาสต้าทำจากธัญพืชหลากหลายชนิดและเป็นที่นิยมทั่วโลก อีกทั้งยังถูกนำมาดัดแปลงให้มีความเข้ากันยุคสมัยมากขึ้น แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ

2. แกงกะหรี่

อาหารอีกจานที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งคือแกงกะหรี่ แกงกะหรี่เป็นคำที่หมายถึงอาหารหลากหลายประเภทที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและการใช้ส่วนผสมของเครื่องเทศที่ซับซ้อน แกงกะหรี่มีต้นกำเนิดในเอเชียใต้ และเป็นส่วนสำคัญของอาหารอินเดีย ปากีสถาน และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้มานานหลายศตวรรษ ในอินเดีย แกงมักจะทำโดยมีส่วนประกอบของหัวหอม กระเทียม และขิง และสามารถทำกับเนื้อสัตว์ ผัก และพืชตระกูลถั่วได้หลากหลายชนิด

3. ทาโก้

อาหารอีกประเภทหนึ่งที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายคืออาหารเม็กซิกัน อาหารเม็กซิกันเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารพื้นเมือง สเปน และอิทธิพลอื่นๆ และขึ้นชื่อเรื่องรสชาติจัดจ้านและการใช้ส่วนผสมอย่างพริก ข้าวโพด และถั่ว หนึ่งในอาหารเม็กซิกันที่โดดเด่นที่สุดคือทาโก้ ซึ่งเป็นตอร์ตียาข้าวโพดหรือข้าวสาลีขนาดเล็กที่ถือด้วยมือ เต็มไปด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่น เนื้อ ชีส และผัก ทาโก้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในเม็กซิโก และทุกวันนี้พวกเขานิยมรับประทานไปทั่วโลก

ตัวอย่างอาหารเหล่านี้ที่เราได้แนะนำไปนั้นต่างมีประวัติศาสตร์ของอาหารส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของพาสต้าและแกงกะหรี่ไปจนถึงรสชาติจัดจ้านของอาหารเม็กซิกัน อาหารเหล่านี้นำเสนอให้เห็นถึงวัฒนธรรมและประเพณีทางประวัติศาสตร์ของสังคมต่าง ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักชิมหรือเพียงแค่สนใจในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การสำรวจภูมิหลังทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอาหารต่าง ๆ เป็นสิ่งที่น่าสนใจและให้ความรู้อย่างยิ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่กำลังสงสัยเรื่องเกี่ยวกับอาหารและสตอรี่ของมันได้เพิ่มเติมความรู้ที่กำลังมองหาอยู่นะคะ

Latest Posts

• 
  “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
• 
  ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
• 
  เทคโนโลยีอาหาร กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
• 
  ประวัติศาสตร์ของอาหาร ส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก
• 
  สลัดผักโขม เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ทำรับประทานง่ายๆ มีประโยชน์

ร้านอาหารจีนสูตรต้นตำรับ เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน เนื่องจากในประเทศไทยมีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านอาหารจีนมากมายเปิดให้บริการลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากเป็นอาหารที่มีความอร่อย ทำออกมาได้อย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสมุนไพรจีน ทำให้หลายคนชื่นชอบ รับประทานเป็นประจำ วันนี้เราจึงจะพาผู้ที่ชื่นชอบอาหารจีนไปรู้จักร้านอาหารยอดนิยมที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน จะมีร้านอาหารใดบ้างไปดูกันเลย

สุดยอดแห่ง ร้านอาหารจีนสูตรต้นตำรับ ถ่ายทอดสู่รุ่นลูกหลานหลากหลายรุ่น

อาหารจีนเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ ทั้งในเรื่องของรสชาติความอร่อย วัตถุดิบสมุนไพรนานาชนิดที่นำมาใช้รังสรรค์ทำเมนูอาหารออกมาได้อย่างคุ้มค่า รับประทานแล้วทุกคนชื่นชอบกับรสชาติความอร่อยและประโยชน์ที่ได้รับ เป็นอาหารที่มีความพิถีพิถัน ทำออกมาแต่ละเมนูต้องมีความเข้มข้น มีรสชาติกลมกล่อม และร้านอาหารใดบ้างที่จะนำพาทุกท่านไปสู่ความเอร็ดอร่อยแบบต้นตำรับไปดูกันเลย อาหารชาวสิงคโปร์ กับความหลากหลายมลายูจีนแขกอร่อยกว่าที่คิด

• ทวีชัยโภชนา

ร้านอาหารจีนร้านนี้เปิดให้บริการมาแล้วมากกว่า 40 ปี รสชาติของอาหารมีความกลมกล่อม ใช้สมุนไพรจีนรังสรรค์เป็นเมนูที่หลากหลาย ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวจีนชื่นชอบร้านนี้เป็นจำนวนมาก เพราะมีอาหารให้เลือกรับประทานหลากหลาย แต่ละเมนูเด็ดๆดังๆทั้งนั้น ทำเอาทุกคนที่ได้มาลิ้มลองรสชาติความอร่อยของร้านนี้ ติดอกติดใจมาเป็นเวลายาวนาน

• JinLong House (จินหลงเฮาส์)

ร้านอาหารจีนจักรพรรดิ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสืบทอดสู่รุ่นลูกหลานมาแล้วกว่า 40 ปี ร้านนี้จะเสิร์ฟเมนูอาหารจีนให้ท่านได้รับประทานมากมาย ทำเมนูอาหารจีนจากเชฟจีนมืออาชีพที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติอาหารแบบต้นตำรับ ทางร้านได้พัฒนาความอร่อยของเมนูอาหารอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้ถูกปากลูกค้าทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ

• LT Fish Restaurant 

อาหารจีนสไตล์เสฉวน ที่มีรสชาติแบบต้นตำรับจีนแท้ๆ เปิดให้บริการลูกค้ามาเป็นเวลายาวนาน ทุกคนต่างก็ลิ้มรสชาติความอร่อยของร้านอาหารนี้กันดีอยู่แล้วว่า เป็นร้านอาหารที่มีคุณภาพ ใช้วัตถุดิบที่ดี แต่ละเมนูผสมผสานสมุนไพรจีนลงไปด้วย ความพิถีพิถันในการรังสรรค์เมนูทำออกมาแล้วมีรสชาติกลมกล่อม มีเมนูอาหารหลากหลายประเภทให้ลูกค้าได้เลือกสั่งรับประทาน รับรองว่ามาร้านนี้ติดอกติดใจแบบไม่วางช้อนแน่นอน

รสชาติของอาหารจีนแต่ละร้านสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทุกคนอย่างมาก เป็นร้านที่เราได้คัดเลือกมาแล้วว่ามีเมนูเด็ดๆดังๆมากมายให้คุณได้ลิ้มลอง ร้านอาหารแต่ละร้านเปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน เปิดให้บริการมาตั้งแต่รุ่นอาม่าอากง จนมีการสืบทอดสู่ลูกหลาน แต่ก็ไม่ทิ้งรสชาติแบบดั้งเดิม และวัตถุดิบที่มีประโยชน์ของจีน มารังสรรค์เป็นเมนูที่แสนอร่อยฉบับต้นตำรับให้คนได้รับประทานในทุกๆวัน 

• 
  “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
• 
  ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
• 
  เทคโนโลยีอาหาร กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
• 
  ประวัติศาสตร์ของอาหาร ส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก
• 
  สลัดผักโขม เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ทำรับประทานง่ายๆ มีประโยชน์

                 เสี่ยวหลงเปา หรือ ติ่มซำ อาหารชื่อดังของประเทศจีน ที่แพร่หลายออกไปทั่วมุมโลก และเป็นอาหารที่คนจีนถือว่าอาหารชั้นสูงเพราะมีประวัติมายาวนาน อาหารเด็ด ติ่มซำนั้นก็จะมีอาหารหลายอย่างด้วยกัน แต่อย่างหนึ่งที่ใครๆ หลายคนต่างติดใจในรสชาติและความพิสดารของคนในอดีตที่เอาน้ำซุปเข้าไปอยู่ในสิ่งนี้จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเลียนแบบ อาหารชนิดนั้นมีชื่อว่า “เสี่ยวหลงเปา”

 มาทำความรู้จักกับ เสี่ยวหลงเปา ตำนานจากอดีตมายาวนาน

                สำหรับตำนานของ “เสี่ยวหลงเปา” นั้นต้องย้อนกลับไปในสมัยของราชวงศ์ซ่งเหนือ (ซ้อง) ในตอนนั้นแผ่นดินทางตอนใต้ของจีนมีอาหารขึ้นชื่อชนิดหนึ่งนามว่า “ทางเปา” โดยเป็นซาลาเปาก้อนใหญ่ยัดใส้ด้วยน้ำซุป เป็นที่โหยหาของนักท่องเที่ยวและชาวบ้านรวมถึงราชสำนัก จนกระทั่งราชสำนักซ่งเหนือถูกรุกรานอย่างรุนแรงโดยเผ่าจิน ทำให้ต้องมีการย้ายราชสำนักและเมืองหลวงจากเดิมอยู่ที่เมืองไคเฟิง (ไคฟง) มาอยู่ที่เมืองหางโจว เพื่อหลบหนีเผ่าจิน และที่เมืองหางโจวนี้เอง ทางเปา ก็เป็นที่นิยมของชาวบ้านอยู่แล้ว เมื่อราชสำนักได้เข้ามาอยู่ จึงทำให้ทางเปา ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก จนกระทั่งตอนหลังได้มีการปรับขนาดให้เล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เสี่ยวหลงเปา” Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง) ร้านอาหารที่จะทำให้คุณตกหลุมรักอาหารจีน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนอีกตำนานนั้นเล่าว่าคนคิดค้นนั้นคือ หวงหมิงเซียน ในช่วงยุค 1870 โดยนเจลลี่สอดใส้เข้าไปในซาลาเปา และตั้งชื่อว่า “นานเซียงต้าโร่วหมั่นโถว” แต่นั่นเป็นเพียงตำนานเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานมากขึ้น

            สุดยอดแห่งความล้ำลึกนำน้ำซุปยัดเข้าไป

                จุดเด่นของ เสี่ยวหลงเปา นั่นคือการที่ใส้ด้านในนั้นเป็นน้ำซุป วิธีการคือนำหนังหมู หนังไก่ มาเคี่ยว ผสมกับแป้งสาลีและแป้งขนมปัง จากนั้นก็เคี่ยวไปเรื่อยๆ ก่อนจะพักให้เย็นเพื่อให้ทั้งหมดกลายเป็นวุ้น จากนั้นก็นำวุ้นพวกนี้ตักเป็นชิ้นพอดีคำ วางไปบนแป้งที่มีใส้หมูรองอยู่ จากนั้นก็ประกบโดยจุดเด่นอีกอย่างคือการพับจีบที่ต้องพับให้ได้ 18 จีบ ด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของบรรดาพ่อครัวจีนในปัจจุบันที่จะทำ เสี่ยวหลงเปา ให้คนรับประทาน จากนั้นนำไปนึ่งซึ่งวุ้นนั้นจะละลายออกกลายเป็นน้ำซุปแสนอร่อยที่ซ่อนตัวอยู่ด้านใน จนทำให้คนทานต้องหลงไหลในรสชาติและอยากจะทานอีกเรื่อยๆ  

• 
  “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
• 
  ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
• 
  เทคโนโลยีอาหาร กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
• 
  ประวัติศาสตร์ของอาหาร ส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก
• 
  สลัดผักโขม เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ทำรับประทานง่ายๆ มีประโยชน์

                เมนู เฝอ ประเทศเวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย ที่มีทัศนียภาพอันสวยงาม ตึกรามบ้านช่องที่สะอาดงามตา ซึ่งส่วนมากได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนที่อยู่ตอนเหนือ แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ทำให้คนส่วนมากมักจะมีเชื้อสายจีนปนอยู่ด้วย แต่สิ่งที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้ เป็นเรื่องอาหารชนิดหนึ่งที่หน้าตานั้นละม้ายคล้ายคลึงกับก๋วยเตี๋ยวของบ้านเราเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งนี้มีชื่อเรียกว่า “เฝอ” ที่หลายๆ คนต่างกล่าวว่าหากไปถึงที่นั่นแล้วไม่ได้กินนั่นแปลว่ามาไม่ถึง

ตำนานของ เมนู เฝอ กับ ประเทศฝรั่งเศส

                เฝอไม่มีใครยืนยันได้ว่าเมนูนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ และมีชื่อเรียกก่อนหน้านี้ว่าอย่างไร แต่อาหารชนิดนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างอาหารฝรั่งเศสกับอาหารเวียดนาม โดยเมนูของฝรั่งเศสจะมีเมนูที่ชื่อว่า “พอต ออ เฟอ” แต่ต่างกันที่ พอต ออ เฟอ นั้นจะใส่หอมหัวใหญ่ลงไป แต่ เฝอ นั้นจะใส่หอมแดงย่าง โดยความเชื่อของชาวเวียดนามถูกแบ่งออกเป็น 2 อย่าง อย่างแรกในช่วงยุคแรกๆ นั้นมีพวกพ่อค้าหาบเร่ หาบเอาเฝอมาขายริมถนน ซึ่งชาวฝรั่งเศสเรียกว่า “คอฟเฟร-เฟอ” แต่ผู้คนมักจะเรียกแบบย่อๆ ว่า “เฟอ เฟอ” จนกระทั่งเพี้ยนมากลายเป็น “เฝอ” จนถึงปัจจุบัน ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ในเมืองนามดินห์ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของสิ่งทอที่ใหญ่สุดในประเทศ ได้มีกุ๊กยอดฝีมือคนหนึ่ง คิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา เพื่อทำให้กับแรงงานชาวเวียดนามและชาวต่างชาติที่ต้องทำงานอย่างหนัก และ เฝอ คืออาหารอย่างเดียวที่ทำให้พวกเขามีแรงทำงานต่อไป  อาหารเวียดนาม ที่คนไทยต้องลิ้มลอง และยังมีเคล็ดลับความอร่อยอีกมากมาย

            จากเมนูบ้านๆ กลายเป็นเมนูชื่อดัง

                ด้วยความที่ เฝอ ได้รับความนิยมจากคนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะใครมาจากไหนก็สามารถทานได้ จึงทำให้เมนูนี้ได้กลายมาเป็นเมนูหลักของประเทศเวียดนามในเวลาอันรวดเร็ว โดยในช่วงแรกๆ นั้น จะเน้นการใช้เนื้อในการทำน้ำซุป ซึ่งจะมีเนื้อให้ทานทั้งแบบเนื้อสดและเนื้อสุก จนกระทั่งใน ค.ศ.1940 ได้มีการนำไก่มาปรุงในน้ำซุปแทนเนื้อ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เนื้อไม่ใช่วัตถุดิบที่นำมาปรุงเฝอ เนื่องจากเนื้อมีราคาแพง แต่หลังจากมีชาวยุโรปเดินทางเข้ามาในประเทศ เนื้อจึงถูกนำมาใช้ในการปรุงน้ำซุป จนกลายเป็นเมนูฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง และโด่งดังไปไกลทั่วเอเชีย โดย เฝอ นั้นนิยมทานคู่กับซอสฮอยซิน, น้ำปลา และซอสพริกศรีราชาของไทย สำหรับร้านที่มีชื่อในการทำเมนูนี้และทุกคนจะต้องไปทานให้ได้นั่นคือ “เฝอ24” การันตีเลยว่าอร่อยอย่างแน่นอน

• 
  “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
• 
  ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
• 
  เทคโนโลยีอาหาร กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
• 
  ประวัติศาสตร์ของอาหาร ส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก
• 
  สลัดผักโขม เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ทำรับประทานง่ายๆ มีประโยชน์

                ซูชิ หากเอ่ยถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่หลายๆ คนมักจะคิดถึงคงหนีไม่พ้น การ์ตูน,เกม,วัฒนธรรมที่สวยงาม, สถานที่ท่องเที่ยว และอาหาร อาหารของญี่ปุ่นนั้นมีหลายเมนูที่เป็นที่นิยมไปทั่วทวีปเอเชีย และกระจายออกไปเกือบทุกมุมโลก โดยเฉพาะเมนูที่เรียกว่า “ซูชิ” อาหารเด็ด ที่รังสรรค์โดยข้าวปั้นแปะด้วยหน้าจากปลา,ปลาหมึก,หอย,และอีกหลายอย่าง เท่าที่จะมีสรรหามาได้

          ซูชิ จุดเริ่มต้นจากอดีตอันไกลโพ้น

                ย้อนกลับไปในช่วงก่อนคริสตศักราชตอนนั้น ร้าน SUSHI เจ้าอร่อย ยังไม่ถือกำเนิดขึ้น โดยคนญี่ปุ่นมักจะทำนา,จับปลา เพื่อประกอบอาหาร แต่ด้วยความที่สมัยก่อน ไม่มีตู้เย็นหรือน้ำแข็งมารักษาความสดของปลาเอาไว้ ทำให้ปลาอยู่ได้ไม่นานก็ต้องทิ้งไปเพราะเน่าเสีย ทำให้คนสมัยก่อนนำข้าวกับเนื้อสัตว์และปลามาหมักไว้ในถังเดียวกัน โดยแบคทีเรียในข้าวจะเจริญเติบโตขึ้นและทำให้เกิดกรด “แลกติก” ช่วยป้องกันการเน่าเสียของเนื้อสัตว์ได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการถนอมอาหารของชาวญี่ปุ่น และสิ่งนั้นกำลังจะปรับเปลี่ยนมาเป็นอาหารที่โด่งดังในปัจจุบัน

            อิทธิพลของปลาส้ม คือจุดกำเนิดซูชิที่แท้จริง

                ในปี ค.ศ.700 ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลการถนอมอาหารมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน นั่นคือการหมักปลาส้ม ปลาน้ำจืดที่ถูกนำไปหมักจนมีรสเปรี้ยวก่อนจะนำมาทอด ซึ่งวิธีนี้แพร่กระจายเข้าในญี่ปุ่น และได้เกิดเป็นวิธีการเอาข้าวสวยและเกลือมาหมักจนปลามีรสเปรี้ยวก่อนจะทิ้งข้าวไปและเอาปลามากิน โดยต้องใช้เวลาหมักถึง 1 – 4 ปี และนั่นคือ ซูชิ ชนิดแรกที่เกิดขึ้นเรียกว่า “นาเระซูชิ” ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพงมาก จากนั้นวันเวลาผ่านไปถึงช่วงปี 1500 – ปัจจุบัน กรรมวิธีได้เปลี่ยนแปลง เวลาในการหมักน้อยลง แต่รสชาติยังคงไว้ซึ่งความอร่อย ซึ่งซูชิ ในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า “นิกิริซูชิ” คิดค้นโดน ฮานาย่า โยเฮย์ พ่อครัวที่มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1799 – 1858 นั่นเพื่อตอบสนองสังคมที่พัฒนาขึ้น คนต้องการอาหารที่ทานได้ในเวลาอันรวดเร็ว และนั่นส่งผลให้ นิกิริซูชิ แพร่กระจายไปทั่วเอเชียในที่สุด

• 
  “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แนะนำ 3 ยี่ห้อที่อร่อยดี อร่อยเหาะที่คุณต้องลอง
• 
  ทอดมันหัวปลี เคล็ดลับการทำเมนูนี้ให้อร่อยจนแสงออกปากคืออะไร
• 
  เทคโนโลยีอาหาร กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ
• 
  ประวัติศาสตร์ของอาหาร ส่วนผสม และอาหารต่าง ๆ จากทั่วโลก
• 
  สลัดผักโขม เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ทำรับประทานง่ายๆ มีประโยชน์

    อาหารจาก แซลมอน เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบ ที่หลายคนนั้นมาที่จะนำมาประกอบอาหาร ด้วยความที่หาซื้อได้ง่าย แล้วตอนนี้ก็เป็นวัตถุดิบที่เป็นกระแส ทานเป็นซาซิมิ ก็สามารถทำได้ เอามาประกอบอาหารก็ไป 1 วัตถุดิบที่สายคนรักสุขภาพนำมาทานเป็นอาหารคลีนอยู่บ่อยๆ วันนี้เราจะมาแนะนำอาหารจากแซลมอนที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน อร่อยและยังมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย สำหรับคนที่มีความชื่นชอบในการรับประทาน แซลมอน วันนี้ไม่ควรพลาด ลองทำเองได้ที่บ้าน แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ การเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยาก มาเริ่มทำไปพร้อมกันเลยดีกว่า อิ่มอร่อยได้ที่บ้านเลย

แนะนำเมนู อาหารจาก แซลมอน ทำทานเองที่บ้าน คลีน ๆ

          เมนูอาหารเมนูแรก จากแซลมอน ก็คือแซลมอนอบ สิ่งที่เราต้องเตรียมคือ ปลาแซลมอน กระเทียมสับหยาบ มะนาว น้ำมันมะกอก เกลือป่น และพริกไทยป่น เป็นการนำมาเพิ่มรสชาติ ส่วนใครที่จะทานกับข้าว หรือสลัดก็เตรียมส่วนนี้เอาไว้ด้วย วิธีการทำก็ง่ายมากๆ ทำการโรยเกลือและพริกไทย ลงที่เนื้อปลาแซลมอน จากนั้นใส่กระเทียมแล้วก็บีบน้ำมะนาวลงเล็กน้อย ใส่น้ำมันมะกอกและคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำมาห่อด้วยฟอยล์อลูมิเนียม จากนั้นนำเข้าอบ อุณหภูมิที่เราต้องการ เรียบร้อยก็จัดจานสามารถทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือไม่ก็สลัด เมนูแนะนำ ข้าวผัดไข่แซลมอน ย่างเนยกระเทียมเมนูอาหารที่มีความใส่ใจในการรักสุขภาพอย่างเต็มที่

          เมนูอาหารปลาแซลมอนในเมนูต่อมาคือ แซลมอนคั่วใบแมงลัก สิ่งที่เราต้องเตรียมก็คือเนื้อแซลมอนที่นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อน น้ำมันพืช เกลือป่น เพื่อนเอามาเพิ่มรสชาติ ใบแมงลัก พริกขี้หนูทอดกรอบ วิธีการทำก็คือตั้งน้ำมัน ไฟอ่อน จากนั้นนำเนื้อแซลมอนลงไปผัด พอสุก นำใบแมงลักลงไปผัดด้วย ปรุงรสตามใจชอบ ผัดจนเนื้อปลาแซลมอนของเรามีความกรอบ ตักใส่จานโรยด้วยพริกขี้หนูทอดที่เราเตรียมไว้

                   เมนูอาหารจากปลาแซลมอนในเมนูสุดท้ายก่อนจากกันในวันนี้ก็คือ สเต็กปลาแซลมอน สิ่งที่ต้องเตรียมก็มีปลาแซลมอน เหนื่อย เครื่องปรุงตามใจชอบ เกลือป่น วิธีการทำก็คือทำการหมักปลาแซลมอนด้วยเกลือป่นแล้วก็พริกไทย พักไว้สักครู่หนึ่ง จากนั้นนำเนยลงไปในกระทะแล้วเอาแซลมอนลงไปย่าง เห็นว่าเนื้อแซลมอนนั้นเริ่มสุกก็ทำการพลิกกลับด้านเพื่อให้ความสุกสม่ำเสมอเช่นกับ slot168 สามารถนำมาทานคู่กับบล็อกโคลี่ที่ลวกแล้วหรือว่ามันบดได้

ผัดมะกะโรนีกุ้งสด เมนูอาหารไทยบางคนอาจเบื่อและกำลังหาเมนูอื่นๆ ในช่วงวันหยุดหรือกำลังคิดเมนูเด็ดมัดใจคนที่ที่บ้านเราแนะนำ เมนูผัดมะกะโรนีกุ้งสด เมนูน่าทานที่ใครก็ชอบและเป็นเมนูสุดฮิตเวลาทานอาหารนอกบ้านที่เรามักเลือกสั่ง เราแนะนำค่ะ ว่าเมนูผัดมะกะโรนีกุ้งสดนี้โดนใจแน่นอนและอีกอย่างเด็กทานได้ด้วยค่ะเป็นเมนูที่ทำแล้วทานได้ทั้งบ้านจะเลือกเป็นเมนูพิเศษก็ดีค่ะ แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่แล้วหาเมนูทำทานกับครอบครัวอยู่เมนูผัดมะกะโรนีกุ้งสดก็เป็นเมนูที่น่าทานมากเลยค่ะ รับรองคนที่บ้านต้องออกปากชมแน่นอน

ขอแนะนำการทำ ผัดมะกะโรนีกุ้งสด เครื่องเน้นโดนใจแน่นอน

การเตรียมวัตถุดิบในการทำเมนูผัดมะกะโรนีกุ้งสด

• เตรียมน้ำมันปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ(หรือเนยสดก็ได้ตามสะดวก)
• เตรียมมะกะโรนีปริมาณ  300 กรัม (ต้มสุกแล้ว)
• เตรียมมะเขือเทศปริมาณ  60 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมๆ ลูกเต๋า)
• เตรียมซอสปรุงรสปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
• เตรียมซอสมะเขือเทศปริมาณ 3- 4 ช้อนโต๊ะ
• เตรียมกุ้งสดจำนวน 12-14 ตัว
• เตรียม หรือไข่ไก่จำนวน 2 ฟอง (หรือไข่เป็ด)
• เตรียมหอมใหญ่ปริมาณ 60 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมๆ ลุกเต๋า)
• น้ำเตรียมมันหอย ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเตรียมตาลทรายปริมาณ  1 ช้อนชา เมนูสปาเก็ตตี้ผัดซอสครีม รสเด็ด อาหารจานเดียวยอดนิยมของคนไทย

วิธีการทำ

1. เตรียมตั้งกระทะให้ร้อนเปิดไฟในระดับปานกลาง พอกระทะร้อน ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อยหรือบางคนเลือกใช้น้ำมันก็ได้ตามต้องการ หากเลือกใช้เนยก็จะมีกลิ่นหอมและตอนผัดผัดลงไปให้ละลาย ตามด้วยใส่กุ้งลงไปผัดจนกุ้งสุกเนยละลายทั่วแล้วใส่ไข่ที่เตรียมลงผัดให้สุด แล้วตามด้วยมะกะโรนีต้มสุกแล้ว
2. นำมาผัดให้ทั่วคลุกเคล้าให้ทั่วกันตามด้วยผัก มะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ ทุกอย่างสุกได้ทีตามด้วยการปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาทรายและน้ำมันหอย ปรุงแต่งเพิ่มเติมตามรสชาติที่ชอบได้เลยเป็นอันว่าเสร็จตักใส่จานเสริฟ์ได้เลย จะโรยด้วยต้มหอมเพิ่มสีสันก็ได้ตามใจชอบเลยค่ะ

เมนูผัดมะกะโรนีกุ้งสด เป็นเมนูที่ใครหลายคนก็ชอบ หากเพิ่มเมนูเด็ดๆ นี้เข้าไปอีกรับรองได้ว่าลูกๆ ของคุณเจริญอาหารแน่นอน เพราะอาหารที่มีรสชาติออกหวานเด็กๆ จะถูกใจและความหอมอร่อยในซอสมะเขือเทศอยู่แล้วบอกได้เลยว่าเด็ดแน่นอนค่ะ

เมนูสปาเก็ตตี้ผัดซอสครีม เบื่ออาหารไทยแล้วรอทำอาหารฝรั่งกันดูไหมค่ะ การเข้าครัวจะได้ไม่น่าเบื่อวันนี้เรามารีวิวเมนูเด็ดที่รับรองว่าถูกใจใครต่อหลายคนแน่นอน เมนูสปาเก็ตตีผัดซอสครีมเป็นเมนูที่ทำง่ายการจัดการวัตถุดิบในการทำก็ง่ายห้างแถวบ้านก็มีให้คุณได้เลือกแบบสะดวกสบาย เป็นเมนูสปาเก็ตตีผัดซอสครีม ที่มีเสน่ห์เราเลือกทานแทนอาหารจานหลักของเราก็เป็นอีกเมนูที่คนนิยมมานมากๆ เลยค่ะ ทำเป็นแล้วก็เป็นเมนูเด็ดประจำครัวเลยก็ได้ค่ะ สาวกคนรักการทำอาหารจะพลาดไม่ได้เลยค่ะ

สิ่งที่คุณต้องเตรียมในการทำ เมนูสปาเก็ตตี้ผัดซอสครีม รสเด็ด

• แฮม อาหารอร่อย ปริมาณ 50 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ พอดีคำ)
• น้ำมันมะกอก
• กระเทียม  (สับให้เรียบร้อย)
• เส้นสปาเกตตีต้มสุก 150 กรัม
• หอมหัวใหญ่ปริมาณ (สับเป็นสี่เหลี่ยยมเล็กๆ )
• วิปครีมแบบรสจืดปริมาณ  4 ถ้วยตวง
• พริกไทย(แบบดำป่น)  ปริมาณ 4 ช้อนชา
• แป้งสาลี(อเนกประสงค์) ปริมาณ 2 ช้อนชา
• เห็ดปริมาณ  50 กรัม
• เกลือป่น 4 ช้อนชา (แบบละเอียด)
• วิปนมสด 2 ถ้วยตวง
• พาร์สลีย์ปริมาณ  1 ช้อนชา (สับให้เรียบร้อยใช้โรยหน้า)
• ใบกระวานจำนวน 1 ใบ

วิธีการทำ

1. เตรียมกระทะ เทน้ำมันมะกอกลงไป เปิดไฟในระดับปานกลาง พอน้ำมันร้อนได้ทีตามด้วยใส่หอมหัวใหญ่กระเทียมลงไปผัดให้หอม จากนั้นตามด้วยใส่แป้งลงไป ผัดให้พอสุกได้ที แล้วใส่วิปครีมลบตามไปผัดสักพักใส่นมสดลงไปรอจนส่วนผสมเข้ากันระหว่างรอเราก็คลุกเดล้าไป ชิมไปก็ได้ และขอแนะนำ พาสต้า ว่าที่เชฟควรรู้เกี่ยวกับเรื่องของพาสต้า มีกี่ชนิดและอะไรบ้าง
2. จากนั้นใส่เห็ด และใบกระวาน ตามด้วยการปรุงรส พริกไทยดำ เกลือป่น ทำการผัดให้เข้ากันไปให้ทั่ว หากชิมแล้วไม่ได้รสชาติที่ต้องการก็ปรับปรุงเพิ่มเติมได้เลย หากรสชาติเข้มข้นเกินไปเราแนะนำเติมนมสดเพิ่มไปลดความข้นได้
3. ตามด้วย เส้นสปาเกตตีต้มสุกแล้ว ใส่จานแล้วตักน้ำซอสราดพร้อมเสริฟ์ ใช้การโรยหน้าด้วยพาร์สลีย์ พร้อมเสริฟ์ได้ทันที

เมนูเด็ดที่ใครก็ไม่กล้าปฎิเสธ เมนูสปาเก็ตตีผัดซอสครีม รสชาติที่ทานได้ทุกวัยเด็กก็ทานได้เป็นเมนูพิเศษที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ ทานได้ ระหว่างเล่น sumoslot ได้อย่างเต็มอิ่ม เมนูง่ายที่ใครก็เลือกทำ

ในปัจจุบันนี้การรับประทาน อาหารอินเดีย ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยความที่เป็นอาหารที่มีความใกล้เคียงกับอาหารไทย ที่มีรสชาติจากเครื่องเทศและมีรสชาติเค็มเล็กน้อยและมีเครื่องปรุงที่ไม่ต่างจากประเทศไทยมากนักทำให้อาหารอินเดียได้รับความนิยมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนซึ่งมีหลายร้านให้บริการอาหารอินเดียทั้งแบบจากเจ้าของอินเดียโดยตรงและเจ้าของประเทศไทยสามารถรับประทานได้โดยมีอาหารอินเดียนยอดนิยมในประเทศไทยที่รับประทานง่ายๆคล้ายอาหารไทยหอมเครื่องเทศได้แก่

6 เมนู อาหารอินเดีย น่าทานมาแนะนำที่มีเครื่องปรุงที่ไม่ต่างจากประเทศไทย

• Chicken Curry

 แกงไก่ของอินเดียที่มีรสชาติคล้ายคลึงกับแกงในประเทศไทย แม้ว่าสีสันจัดจ้านแต่รสชาติกลมกล่อมอย่างคาดไม่ถึงรับประทานร่วมกับแป้งนานที่มีความคล้ายคลึงกับแป้งโรตีรสชาติของแกงชนิดนี้จะไม่ได้เผ็ดแบบพริกขี้หนูเหมือนในประเทศไทยแต่จะเป็นรสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและเค็มมันเจือกลิ่นหอมหรือจะรับประทานร่วมกับข้าวสวยก็ได้เช่นกัน

• Chicken Biryani – ข้าวหมกไก่

ใช้ข้าวบาสมาติกเม็ดยาวร่วนหุงร่วมกับไก่ เครื่องเทศและหญ้าฝรั่นมีความคล้ายคลึงกับข้าวหมกไก่ในประเทศไทยแตกต่างตรงที่ข้าวของประเทศอินเดียจะร่วนมากกว่าไม่จับตัวกันเป็นก้อนอีกทั้งมีความหอมจะเครื่องเทศเตะจมูกมากกว่าแตกต่างกับข้าวหมกไก่ในประเทศไทยที่ใช้ข้าวเจ้าธรรมดาและใช้ขมิ้นหุงเท่านั้นแต่ข้าวหมกไก่แบบอินเดียนั้นจะเต็มไปด้วยเครื่องเทศและมีความหอมแบบเฉพาะตัวซึ่งต้องปรุงจากเครื่องเทศนานาชนิด

• ไก่ย่างทันดูรี (Tandoori chicken)

ไก่ย่างในสไตล์อินเดียที่มีสีแดงสวยมักจะใช้เนื้อที่ไม่มีหนังเป็นไก่ย่างแห้งๆหอมเครื่องเทศเป็นเมนูที่รับประทานง่ายเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นหัดรับประทานอาหารที่มีเครื่องเทศมากๆและประกันว่าจะติดใจอาหารอินเดียอย่างแน่นอนนอกจากนี้ความหอมที่ลงตัวแล้วยังมีไขมันต่ำอีกด้วยในเมนูนี้

• ดาล(Dal )

 เป็นอาหารพื้นบ้านของประเทศอินเดียเป็นซุปจากที่ทำมาจากถั่ว มักจะมารับประทานร่วมกับแป้งนาน หรือในประเทศไทยรับประทานร่วมกับข้าวสวยก็ได้ก็อร่อยไม่แพ้กัน

• แกงกุรุหม่า(Chicken Korma )

 เป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย ที่เป็นแกงน้ำขลุกขลิกและใช้โยเกิร์ตเป็นส่วนประกอบรวมถึงยาผสมลงไปในตัวแกงร่วมกับเครื่องเล่นนานาชนิดทำให้ส่งกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เว็บแทงบอล ของแกงชนิดนี้

• ปานีปูรี (Pani Puri)

แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทานเล่นของประเทศอินเดียที่เป็นแป้งทอดมีลักษณะกลม ข้างในกลวงเวลารับประทานเจาะข้างในให้เป็นรูและเติมถั่วหรือต้มมันฝรั่งลงไปราดด้วยน้ำจิ้มที่มีรสชาติเปรี้ยว และเผ็ดเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในทุกร้านอาหารอินเดียในประเทศไทยที่เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อรับประทานง่ายและอร่อย

ปัจจุบันนี้อาหารอินเดียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากเดิมมากจะเห็นได้ว่ามีเมนูอาหารอินเดียเข้ามาเป็นอาหารแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้นเพราะเนื่องจากมีความอร่อยมีเอกลักษณ์ อาหารชาวสิงคโปร์ และรับประทานไม่ยากก็ต้องยอมรับว่าอาหารไทยหลายๆชนิดก็มีต้นกำเนิดมาจากอาหารอินเดียนั้นเอง