ผงรากบัว
อาหารเพื่อสุขภาพ

ผงรากบัว เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียล

สังเกตกันบ้างไหมว่าตอนนี้ ผงรากบัว เป็นอาหารที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียล ต้นกำเนิดนั้นมาจากประเทศจีนแล้วก็แพร่หลายในกลุ่มสะใภ้คนจีนก่อน จากนั้นจึงกระจายมาจนถึงบ้านเรา จะเรียกว่าเป็นของทานเล่นหรือเป็นมื้ออาหารหลักแบบเบาๆ ก็ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพและต้องการลดภาระการทำงานของกระเพาะอาหาร แต่อาหารที่ดีต่อกระเพาะก็มีมานานและมีหลากหลายชนิด ทำไมผลิตภัณฑ์ตัวนี้ถึงมีสนใจมากกว่า ลองมาดูเหตุผลเหล่านี้กัน

ผงรากบัว

ผงรากบัว มีความเป็นธัญพืชที่รสชาติอร่อย

          ปกติแล้วเวลาเราพูดถึง อาหารเพื่อสุขภาพ สิ่งแรกที่ตามมาแบบทันทีก็คือรสชาติไม่อร่อย แต่ ผงรากบัว นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ได้นำผงละเอียดจากรากบัวมาใช้อย่างเดียว มีการผสมธัญพืชหลายชนิดที่ให้รสสัมผัสแตกต่างกันไป เช่น ชากุหลาบ พุทราจีน เมล็ดอัลมอนด์ เก๋ากี้ เป็นต้น กลิ่นที่ได้จึงหอมละมุนและมีความต่างกันไปตามส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา แนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ

ผงรากบัว ธัญพืช

ผงรากบัวทานได้สะดวกและปรุงได้หลายแบบ

          ถ้าเป็นการชงทานแบบมาตรฐานเลย เราก็แค่นำผงรากบัวใส่ถ้วยเอาไว้ แล้วเทน้ำเดือดลงไปผสม คนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำนั้นจะกลายเป็นสีใส ให้ความรู้สึกหนืดเล็กน้อย จะทานแบบอุ่นๆ เลยหรือจะเติมน้ำแข็งให้พอสดชื่นก็ได้ นอกจากนี้หลังจากเราผสมน้ำกับผงจากรากบัวเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถนำไปปรุงเป็นแนวโมจิ หรือวุ้นผัดสไตล์จีนได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของคนทำเลย

ผงรากบัว กลุ่มพืชหรือธัญพืช

ผงรากบัวมีประโยชน์ทานได้ทุกเพศทุกวัย

          เนื่องจากผงรากบัวนั้นเป็นผลิตผลที่มาจากธรรมชาติ และส่วนประกอบอื่นก็ล้วนอยู่ในกลุ่มพืชหรือธัญพืช จึงได้ประโยชน์และปลอดภัย เด็กสามารถทานได้ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ก็ทานได้เช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นอาหารสุขภาพที่ทานกันได้ทั้งครอบครัว แถมยังใช้ประโยชน์เพื่อจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วย เช่น ให้ทานแทนมื้ออาหารเพื่อช่วยลดน้ำหนัก ใช้ทานแทนของว่างเพื่อลดปริมาณการทานน้ำตาล ใช้เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับผู้สูงอายุ เป็นต้น

Latest Posts

เมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรา
อาหารรสเด็ด อาหารไทย

เมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรา เป็นอาหารภาคกลางที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันอย่างมาก บอกเลยว่าอร่อยสุด ๆ

เมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรา สำหรับวันนี้เราจะพามาประกอบอาหารเป็นเมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรากัน สำหรับเมนูนี้เป็นเมนูที่เราใช้หน่อไม้ดองมาประกอบเป็นอาหารภาคกลาง โดยปกติหน่อไม้ดองมักนิยมนำมาประกอบอาหารของภาคอีสานกัน สำหรับรสชาติจะเป็นอย่างไร อร่อยแค่ไหน เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

เมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรา

วิธีทำ และวัตถุดิบที่ใช้สำหรับทำ เมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรา แสนอร่อย จะมีอะไรบ้าง ?

1.เนื้อหมู ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด

2.กระเทียม ปริมาณ 3 -5 กลีบ

3.พริกขี้หนู ปริมาณ 3 -5 เม็ด

4.ใบกระเพรา ปริมาณ 1 กำมือ

วัตถุดิบ หน่อไม้ดองผัดกระเพรา

5.หน่อไม้ดอง ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด

6.พริกชี้ฟ้า ปริมาณ 1 – 2 เม็ด

7.น้ำมันพืช

8.น้ำปลา 1/2 ช้อนชา

อุปกรณ์การทำเมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรากัน

1.กระทะ

2.ตะหลิว

3.มีด

4.เขียง

5.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ

วิธีทำ หน่อไม้ดองผัดกระเพรา

กรรมวิธีการทำเมนูหน่อไม้ดองผัดกระเพรากัน

1.นำเนื้อหมู ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด มาล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ จากนั้นสับจนละเอียด เราจะได้หมูสับ ใส่จานวางพักไว้

2.นำหน่อไม้ดอง ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด มาล้างให้สะอาด ควรล้างแบบผ่านน้ำประมาณ 4 – 5 น้ำ ตั้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นเป็นเส้นๆ แล้วจึงหั่นต่อให้มีขนาดพอดีคำ ใส่จานวางพักไว้

3.นำพริกชี้ฟ้าสีแดง ปริมาณ 1 – 2 เม็ด มาล้างให้สะอาด เด็ดขั้วพริกออก จากนั้นหั่นเฉียงแล้วใส่จานวางพักไว้

4.นำพริกขี้หนูมาล้างให้สะอาด จากนั้นเด็ดขั้วพริกออก

5.ทุบพริกขี้หนู ปริมาณ 3 -5 กลีบ และกระเทียม ปริมาณ 3 – 5 เม็ด

หน่อไม้ดองผัดกระเพรา

6.เด็ดใบกะเพราปริมาณ 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ ใส่จานวางพักไว้

7.นำกระทะมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย รอจนน้ำมันร้อนได้ที่

8.ใส่พริกและกระเทียมลงไปทอด จนหอมได้ที่

9.จากนั้นเติมเนื้อหมู ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด ที่เตรียมไว้ลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนเนื้อหมูใกล้สุก เติมหน่อไม้ดอง ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด ที่เตรียมไว้ลงไป ผัดคลุกเคล้าจนหน่อไม้ดองเริ่มเปลี่ยนสี

10.ใส่น้ำปลาลงไป 1/2 ช้อนชา ผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน

11.เติมใบกะเพราและพริกชี้ฟ้าลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน ตักใส่จานพร้อมเสริฟ์

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ อาหารเพื่อสุขภาพ ได้ที่นี่

อาหารเวียดนาม
อาหารต่างชาติ อาหารทั่วไป อาหารรสเด็ด

เมนู อาหารเวียดนาม มีความเฉพาะตัว ที่บอกเลยว่าอร่อย ไม่เหมือนใครและมีความแปลกใหม่

                อาหารเวียดนาม ก็เป็นอีกอาหารที่มีความใกล้เคียงกับอาหารไทย และมีความเฉพาะตัวที่ต้องบอกเลยว่ามีความไม่เหมือนใครและมีความแปลกใหม่ รสชาติอาจจะไม่เหมือนไทยสักเท่าไหร่ วันนี้แอดอยากที่จะมา แนะนำ 3 เมนูอาหารเวียดนาม ที่บอกเลยว่าอร่อย อยากให้ลองทานสักครั้ง บอกเลยว่ารสชาติอาหารเวียดนามก็เป็นอีกอาหารที่มีความอร่อยติดอันดับอาหารที่มีความอร่อยลำดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว

อาหารเวียดนาม

แนะนำ 3 อาหารเวียดนาม ที่พลาดไม่ได้แล้วกับรสชาติความอร่อยที่คุณต้องลอง

บุ๋นเรียว

เมนูอาหารเวียดนามที่บอกเลยว่าอร่อยน่าทานมาก ๆ ห้ามพลาด เมนูแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ บุ๋นเรียว เป็นก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวน้ำซุปมาจากน้ำมะเขือเทศ มีรสชาติที่เปรี้ยว สามารถเลือกทานเนื้อสัตว์ได้ทั้ง หมู ปู เนื้อ รสชาติอร่อยสุด ๆ ใครที่ไปเที่ยวเวียดนามต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด

บั๋นห์แซ่ว

เมนูที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ บั๋นห์แซ่ว เป็นอีกเมนูอาหารเวียดนามที่หน้าตาคล้ายกับขนมเบื้องญวน ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับขมิ้น และนำไปทอดกรอบ ใส่ไส้ด้วยเครื่องโดยเฉพาะ และซอสปรุงรสชาติเพิ่มความอร่อย เป็นอีกอาหารเวียดนามที่อยากให้ลอง

 ก่อยกวั๋น

เมนูที่สามที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ก่อยกวั๋น คือ ปอเปี๊ยะสดเวียดนามนั้นเอง และเรานั้นก็สามารถเลือกไส้ได้แบบตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นหมูสับ กุ้ง หรือหน้าผักต่าง ๆ ทานกับน้ำจิ้มที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน ใส่ถั่วลิสงบดอีกเพิ่มความอร่อย

                ทั้งหมดก็เป็นเมนูอาหารบางส่วนของเวียดนามที่มีความอร่อยและน่าทานมาก ๆ บอกเลยว่าใครไปเที่ยวเวียดนามห้ามพลาด


รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และวิธีทำอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ ของเราได้ที่นี่

ช่างชุ่ย
แนะนำร้านอาหาร

ตามล่าหาของกิน เมนูเด็ด ๆ กับร้านอาหารที่ ช่างชุ่ย ย่านบางพลัด หากใครยังไม่เคยไปต้องไปลองให้ได้

            ช่างชุ่ย สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ในย่านบางพลัดที่ต้องบอกเลยว่าหากใครยังไม่เคยไปต้องไปลองให้ได้แล้วสักครั้ง นอกจากจะมีมุมสวย ๆให้ถ่ายรูปมากมายแล้ว ยังมีร้านอาหารเด็ด ๆ เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว บทความเกี่ยวกับอาหารนี้จึงจะพาไปตามล่าของกินเด็ด ๆกับร้านอาหารที่ช่างชุ่ย ถ้าพร้อมแล้วตามบทความนี้ไปตามล่าของกินกันเลย

4 ร้านแนะนำที่ ช่างชุ่ย บอกเลยต้องห้ามพลาดเด็ดขาดกับบรรยากาศดี ๆ และอาหารอร่อย

ช่างชุ่ยBAANBUAY Restaurant

            ที่แรกที่บทความนี้จะพาไปตามล่าของกินเด็ด ๆกับร้านอาหารที่ช่างชุ่ยก็คือ “BAANBUAY Restaurant” แค่ชื่อก็มีความเก๋ไก๋แบบสุด ๆ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารไทยทั่ว ๆไป แต่มีบรรยากาศเหมือนนั่งรับประทานอยู่ในบ้าน นอกจากนี้ยังมีมุมต่าง ๆบริเวณโดยรอบร้านให้ถ่ายรูปอีกมากมาย และมีจุดเด่นอยู่ที่เมนูกุ้งที่นำกุ้งแม่น้ำมาทำจึงมีความสด ใหม่ และตัวใหญ่สะใจอย่างแน่นอน

ช่างชุ่ยKUB MEUK

            “KUB MEUK” ร้านอาหารในช่างชุ่ยอีกร้านหนึ่งที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้ที่ชอบรับประทานปลาหมึกไม่ควรพลาดที่จะไปตามล่าของกินเด็ด ๆที่ร้านอาหารแห่งนี้ โดยจุดเด่นของร้านอาหารแห่งนี้คือการนำเอาปลาหมึก Size ใหญ่มาหมักด้วยสูตรลับเฉพาะ และย่างด้วยไฟที่กำลังพอดี จึงทำให้เนื้อของปลาหมึกนั้นไม่เหม็นคาว และมีความนุ่มกำลังดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีข้าวสวยร้อน ๆไว้รับประทานคู่กันกับปลาหมึกย่างสูตรพิเศษอีกด้วย

ช่างชุ่ยLounge Kai

            “Lounge Kai” เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ช่างชุ่ยที่ไม่ควรพลาดที่จะไปตามล่าของกินเด็ด ๆ โดยไก่ที่ร้านแห่งนี้มีความพิเศษเป็นอย่างมาก ด้วยการหมักไก่สูตรลับเฉพาะ และการทอดไก่อย่างมืออาชีพ จึงทำให้ไก่ทอดที่ร้านอาหารแห่งนี้มีความกรอบนอก และนุ่มในลงตัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว หากใครได้แวะมาท่องเที่ยวที่ช่างชุ่ยต้องไม่พลาดแวะมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ รับรองว่าคุณจะติดใจอย่างแน่นอน

ช่างชุ่ย

            “HUGKAN Café” ร้านอาหารเหนือที่ช่างชุ่ยที่คุณต้องมาลองสักครั้ง บอกเลยว่าไม่ว่าจะบรรยากาศหรืออาหารนั้นก็จะต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอน โดยเมนูแนะนำที่คุณไม่ควรพลาดคือ ไส้อั่ว homemade และลาบคั่วเหนือ ซึ่งรสชาตินั้นมีความใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิมเป็นอย่างมาก และมั่นใจได้กับความสะอาดของไส้อั่ว เพราะทางร้านอาหารทำเองทั้งหมดตั้งแต่ขั้นตอนแรก จึงมั่นใจได้ว่าจะสะอาด และปลอดสารกันบูดอย่างแน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด  และวิธีทำอาหาร อาหารเพื่อสุขภาพ ของเราได้ที่นี่

หมูสามชั้นทอดขมิ้น
อาหารทั่วไป แนะนำร้านอาหาร

หมูสามชั้นทอดขมิ้น เมนูที่ใครได้ลองแล้วจะติดใจถึงรสชาติความอร่อยชวนลิ้มลอง

          หมูสามชั้นทอดขมิ้น ขมิ้นสมุนไพรสีเหลืองช่วยให้ผิวขาว แต่หากกล่าวถึงเรื่องอาหารขมิ้นก็เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (ชะลอการแก่ก่อนวัยอันควร) อยู่เป็นจำนวนมาก เมนูขมิ้นส่วนใหญ่ก็มักเป็นใช้วัตถุดิบพวกอาหารทะเลมาทำ อย่าง ปลา หรือ ปู หรือ กุ้ง เป็นต้น แต่สำหรับวันนี้เราจะใช้วัตถุดิบเป็นหมูสามชั้นมาทอดกับขมิ้นกัน เราไปดูกันว่าหมูสามชั้นกับขมิ้นจะมาพบกันที่จุดไหน และจุดนั้นอร่อยชวนลิ้มรสอย่างไร

หมูสามชั้นทอดขมิ้น

วิธีทำและวัตถุดิบที่ใช้เมนู หมูสามชั้นทอดขมิ้น

1.หมูสามชั้นปริมาณครึ่งกิโลกรัม หรือ 500 กรัม

2.ขมิ้น 2 – 3 แง่ง

3.พริกไทยดำประมาณ 10 เม็ด

4.เม็ดผักชีประมาณ 10 เม็ด

5.ใบมะกรูด 5 – 10 ใบ

6.น้ำมันพืช

7.น้ำปลา 1/2 ช้อนชา

หมูสามชั้นทอดขมิ้น

อุปกรณ์

1.มีดสำหรับหั่นหมูสามชั้น

2.เขียง

3.จานสำหรับพักหมูสามชั้น

4.ครก

5.สาก

6.กระทะ

7.ตะหลิว

หมูสามชั้นทอดขมิ้น

กรรมวิธีการทำ

1.นำหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นหมูสามชั้นให้มีขนาดเล็กลง (ขนาดพอดีคำ) จากนั้นใส่จานพักที่เตรียมไว้

2.นำขมิ้น 2 – 3 แง่ง มาล้างให้สะอาดแล้วปอกเปลือกออก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในครก

3.จากนั้นใส่เม็ดพริกไทยดำ และเม็ดผักชีรวมไปกับขมิ้น แล้วทำการตำหยาบๆ

4.นำเครื่องปรุงในครกทั้งหมดมาขยำคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้

5.นำใบมะกรูดมาล้างน้ำให้สะอาด ตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาตัดเส้นกลางใบออก

6.นำกระทะมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย แล้วเอียงให้น้ำมันทั่วกระทะ เพื่อป้องกันเนื้อหมูสามชั้นติดกระทะ และที่ไม่ต้องใส่น้ำมันไปเยอะ เพราะจะมีน้ำมันจากหมูสามชั้นออกมาอีก

7.เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่ใส่หมูสามชั้นที่คลุกเคล้าเครื่องปรุงลงไป โดยเปิดไฟอ่อนๆ ก่อน ให้น้ำมันจากหมูสามชั้นออกมาเล็กน้อยจากนั้นเปิดไฟแรงขึ้น ทอดหมูสามชั้นไปจนใกล้สุก (ช่วงนี้กลิ่นของขมิ้นที่โดนความร้อนจะส่งกลิ่นหอมโชยชวนรับประทาน)

8.เติมใบมะกรูดที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะ

9.ใส่น้ำปลา 1/2 ช้อนชาลงไปในกระทะ ผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน เพียงเท่านี้เราก็จะได้เมนูหมูสามชั้นทอดขมิ้นที่ส่งกลิ่นหอมโชยทั้งหมู่บ้านกันเลยทีเดียว

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหาเด็ด และวิธีทำ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา

กาแฟ
อาหารทั่วไป

เมนูเบเกอรี่ยอดฮิต รสหวานอมขมสุดเข้มข้น สำหรับ คนรักกาแฟ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำเองได้

            คนรักกาแฟ คนส่วนมากชอบทานขนมปังและกาแฟก่อนไปทำงาน กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่มีรสขม ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ไม่ง่วง จะชงดื่มเดี่ยวหรือนำไปผสมอย่างอื่นเพื่อให้เกิดเมนูใหม่ ๆ ก็ได้ นอกจากนี้ ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ ก็เลือกใช้กาแฟเป็นตัวช่วยเพิ่มรสชาติให้กับขนมนั่นเอง เพื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานขนมที่รสหวานมากจนเกินไปนั่นเอง 3 เมนูที่นิยม มีดังนี้

คนรักกาแฟ

3 เมนูเบเกอรี่ที่เหมาะกับคอ คนรักกาแฟ มีวิธีการทำอย่างไร ? มาดูกัน

เค้กกาแฟ

            เค้กนั้นเป็นขนมที่มีหลากหลายรสชาติยอดนิยม ไม่ว่าจะรสช็อคโกแลต สตรอเบอรี่ ชาเขียว เป็นต้น การเลือกเครื่องดื่มชนิดนี้เข้ามาช่วย ความเข้มข้นของกาแฟในแต่ละร้านที่ใช้นั้นก็จะต่างกันออกไป ดังนั้น รสชาติความขมหรือหวานก็แตกต่างกันด้วย คุณก็สามารถทำขนมด้วยตนเองได้ เพียงผสมแป้ง น้ำตาล และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้ครีมสด น้ำตาลและผงกาแฟเพื่อทำครีมเค้ก ปาดครีมลงไปบนหน้าเค้กและตกแต่งให้สวยงาม ก็พร้อมรับประทาน

คนรักกาแฟ

พายกาแฟ

            ปกติแล้ว ขนมพายนั้นจะมีทั้งชั้นล่าง แป้งและไส้ของพาย เริ่มจากการการนำแครกเกอร์มาผสมเนยละลายแล้วนำมาบด ผสมแป้ง เกลือป่น น้ำตาลเข้าด้วยกัน ค่อยใส่น้ำเย็นจัด ให้แป้งนิ่ม จากนั้นก็นำมาแผ่ แบ่งส่วนให้เรียบร้อย จากไส้จากผงกาแฟ น้ำตาลและวิปครีม แต่งกลิ่นเล็กน้อยก็ได้ จากนั้นผสมเข้ากันแล้วใส่ลงในถาดพายที่เตรียมไว้ นำแป้งมาปิดหน้าขนม ใช้ส้อมกดริมขนมเพื่อปิดขอบให้สนิท เจาะบนหน้าขนม ให้อากาศระบายออก ก็ได้ขนมหอมหวานอมขมแล้ว

คนรักกาแฟ

ขนมปังกาแฟ

            อีกชนิดของเบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมและราคาหลากหลาย สามารถผสมกาแฟลงไปได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เป็นผงโรยตกแต่งหน้าขนมปัง ผสมกับเนื้อของขนมปัง เป็นต้น เหมาะสำหรับรับประทานกับนมและไอศกรีมด้วย

            เมนูขนมหวานผสมกาแฟที่แนะนำมานี้ เป็นเบเกอรี่ที่เหมาะกับคอกาแฟมากเลยทีเดียว คนรักกาแฟต้องติดใจแน่นอน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด และ อาหารเพื่อสุขภาพ วิธีทำอาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา

ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย
อาหารทั่วไป อาหารไทย

สำหรับวันนี้เราจะมานำเสนอเมนู ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำทานเองที่บ้านได้

            ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย ขึ้นชื่อว่าปลาหลายๆ คนคงคิดถึงความคาวตามมา หากจะประกอบอาหารก็ต้องหาวัตถุดิบสมุนไพรต่างๆ มากลบกลิ่นคาวปลา และอีกเรื่องที่ทำให้เมนูปลารับประทานได้ยาก โดยเฉพาะในเด็กนั่นก็คือก้างปลานั่นเอง (ที่อาจติดคอน้องๆ หนูๆ ได้) สำหรับวันนี้เราจะมานำเสนอเมนูที่สามารถแก้ไขปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดได้กัน เราไปเริ่มกันเลย

ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย

วัตถุดิบ

1.ปลายี่สก

2.ผักคึ่นช่าย 2 – 5 ต้น

3.ขิง 1 – 2 แง่ง (แง่งประมาณหัวแม่มือ)

4.แป้งสำหรับชุบปลาทอดกรอบ

5.น้ำมันพืช

6.กระเทียม 2 – 5 กลีบ

7.ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา

8.น้ำมันหอย 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

1.มีด

2.เขียง

3.กระทะ

4.ตะหลิว

5.จานสำหรับวางพักปลา

ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย

ขั้นตอนในการทำ ปลายี่สกผัดขิงคึ่นช่าย

กรรมวิธีการทำ

1.นำผักคึ่นช่ายมาล้างให้สะอาด ตั้งให้สะเด็ดน้ำสักครู่ แล้วหั่นตามขวางของลำต้น

2.นำขิงมาล้างให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกขิงด้วยมีด แล้วหั่นซอยเป็นเส้นๆ

3.นำปลายี่สกมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปชุบแป้ง (ส่วนนี้จะมีความชื้นรอบตัวปลาจากที่เราล้างปลา เรานำไปชุบแป้งแห้งๆ ได้เลย ถึงอย่างไรแป้งก็ติดตัวปลามาอย่างแน่นอน)

4.เอาปลายี่สกที่ชุบแป้งแล้วไปวางในกระทะ แล้วเติมน้ำมันพืชตั้งไฟให้ร้อน รอจนปลายี่สกชุบแป้งด้านที่หนึ่งสุก แล้วพลิกไปอีกด้าน (ควรทอดให้สุกทีละด้าน พลิกตัวปลาให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เนื้อปลาที่ยังไม่สุกแตกเป็นขุ้ย) ทอดปลายี่สกชุบแป้งให้สุกกรอบทั้งสองด้าน

5.แล้วเอาปลายี่สกชุบแป้งออกไปวางผึ่งไว้ให้เย็น

6.เมื่อปลายี่สกชุบแป้งเย็นลงหั่นออกเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดรับประทานได้สะดวก พร้อมกับแกะกางปลาไปด้วย (เผื่อเด็กๆ รับประทานด้วย ก้างปลาจะได้ไม่ติดคอเด็กๆ หรือผู้ใหญ่รับประทานเองก็จะได้รับประทานอย่างสะดวกไม่ต้องมาคอยเขี่ยก้างปลา)

7.เทน้ำมันออกจากกระทะ ให้ใช้กระทะนี้ต่อ

8.ปอกเปลือกและทุบกระเทียม

9.นำกระทะใส่น้ำมันพืชตั้งไฟ เมื่อน้ำมันพืชร้อน ใส่กระเทียมที่ทุบแล้วลงไป ทอดกระเทียมต่อจนหอม จากนั้นใส่ปลาที่เตรียมไว้ลงไป

10.ผัดคลุกเคล้าเล็กน้อย เพราะปลาสุกอยู่แล้ว

11.จากนั้นใส่ผักคึ่นช่ายที่เตรียมไว้ลงไป

12.เติมซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา และ น้ำมันหอย 1 ช้อนชาผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน

13.เติมขิงลงไปผัดคลุกเคล้าอีกสักครู่ ปิดไฟ ตัดลงจานที่จัดเตรียมไว้รับประทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งเมนูที่รับประทานปลายี่สกได้อย่างสะดวกแบบไม่กลัวก้างติดคอ

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ และวิธีทำอาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา

ขนมปังหน้าไข่ดาว
อาหารทั่วไป

เอาใจคนรักสุขภาพ ด้วยเมนู ขนมปังหน้าไข่ดาว ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

ขนมปังหน้าไข่ดาว เมนูเรียกพลังงานยามเช้า สำหรับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ ที่อยากกลายเป็นคนผอม ต้องเมนูนี้ ขนมปังหน้าไข่ดาว เมนูที่ให้คุณได้รับสารอาหารยามเช้าอย่างครบถ้วน เสริมสร้างสุขภาพและทำให้เราอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่ต้องอ้วน ซึ่งส่วนผสมต่าง ๆ ก็แถบไม่ต้องเตรียมอะไรให้วุ่นวาย แถมวิธีทำก็ยังแสนง่ายอีกตั่งหาก ซึ่งถ้าหากว่าใครคิดเมนูเพื่อสุขภาพไม่ออก หรือยังไม่รู้จะทำเมนูอะไรให้อิ่มท้องในยามเช้าก็อย่าลืมเมนู ขนมปังหน้าไข่ดาว เมนูนี้กันนะ

ขนมปังหน้าไข่ดาว

วิธีการทำ ขนมปังหน้าไข่ดาว ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์

เพราะเมนูนี้อุดมไปด้วยโปรตีนจากไข่ ให้คุณตื่นตัวแต่เช้าเต็ม ๆ พร้อมด้วยคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปขนมปัง ทำให้คุณไม่ต้องทานอะไรหนัก ๆ ตั้งแต่เช้า แต่ก็ยังดีต่อสุขภาพ และยังได้สารอาหารที่ครบถ้วนอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ง่าย แถมเครื่องมือในการทำอาหารเช้าเมนูนี้ยังไม่ต้องวุ่นวายกับการทำครัว เพราะเราจะใช้แค่ไมโครเวฟเพียงเครื่องเดียว ก็เรียบร้อย แถมยังสบาย สำหรับเช้า ๆ ที่เร่งรีบของทุกคนเลยทีเดียว ซึ่งถ้ารู้แล้วว่าเมนู ขนมปังหน้าไข่ดาว มีส่วนผสมอะไรบ้างตามมาจดสูตรและส่วนผสมกันได้เลย

ขนมปังหน้าไข่ดาว

ส่วนผสม ขนมปังหน้าไข่ดาว

ขนมปัง แนะนำให้เป็นขนมปังธัญพืชเพื่อวิตามีนต่าง ๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย 1-2 แผ่น

ไข่ไก่ 1 ฟอง หรอจำนวนที่คุณต้องการในมื้อเช้า

เครื่องเคียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แฮม ผัก สลัด หรือผมไม้ ก็สามารถเลือกได้ตามที่ตัวผู้ทำต้องการใส่ในเมนูนี้

วิธีทำ

นำขนมปังที่เราได้เตรียมเอาไว้ นำมาเจาะเป็นรู้ตรงกลางให้รูปทรงสี่เหลี่ยม

จากนั้นก็ค่อย ๆ ตอกไข่ลงไประหว่างกลางที่ของขนมปังที่เราได้เจาะรู้เอาไว้ข้างต้น

จากนั้นก็นำเขข้าไมโครเวฟ ประมาณ 4-5 นาทีด้วยไฟแรงปานกลาง รอจนขนมปังเริ่มสุกและไขตรงกลางเริ่มเซ็ตตัวขึ้น จากนั้นก็ยกขึ้นมาจัดในใส่ในจาก ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มโปรตีนก็สามารถนำเนื้อสัตว์หรือสิ่งต่าง ๆ ตามที่ตัวเองชอบลงไปผัดในกระทะให้สุดและนำขึ้นมาวางไว้ด้านบนพร้อมผักเครื่องเคียงได้เลย

 รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ และวิธีทำอาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา

อาหารอีสาน
อาหารทั่วไป อาหารไทย

อาหารอีสาน อาหารท้องถิ่นที่หลายคนชื่นชอบ สามารถทำทานเองที่บ้านได้ง่าย ๆ

            อาหารอีสาน เป็นอาหารที่อยู่ทางภาคตะวันออกฉียงเหนือของประเทศไทย สมัยก่อนที่จะถูกฝรั่งเศสนำฝั่งขวาของดินแดนแม่น้ำโขงไปเป็นเมืองขึ้น ดินแดนแถบนั้นเป็นอาณาจักรภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์กรุงสยามมาโดยตลอด เพราะฉนั้นศิลปวัฒนธรรม และประเพณีต่าง ๆ ก็อาจจะคล้ายคลึงเปรียบประหนึ่งเหมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้อง

ซึ่งอาหารหลาย ๆ อย่างของประเทศลาว ต่างก็ละม้ายคล้ายคลึงกับอาหารอีสานเป็นอันมาก ซึ่งอาหารอีสานได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพไร้ไขมัน รสชาติเผ็ดร้อน จัดจ้าน ทานกับข้าวเหนียว บางครั้งอาหารอีสานบางชนิด เช่น ส้มตำ ก็เป็นอาหารอีสานที่มีความเผ็ด สามารถทานเป็นอาหารเย็น และลดความอ้วนให้แก่สาว ๆ ได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนในการทำ อาหารอีสาน ง่าย ๆ ที่เราสามารถทำเองได้

            อาหารอีสานจานแรกที่ต้องการนำเสนอนั้นก็คือ “แกงอ่อม” เป็นแกงเผ็ดทางภาคอีสานที่มีผักเป็นส่วนประกอบ ส่วนโปรตีนนั้นสามารถใส่ได้ทั้งหมู ไก่ เนื้อ หรือปลา วิธีทำอาหารอีสานจานนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยาก เครื่องแกงที่ใส่ก็มี พริกสด พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง และข่า โขลกเข้าด้วยกัน ผัดใส่หม้อ เติมน้ำซุป ใส่เนื้อสัตว์ น้ำปลาร้า แล้วใส่ผักต่าง ๆ เช่นตะไคร้หั่นท่อน ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ ผักต่าง ๆ ที่ต้องการจะใส่แต่ที่ขาดไม่ได้คือผักชีลาว ปรุงรสใส่น้ำปลาร้าต้มสุกเพิ่มเติม น้ำปลา อาจจะใส่พริกสดเพิ่มความเผ็ด เมื่อเสร็จสรรพแล้วก็จัดเสิร์ฟได้เลย

อาหารอีสาน

            อาหารอีสานเมนูนี้เมื่อกล่าวถึงชื่อแล้วก็แทบจะไม่อยากทานเลยทีเดียวนั่นคือ “หมกขี้ปลา” ส่วนประกอบก็มีไม่มาก ได้แก่ ขี้ปลาสด พริกขี้หนูเม็ด ใบแมงลัก น้ำปลา และผงนัว (ผงชูรส) วิธีทำแค่เพียงนำส่วนประกอบทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วจัดใส่ใบตองห่อ ย่างกับไฟด้วยเตาถ่าน เมื่อสุกแล้วจัดเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียว อาจจะมีรสเผ็ดจากพริกขี้หนูเม็ด บางคนอาจฟังชื่อแล้วไม่อยากที่จะทาน แต่พอได้ทานแล้วอาจจะติดใจจนอยากที่จะทานอีกครั้งก็เป็นได้

อาหารอีสาน

            ถ้าจะถามว่ารู้จัก “กะปอม” ไหม หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จัก เพราะฉนั้นอาหารอีสานจานนี้จะยังไม่เฉลยว่า “กะปอม” คืออะไรในตอนนี้ แต่จะขอให้อ่านจนจบเสียก่อนถึงจะเฉลยในตอนท้าย อาหารอีสานจานนี้ชื่อ “ก้อยกะปอม” วิธีการทำนั้นก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถเลยคือนำกะปอมที่ได้มา จะถลกหนังหรือไม่ก็แล้วแต่ จากนั้นนำไปย่างแล้วสับให้ละเอียด ใส่พริก กระเทียม ต้นหอม สาระแหน่ ข้าวคั่ว คนให้เข้ากันแล้วใส่มะม่วงเปรี้ยวเฉาะเป็นเส้นเหมือนเส้นมะละกอที่จะทำส้มตำ

จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ผงนัว (ผงชูรส) ถ้าความเผ็ดยังไม่โดนใจ ก็เพิ่มด้วยพริกป่น ถ้าความเปรี้ยวยังไม่สาแก่ใจก็เติมน้ำมะนาว อาจจะใส่น้ำปลาร้าต้มสุกเพื่อความอร่อยอีกนิด ปรุงรสให้เผ็ดแซ่บและนัว ถ้ามีหมู่มีเพื่อนด้วยแล้วคงจะต้องมีไวท์วิสกี้ (เหล้าขาว) ก๊งด้วยแล้ว บอกเลยว่า “แซ่บ” ถึงตอนนี้แล้วคงจะตัองเฉลยแล้วว่ากะปอมก็คือ “กิ้งก่า” เป็นอย่างไรล่ะ อาหารอีสานแซ่บนัวถึงใจไหม

อาหารอีสาน

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ และ ก้อยขม สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดมานาน

ขนมเวลาดูหนัง
อาหารทั่วไป

ขนมเวลาดูหนังกลางแปลง ตามชนบท ที่ขาดไม่ได้ ไม่ซื้อไม่ได้จริง ๆ

หนังเร่ขายยา คืออะไร ถ้าลองถามเด็กสมัยปัจจุบันคงได้คำตอบเป็นภาษากายคือการส่ายหน้าเล็ก ๆ เป็นแน่แท้ แล้วคงถามอย่างงง ๆ ว่าคืออะไร หนังที่มีแต่โฆษณาขายยาใช่ไหม อย่าไปว่าเด็กสมัยปัจจุบันเลยแม้แต่เด็กรุ่น ๆ 20 ปีขึ้นไปที่อยู่ในเมืองบางคนก็อาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าคือ หนังกลางแปลง ก็คงถึงบางอ้อกันหลายต่อหลายคน

เพราะปัจจุบันหนังกลางแปลงค่อนข้างที่จะหายากแล้ว ถ้าไม่ต่างจังหวัดจริง ๆ ก็คงไม่ได้ดูแน่นอน และการไปดูหนังกลางแปลงนั้นสมัยก่อนของขบเคี้ยวให้ความเพลินเพลินไม่ได้มีป๊อบคอร์นหรือข้าวโพดคั่วเหมือนอย่างในโรงภาพยนตร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันขายหรอกนะ ลองไปติดตามกันดูกันว่า ขนมเวลาดูหนังกลางแปลง รู้จักอะไรบ้างไหม เพราะตอนนี้ขนมเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ผันตัวไปอยู่ตามตลาดนัด หรือตลาดสดไปกันหมดแล้ว

มาลองดูกันดีกว่าว่า ขนมเวลาดูหนังกลางแปลง มีสิ่งที่คุณเคยกินไหม..??

ขนมลูกตุ้มหรือขนมโป๊งเหน่ง 

ขนมเวลาดูหนังกลางแปลง

หนังกลางแปลงจะขาดไม่ได้เลยกับขนมชนิดนี้ เรียกว่าเป็นขนมที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เลยที่เดียว เป็นการนำไส้กรอกมาชุบแป้งแล้วทอด แต่ทำการทอดไปชุบไหมสัก3 – 4 ชั้น รสชาติก็ออกจะเค็ม ๆ หวาน ๆ มัน ทานไปดูหนังไปก็เพลินไปอีกแบบ ราคาในสมัยก่อนนั้นก็ลูกละ 1 บาท แล้วเริ่มพัฒนามาเป็น 2 บาท 5 บาท ปัจจุบันอันละ 10 บาทหรือเปล่าก็ไม่อาจที่จะทราบได้

ส่วนไส้กรอกแกนกลางนั้น เด็กบางคงถ้าไม่ใช่ไส้กรอกสีแดงละก็ไม่โปรดเลยทีเดียว ก็ต้องลุ้นกันไปว่าจะเป็นไส้กรอกสีอะไร พอได้ไส้กรอกสีแดงแล้วล่ะก็ เหมือนท่านเจ้าพิภพอย่างไรอย่างนั้นกร่างกับเพื่อนไปทั่วว่าตัวเองได้ไส้กรอกสีแดง ส่วนลักษณะเด่นของขนมชนิดนี้คือจะมีไม้เสียบไส้กรอกก่อนนำไปชุบแป้งทอด คงจะเดาได้ไม่ยากก็ขนมลูกตุ้มหรือขนมโป๊งเหน่งนั่นเอง

ขนมฝักบัว 

ขนมเวลาดูหนัง

อีกประเภทชนิดของขนมที่เจอที่หนังกลางแปลงบ่อย ๆ ในมัยก่อน มักจะนำไปทอดในน้ำมัน ตอนที่ทอดเสร็จใหม่ ๆ ไม่ได้ใส่สีเขียวเหมือนปัจจุบันนี้ ก็จะออกเป็นสีขาวครีม ๆ มองไปทีไรเหมือนกับไข่ดาวทุกทีขนมชนิดนี้เรียกว่า “ขนมฝักบัว” ด้วยรูปทรงเหมือนกับไข่ดาวยิ่งนักทำไมไม่เรียกว่าขนมไข่ดาวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ไม่รู้

ความอร่อยของขนมนี้อยู่ตรงที่ความกรอบรอบนอก และความนุ่มด้านใน ราคาสมัยก่อนอันละบาท 2 บาทก็ทานอร่อยแล้ว ปัจจุบันไม่มีหนังกลางแปลงให้ดูไปด้วยทานไปด้วย ราคาเพิ่มเป็น 3 อัน 20 เสียแล้วกระมัง

ขนมกระบองทอด หรือ ตะบองทอด 

ดูหนังกลางแปลง

สำหรับกระบองทอดหรือตะบองทอดนี้ นับว่าเป็นขนมที่มีขายแถบภาคเหนือ เป็นของคู่กับหนังกลางแปลงทางภาคเหนือเป็นอันมากขนมกระบองทอดเมืองลับแลยิ่งมีชื่อถึงความอร่อย โดยปกติแล้วมักจะใช้ฟักทองหั่นเป็นเส้น ๆ แล้วชุบแป้งทอดเป็นก่อน รสชาติจะมีความเผ็ดเล็กน้อยของพริกเครื่องแกง สมัยก่อนก่อนหนังกลางแปลงฉาย ต้องรีบไปซื้อทานสัก 5 บาทก่อน เพราะถ้าหายแล้วแล้วจะไม่อร่อย พอหนังฉายไปคนทอดติดหนังไปด้วยเริ่มจะไม่ทำของขาดซะอย่างนั้น ก็ว่ากันไป และนี่ก็เป็นของทานเล่นเล็ก ๆ น้อย ที่เวลาดูหนังกลางแปลงไปแล้วก็ทานไปเพื่อให้ได้อรรถรสของการดูหนัง  

รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องไม่ผิดหวังกับทุกเมนูเด็ด อาหารเด็ด อาหารเพื่อสุขภาพ และวิธีทำอาหารที่สุดจะง่ายไปกับเรา